เผยแชตไลน์ข้าราชการบำนาญครวญ ลูกสะใภ้มองเป็นส่วนเกิน บ่นเรื่องค่าข้าว ค่าน้ำไฟบ่อยจนอึดอัด เหตุยกบ้านหลักสิบล้านให้ลูกชาย พอลูกชายตายแล้วสะใภ้มีสามีใหม่ จะไปปลูกบ้านใหม่ก็ไม่ได้เพราะได้แค่เดือนละ 2 หมื่น อยากได้บ้านให้อยู่รอวันตายตามบ้านนอก หวั่นตายไปคู่ชีวิตไม่มีข้าวกิน
วันนี้ (23 ก.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ได้มีชาวเน็ตส่งต่อข้อความแชตไลน์ที่ระบุว่าเป็นข้าราชการบำนาญรายหนึ่ง วัย 78 ปี มีภรรยาวัย 75 ปี ประสบปัญหาถูกลูกสะใภ้เลือกปฏิบัติ เหตุเพราะก่อนหน้านี้โอนบ้านมูลค่าเกิน 10 ล้านบาทให้ลูกชาย แล้วลูกชายเสียชีวิต บ้านจึงตกเป็นของลูกสะใภ้ แล้วต่อมาลูกสะใภ้มีสามีใหม่ ครั้นจะสร้างบ้านใหม่ก็ไม่ได้เพราะเงินเดือนบำนาญได้รับเดือนละ 20,000 บาทเท่านั้น หลังเจอโฆษณาขายที่ดินจึงอยากให้ทำสถานที่ให้ผู้สูงอายุอยู่รอวันตายในพื้นที่ชนบท เพราะเกรงว่าภรรยาของตนจะถึงขั้นถูกลูกสะใภ้ไม่ให้ข้าวกินเพราะไม่มีบำนาญ ความว่า
“ผม 78 ปี ภรรยา 75 ปี ลูกชายแต่งงานมีหลานสาว 1 คน ตอนจะเกษียณผมกับภรรยาโอนบ้านให้ลูก (ราคาเกินสิบล้าน) ต่อมาลูกชายเสีย บ้านตกเป็นของลูกสะใภ้ ผมกลายเป็นผู้อาศัย ลูกสะใภ้มีสามีใหม่ ผมและภรรยาเป็นส่วนเกิน ลูกสะใภ้บ่นเรื่องค่าข้าว ค่าน้ำไฟบ่อยจนผมอึดอัด บำนาญผมเดือนละสองหมื่นกว่า ไปสร้างบ้านใหม่ไม่ได้ เวลาของผมผ่านไปแล้ว อ่านโฆษณาอาจารย์ที่ดินกบินทร์ อาจารย์มีหัวและใจทางนี้ อยากให้อาจารย์ทำสถานที่ให้คนแก่อย่างพวกผมอยู่รอวันตายตามบ้านนอก ที่มีน้ำไฟมีบ้านเล็กๆ มีอาหารถูก ปลูกพืชผัก เลี้ยงไก่ไข่ กินรอวันตาย เป็นที่ของเราเอง ไม่ต้องฟังเสียงบ่น ผมกับภรรยามีทุกข์ ถ้าผมตายก่อน ภรรยาอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว เขาไม่ให้ข้าวกินแน่ (ภรรยาไม่มีบำนาญ)”
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวพยายามค้นหาต้นตอของข้อความ รวมทั้งโครงการ “ที่ดินกบินทร์” ในเบื้องต้น แต่ไม่สามารถค้นหาได้ ข้อความนี้มีชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก แนะว่าให้ฟ้องศาลเพื่อขอให้จดทะเบียนบ้านคืนแก่เจ้าของเดิม บ้างก็บอกว่าเป็นอุทาหรณ์ว่าอย่าเพิ่งรีบโอนจนกว่าจะตาย ถึงจะยกให้เป็นมรดก เนื่องจากหากยกให้ในขณะที่ตนเองมีชีวิตจะกลายเป็นสินสมรส จึงควรรอให้เป็นมรดก บ้านหลังนั้นจะเป็นสินเดิม ลูกสะใภ้ไม่มีทางไล่ออกจากบ้านได้
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่