xs
xsm
sm
md
lg

เปิดเมนูในตำนาน 84 ปี "สีฟ้า" ที่ควรค่าแก่การลอง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ถ้าถามถึงธุรกิจร้านอาหารที่อยู่เคียงคู่คนกรุงเทพฯ มาอย่างยาวนาน แน่นอนว่าชื่อของ “ร้านสีฟ้า” ต้องเป็นที่นึกถึงลำดับต้นๆ ของใครหลายคน อาจด้วยสโลแกนอย่าง “อย่าลืม สีฟ้า เวลาหิว” ที่ฮิตติดหู บางคนอาจจะนึกถึง "ข้าวหน้าไก่ราชวงศ์ไข่ดาว" หรือ "บะหมี่แห้งอัศวิน" ที่เป็นซิกเนเจอร์ รวมทั้งอาหารไทย-จีนนับร้อยเมนู แต่หลายคนอาจไม่ทราบได้ว่า ร้านอาหารแห่งนี้มีอายุมากว่า 84 ปีแล้ว

ร้านสีฟ้า เริ่มต้นเมื่อ พ.ศ. 2479 โดย "เปล่ง รัชไชยบุญ" (เงี๊ยบ แซ่โล้ว) หนุ่มชาวจีนยุคเสื่อผืนหมอนใบเข้ามาดิ้นรนทำงานในเมืองไทย จนวันหนึ่งได้ร่วมมือกับเพื่อนอีกคน ก่อตั้งร้านอาหารห้องเดี่ยวในอาคารเล็กๆ ในย่านราชวงศ์ ขายไอศกรีม , กาแฟ และ ผลไม้แช่แข็ง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจนต้องขยายร้านเพิ่ม และเมื่อร้านอาหารใกล้เคียงปิดตัวลง จึงได้เริ่มขายอาหารคาวด้วยการจ้างกุ๊กมาคิดสูตรอาหารจีน และเนื่องจากร้านอยู่ในย่านคนชั้นสูงที่เป็นเจ้าของตึก ทำให้ลูกค้าช่วงนั้นเป็นกลุ่มคนมีฐานะดี ทั้งขับรถมา บ้างก็นั่งทานในรถ โดยมีถาดอาหารติดรถเสิร์ฟเป็นภาพที่คุ้นตาของคนแถวนั้น ต่อมาได้ขยายร้าน พร้อมทาสีผนังเป็นสีฟ้า จึงทำให้คนที่ผ่านไปมาเรียกที่นี่ว่า ร้าน “สีฟ้า”


“กร รัชไชยบุญ” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สีฟ้า กรุ๊ป จำกัด ทายาทรุ่นที่ 3 ผู้สานต่อตำนานในช่วงแห่งความท้าทายในธุรกิจร้านอาหารยอมรับว่า การแข่งขันที่สูง สถานการณ์โรคระบาด เศรษฐกิจ รวมไปถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วตลอดเวลา ทำให้ต้องอาศัยมุมมอง วิสัยทัศน์ การวางแผนงาน และประสบการณ์ นำมาพัฒนา และปรับตัวให้เข้ากับทุกเหตุการณ์ ภายใต้เสน่ห์การทำงานแบบ Family Business

โดยจุดเด่นของ "สีฟ้า" คือ การรักษาคุณภาพและรสชาติของอาหารแบบดั้งเดิม ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ และคิดค้นผลิตเอง เช่น เส้นบะหมี่ , เป็ดย่าง , ลูกชิ้นนานาชนิด , น้ำพริกแกง , ขนมจีน , ปลากุเลาเค็ม , น้ำจิ้มบ๊วยกอ , จิ๊กโฉ่ , ซาลาเปา เป็นต้น เผื่อผลิตเป็นเมนูยอดนิยมอย่าง บะหมี่แห้งราชวงศ์ , ขนมจีบ , หมูสะเต๊ะ , เป็ดย่าง , ข้าวหน้าไก่ราชวงศ์ไข่ดาว , อีหมี่ , ตำลึงผัดหมูสับ , แกงพริกขี้หนูเนื้อน่อง , เมนูอาหารหม้อดินต่างๆ เป็นต้น

และที่ขาดไม่ได้คือไอศกรีม ที่มีมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกทั้งรส วานิลลา , กาแฟ และช็อกโกแลต ต่อมาจึงเริ่มทำไอศกรีมผลไม้ เพราะคุณแม่อรุณศรี รัชไชยบุญ ผู้ก่อตั้งร้าน เชี่ยวชาญเรื่องผลไม้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะทุเรียน สีฟ้าจึงเป็นเจ้าแรกๆ ที่เสิร์ฟ "ไอศกรีมทุเรียน" ในไทย ทั้งปั่นไอศกรีมเองจนพัฒนาเป็นกรรมวิธีการผลิตที่ได้มาตรฐานจากครัวกลาง

นอกจากนี้ยังใช้ ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ปลูกด้วยวิธีธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี โดยกลุ่มเกษตรกร จ.สุรินทร์ หุงเสิร์ฟด้วย จนวันนี้ เรารู้ว่าทำอย่างไรเมนูนี้จึงจะดีที่สุด และพยายามพัฒนาอยู่เสมอ เพื่อปรุงจานอร่อย และไม่เคยหยุดพัฒนาทักษะของพนักงาน ทั้งการบริการ , จัดส่ง และ พนักงานครัว ซึ่งเปิดโอกาสให้สร้างสรรค์เมนูใหม่ ภายใต้เอกลักษณ์ของตำรับอาหาร

โดยปัจจุบันจากร้านสีฟ้า ได้กลายมาเป็น "สีฟ้า กรุ๊ป" (SEE FAH Group) ประกอบด้วย 1. SEE FAH Restaurant บริหารจัดการร้าน 19 สาขา พร้อมทั้งบริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ 2. SEE FAH Lumpini บริหารจัดการอาหารและเครื่องดื่ม ให้กับ RBSC Polo Club , โรงแรมแมนดาริน ในนามห้องอาหารครัวหลวง และกลุ่มโรงแรม Center Point และ Grand Center Point 8 แห่ง ในกรุงเทพฯ และพัทยา ในนาม Blue Spice และ 3. SEE FAH Food โรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนหนึ่งส่งให้กับบริษัทในเครือกลุ่ม สีฟ้า และเบเกอรี่ ตลอดจนผลิตอาหาร Frozen ส่งให้กับสายการบิน Air Asia


ซึ่งหลายๆ เมนูของร้าน ต่างก็มีที่มาอย่างยาวนานไม่แพ้กัน ตั้งแต่ "ข้าวหน้าไก่ราชวงศ์ไข่ดาว" ที่ได้สูตรซอสหน้าไก่ตำรับไหหลำ จาก "โกกุ๊ก" พ่อครัวคู่บุญของร้าน จนสร้างชื่อให้สีฟ้าตั้งแต่อยู่ถนนราชวงศ์ ที่มีสูตรลับจากเจียวต้นหอม , รากผักชี , กระเทียมไทย จนน้ำมันหอม สาดเหล้าจีนใส่กระทะร้อนๆ ให้พอได้กลิ่น แล้วนำเนื้อน่องและสะโพกไก่ลงผัดพร้อมเห็ดฟาง เหยาะด้วยซีอิ๊วดำจนสีเข้มดูน่ากิน ปรุงรสแบบที่รุ่นปู่ย่าชอบ ตักราดบนข้าวสวย โรยกุนเชียงบางกรอบจากร้านเก่าแก่ในเยาวราช ปิดท้ายด้วยไข่ดาวกรอบๆ แล้วเหยาะซอสปรุงรสแม็กกี้ฝาแดงอีกสักหน่อย แค่คิดก็อร่อยแล้ว


"บะหมี่แห้งราชวงศ์" อีกหนึ่งชามขวัญใจลูกค้ามา 80 กว่าปี ที่ใช้เส้นบะหมี่ทำเองจนสีเหลืองทองเพราะใช้ไข่เป็ดเยอะเป็นพิเศษ ลงไปลวกแล้วคลุกซีอิ๊วขาวและน้ำมันกระเทียมเจียวพอหอม โรยตั้งฉ่ายปรุงรส ตามด้วยลูกชิ้นปลาทำเองที่ใช้เพียงปลาทะเลสดๆ และเกลือ นวดจนเนียน ปั้นด้วยมือ แล้วยังมีลูกชิ้นกุ้ง ฮื่อก๊วย เกี๊ยวปลา เรียงรายเต็มถ้วยตามสูตรบะหมี่แห้ง


"บะหมี่แห้งอัศวิน" เมนูบะหมี่แห้งคู่บุญอายุ 80 กว่าปี ที่มีเครื่องแน่นทั้งลูกชิ้นกุ้ง , ลูกชิ้นปลา , เกี๊ยวปลา , ฮื่อก๊วย , หมูแดง , หมูหวาน , เซี่ยงจี๊ , เนื้อไก่ลวก และกุ้งทะเล ซึ่งชื่อ "อัศวิน" นั่นมาจากเครื่องหมายยศของนายตำรวจชั้นอัศวินแหวนเพชร ที่เป็นลูกค้าประจำสมัยอยู่ถนนราชวงศ์ ผู้ชื่นชอบเมนูที่รวมสารพัดไว้ในชามเดียว


"เป็ดย่าง" ตำรับ 8 ทศวรรษ ที่มาพร้อมน้ำจิ้มเป็ด แตงกวาดองและขิงดองรสเปรี้ยวหวาน จัดเป็นอีกเมนูที่ประทับใจมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ด้วยการย่างจนหนังบางกรอบ เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ ราดด้วยน้ำราดเป็ดตำรับแต้จิ๋ว ที่หอมเข้มข้นด้วยเต้าเจี้ยวคุณภาพดีและเครื่องพะโล้


"ขนมจีบ" อีกเมนูเก่าแก่ตั้งแต่อยู่ถนนราชวงศ์ ที่ใช้เนื้อหมูและกุ้งคัดพิเศษ ปรุงกับหน่อไม้ ต้นหอม และเครื่องเทศ โดยใช้แป้งขนมจีบที่ทำมาเฉพาะจนได้แผ่นบางนุ่ม ทุกลูกถูกปั้นด้วยมือที่ร้าน นึ่งสดใหม่เสิร์ฟกับน้ำจิ้มที่ปรุงขึ้นเฉพาะรสเปรี้ยวหวานเค็มพอเหมาะ ทานพร้อมกันกับกระเทียมเจียว ผักชีและผักกาดหอม จะอร่อยมาก


"ขนมเบื้องญวน" เมนูที่ใช้ทักษะของพ่อครัวอย่างยิ่ง เพราะต้องฝึกทำเป็นร้อยครั้งกว่าจะได้แป้งกรอบบาง เนื้อละเอียด ต้องรู้จังหวะไฟ รู้ใจกระทะเหล็ก จนได้แป้งห่อสีเหลืองทองแล้วก็ปรุงไส้ด้วยกุ้ง , มะพร้าว , หมูสับ , ถั่วลิสง , ถั่วงอก และเต้าหู้เหลือง ทานคู่กับน้ำอาจาดแตงกวารับรองอร่อย


ปิดท้ายด้วย "ไอศกรีมทุเรียนเยลลี่" อีกเมนูที่ไม่ควรพลาด เพราะร้านนี้คือเจ้าแรกๆ ที่ผลิต "ไอศกรีมทุเรียน" ขาย ซึ่งได้สืบทอดความรู้การคัดทุเรียนพันธุ์ดีและทำของหวานให้อร่อย จนคงกลิ่นรสทุเรียนเข้มข้นเต็มเนื้อผลไม้ มาจับคู่กับเยลลี่สีแดงเนื้อหนึบ จนเป็นของหวานปิดท้ายมื้อ

ซึ่งตอนนี้ "สีฟ้า" ก็จัดโปรโมชั่น วันสุข สีฟ้า ฉลอง 84 ปี ด้วยเมนูบะหมี่ 7 เมนู ได้แก่ บะหมี่แห้งราชวงศ์ , บะหมี่แห้งอัศวิน , บะหมี่แห้งเป็ดย่างสีฟ้า , บะหมี่แห้งไก่ซอสเหล้าแดง , บะหมี่กุ้งสีฟ้า , โกยซีหมี่ และ อีหมี่ ในราคา 84 บาท ทุกวันศุกร์ จนถึง 31 ก.ค.นี้


กำลังโหลดความคิดเห็น