วันนี้ (18 ก.ค.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” เกี่ยวกับการที่นายธนาธรได้ให้สัมภาษณ์ว่าจะไม่ร่วมชุมนุมในวันนี้ กลัวโดนเชื่อมโยงว่าอยู่เบื้องหลังกลุ่มดังกล่าว
“ผมอ่านข่าวนี้แล้วไม่สบายใจ พอดีมีชาวบ้านส่งมาให้ที่ข่าวนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ บอกว่าจะไม่ร่วมชุมนุมกับกลุ่มนักศึกษาในช่วงเย็นวันนี้เพราะหวั่นถูกโยงอยู่เบื้องหลังนั้น ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วไม่น่าเชื่อว่านายธนาธรจะเรียกตัวเองว่าเป็นคนรุ่นใหม่ แต่กลับตัวทำการเมืองแบบคนรุ่นเก่า สุภาษิตโบราณบอกว่า หน้าซื่อใจคด ปากอย่างใจอย่าง ผมขอหยิบยกประเด็นมาให้เห็นว่าตรงกับสุภาษิตอย่างไร ขอยกกรณีชายหนุ่มวัยรุ่น 2 คน ชูป้ายไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจชาว จ.ระยอง เพื่อมุ่งหวังดิสเครดิตรัฐบาลทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเดือดร้อน ตามที่มีสื่อโซเชียลนำเสนอไปแล้ว และอีกกลุ่มหนึ่งที่มายื่นเรื่องที่ศูนย์ร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล พร้อมโจมตีรัฐบาลให้ร้ายนายกรัฐมนตรี ซึ่งประชาชนทั่วไปทราบดีอยู่แล้วว่าคนที่เดินทางมายื่นเรื่องร้องทุกข์นั้นเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ทั้ง 2 เหตุการณ์นั้นคงปฏิเสธไม่ได้ว่าอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่จะไม่มีส่วนรู้เห็น หรือหวยจะมาออกที่หัวหน้าพรรคก็อาจจะเป็นไปได้”
นายสามารถกล่าวอีกว่า นายธนาธรเคยได้ให้สัมภาษณ์ว่านายกรัฐมนตรีอย่าลงพื้นที่ จ.ระยอง เนื่องจากชาวบ้านไม่ต้อนรับแต่ปรากฎว่ามีวัยรุ่น 2 คนมาชูป้ายไล่ พล.อ.ประยุทธ์ เหตุการณ์เหล่านี้ชาวบ้านรู้ทันหมดแล้วเพราะเห็นการเชื่อมโยงของวัยรุ่นทั้ง 2 รายที่อ้างว่าเป็นตัวแทนคนระยองกับกลุ่มบุคคลทางการเมืองที่เชื่อมโยงถึงพรรคการเมืองในอดีตที่ถูกยุบไปแล้ว ตนจึงอยากฝากเตือนสตินายธนาธรว่าให้รู้จักสิทธิและหน้าที่ของตนเอง โดยวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยุติตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี ซึ่งในอดีตนักการเมืองหลายท่านพอโดนตัดสิทธิก็หันไปทำอาชีพอื่น เช่น ไปสอนหนังสือ ทำทีมฟุตบอล ทำธุรกิจส่วนตัว แต่คณะก้าวหน้าที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปแล้วกลับมาเดินเกมนอกสภา ส่วนในสภาก็เอาคนของตัวเองพูดให้ร้ายรัฐบาลในทุกเรื่อง ค้านทุกเรื่อง
“ผมอยากให้นายธนาธรช่วงถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปอยู่สหรัฐอเมริกาเพื่อได้ศึกษาความรู้และความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงเพื่อทำประโยชน์ให้กับประชาชน และประเทศชาติ ซึ่งสหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นอันดับ 1 ของโลก และวันนี้สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 77,638 ราย ทำให้สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อสะสมสูงถึง 3,770,012 ราย ถือว่ามากที่สุดในโลก มีผู้เสียชีวิต 142,064 แต่ไม่เห็นมีนักการเมืองฝ่ายค้านหรือประชาชนออกมาขับไล่ประธานาธิบดีของประเทศสหรัฐอเมริกาเลย กลับกัน พล.อ.ประยุทธ์ มีความตั้งใจในการแก้ปัญหา โรคระบาดดังกล่าวจนเป็นที่ประจักษ์ทั่วโลก การท่องเที่ยวในประเทศเริ่มมีคนลงทะเบียน “เราเที่ยวด้วยกัน” แล้ว 3.5 ล้านคน บรรยากาศของการท่องเที่ยวในประเทศเริ่มกลับมาคึกคัก เศรษฐกิจของประเทศกำลังจะฟื้นตัว แต่กลับถูกคนกลุ่มเดิมมาไล่ ทั้งนี้ ผมได้รับการบอกกล่าวจากชาวบ้านว่าพร้อมให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีเดินหน้าทำงานต่อเพื่อประชาชน และยกเหตุการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในต่างประเทศก็ไม่มีม็อบมาไล่รัฐบาลเลย”