xs
xsm
sm
md
lg

“หมอมนูญ” ยกเรื่องลดการถ่ายทอดเชื้อ HIV แม่สู่ลูก จากองค์การอนามัยโลก ย้ำ ไทยไม่จำเป็นต้องทำตาม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายแพทย์ มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ประจำ รพ.วิชัยยุทธ อดีตนายกสมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความเผยประเทศไทยไม่จำเป็นต้องทำตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ทุกเรื่อง ยกกรณี “เรื่องลดการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีเอดส์จากแม่สู่ลูก” เป็นบทเรียน

วันนี้ (16 ก.ค.) เพจ “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” หรือ นายแพทย์ มนูญ ลีเชวงวงศ์ เป็นหัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และเป็นอดีตนายกสมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความเผยว่าประเทศไทยไม่จำเป็นต้องทำตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ทุกเรื่อง เพราะบางปัญหาคนไทยเท่านั้นที่รู้ โดยผู้โพสต์ระบุว่า

“คนไทยส่วนใหญ่คิดว่า คำแนะนำจากองค์การอนามัยโลกต้องน่าเชื่อถือ เพราะมีผู้เชี่ยวชาญระดับโลกคอยกลั่นกรองการออกคำแนะนำแต่ละเรื่อง ตั้งแต่มีโรคไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลก เราได้เห็นคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกที่ล่าช้า กลับไปกลับมา คนไทยจึงเริ่มขาดความเชื่อถือองค์การอนามัยโลก

ผมขอยกตัวอย่างอีก 1 เรื่องของคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลก เรื่อง “ลดการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีเอดส์จากแม่สู่ลูก” สำหรับประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างประเทศไทย เมื่อ 12 ปีที่แล้ว องค์การอนามัยโลกแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อเอชไอวี ที่ยังไม่เข้าข่ายกินยาต้านไวรัสเอชไอวี 3 ขนานเนื่องจากระดับเม็ดเลือดขาว CD4 ยังสูงอยู่ ให้กินยาต้านไวรัสเพียง 1 ขนานคือ AZT เริ่มที่อายุครรภ์ 28 สัปดาห์ ร่วมกับยา nevirapine กินครั้งเดียวเมื่อเจ็บครรภ์คลอด การทำเช่นนี้ มีข้อดีอย่างเดียว คือประหยัดเงินงบประมาณค่ายา แต่ไม่คุ้มค่ากับผลเสียที่ตามมา การติดเชื้อจากแม่สู่ลูกลดลงเหลือร้อยละ 4-5 ยังไม่ดี สู้กินยา 3 ขนานไม่ได้ มิหนำซ้ำทำให้แม่และเด็กดื้อยา nevirapine ซึ่งเป็นยาหลักในการรักษาระยะยาว

แพทย์ไทยทั้งกุมารแพทย์ และอายุรแพทย์รักษาโรคเอดส์ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับคำแนะนำนี้ ผมในฐานะนายกสมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทยในช่วงนั้น ร่วมกับศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เรียกร้องให้กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก โดยให้ใช้ยาต้านไวรัสแบบสูตร 3 ขนานในหญิงตั้งครรภ์ทุกคนซึ่งจะทำให้การติดเชื้อจากแม่สู่ลูกลดลงได้อีก และลดโอกาสการดื้อยาของแม่และลูก (ดูโปสเตอร์) ผมต้องเข้าประชุมนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ยอมทำตาม ในปี พ.ศ.2553 ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศแรกๆ ที่กำลังพัฒนา ที่ได้นำยาสูตร 3 ขนานมาใช้เป็นนโยบายประเทศ โดยทำล้ำหน้าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกในขณะนั้น

จากการดำเนินนโยบายให้ใช้ยาสูตร 3 ขนานกับหญิงตั้งครรภ์ทุกคนในช่วงตั้งครรภ์ รวมทั้งให้แม่กินยาต่อเนื่องหลังคลอดไปตลอดชีวิต ร่วมกับให้ยาป้องกันทารก และให้นมผงฟรีกับทารกจนถึงอายุ 18 เดือน ทำให้อัตราการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกลดลงอย่างรวดเร็วจนเหลือ 1.9% ในปี พ.ศ. 2559 นำมาซึ่งความสำเร็จในการได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกว่าประเทศไทยสามารถยุติปัญหาการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกได้

เราได้เห็นอีก 1 บทเรียนที่ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องทำตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกทุกเรื่อง เราต้องใช้วิจารณญาณของเราเอง ใครจะรู้ปัญหาของคนไทยเท่ากับคนไทยด้วยกัน”




กำลังโหลดความคิดเห็น