สาวใหญ่วัย 45 ปี เดินหน้าร้องศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดนนทบุรี ทวงสิทธิภรรยาหลังสามีหอบเงินถูกหวย 12 ล้านบาท เก็บเสื้อผ้าหลบหนี ทิ้งเงินไว้ให้เพียง 400,000 บาท
วันนี้ (1 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี น.ส.ณัฐนันท์ หรือ แอ๊ด สิริสุขธนานนท์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89/234 ถ.สแกงาม แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน จ.กรุงเทพฯ พร้อมด้วย ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางเข้ายื่นหนังสือกับ นายธณกร หอมชื่น ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนนทบุรี เบื้องต้น เพื่อขอความช่วยเหลือ กรณี น.ส.ณัฐนันท์ หรือ แอ๊ด สิริสุขธนานนท์ ให้ช่วยติดตามเงินที่ได้จากการถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 ก.พ.63 เลข 589227 เป็นจำนวนเงิน 12 ล้านบาท แล้วถูกสามี คือ นายวรายุ หรือ แป๊ะ สุขสวัสดิ์ อายุ 51 ปี นำไปขึ้นรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ก่อนทิ้งเงินจากการถูกรางวัลที่ 1 ไว้ให้เพียง 400,000 บาท แล้วเก็บเสื้อผ้าหนีไปหน้าตาเฉย จนกลายเป็นข่าวโด่งดังไปแล้วก่อนหน้านี้
นางสาวณัฐนันท์ กล่าวว่า วันนี้ (1 มิ.ย.) ตนพร้อมด้วยทนายรณรงค์ ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้เร่งติดตามตัวนายวรายุ มาไกล่เกลี่ยเกี่ยวกับข้อพิพาทดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมา ตนคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะตนอยู่กินกันฉันสามีภรรยากับนายวรายุมานานกว่า 2 ปี แล้ว ส่วนสาเหตุที่ต้องมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดนนทบุรี เพราะว่า นายวรายุ นำลอตเตอรีรางวัลที่ 1 มาขึ้นที่กองสลาก ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี
ทางด้าน นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า ที่เดินทางมาที่ศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดนนทบุรี เพราะว่าทาง น.ส.ณัฐนันท์ ไม่ต้องการให้เป็นคดีความ จึงให้ทางศูนย์ดำรงธรรมไกล่เกลี่ยให้ และจากนี้อีก 15 วัน ทางศูนย์ดำรงธรรมจะเรียกทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ยกัน โดยเคสนี้จะมีอัยการเข้ามาร่วมไกล่เกลี่ยด้วย ไม่ใช่มีแต่เฉพาะเจ้าหน้าที่ของศูนย์ดำรงธรรมเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าหาก น.ส.ณัฐนันท์ ยืนยันที่จะดำเนินคดี ก็จะเข้าข่ายในเรื่องของยักยอกทรัพย์ เพราะว่าเงินที่ใช้ในการซื้อลอตเตอรีเป็นเงินของฝ่ายหญิง อีกอย่างทั้งคู่อยู่กินกันมากว่า 2 ปีแล้ว แม้จะไม่ใช่สินสมรส แต่มันคือกรรมสิทธิ์ร่วม ที่สองสามีภรรยาหาร่วมกันมา จะเบียดบังเอาไว้แต่เพียงผู้เดียวมันจะไม่ถูกกฎหมายเท่าไหร่ แต่ถ้าไปถึงขั้นตอนนั้น มันก็จะคุยกันลำบาก จึงให้ศูนย์ดำรงธรรมช่วยไกล่เกลี่ยและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย