นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์จากโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ระบุข้อความ เผย การสวมหน้ากากอนามัย เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโควิด-19 ดีกว่าการล้างมือ หรือเว้นระยะห่างทางสังคม เนื่องจากเชื้อสามารถผ่านไปในถุงลมในปอด ทำให้ปอดติดเชื้อ แนะใส่หน้ากากตลอดเพื่อป้องกันเรา-เขา แล้วทุกคนจะปลอดภัย
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. เพจ “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” หรือ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้ออกมาโพสต์ข้อความให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันตนเองจากเชื้่อไวรัสโควิด-19 ระหว่างหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่างทางสังคม อย่างไหนสำคัญที่สุด โดย หมอมนูญ ได้ระบุข้อความว่า
“ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ใช้เทคโนโลยีใหม่ แสงเลเซอร์ ส่อง เวลาคนพูดส่งเสียงดัง ตะโกน ร้องเพลง ไอ หรือจาม ทำให้เห็นละอองน้ำทั้งใหญ่และเล็ก ลอยออกมาในอากาศจากปากและจมูก ออกมาไกลกว่า 2 เมตร เวลาจามไปได้ไกลถึง 8 เมตร ละอองใหญ่มีน้ำหนักจะตกลงพื้นในระยะ 1-2 เมตร ละอองฝอยจะลอยต่อเนื่อง เมื่อน้ำในละอองฝอยระเหยออกไป เชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถล่องลอยในอากาศไปได้ไกล มีชีวิตนานเป็นชั่วโมง แล้วแต่ทิศทางลมพาไป เมื่อคนที่อยู่ในห้องเดียวกับผู้ป่วยที่อากาศปิด ถ่ายเทไม่ดี หายใจอากาศที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส ลงลึกเข้าไปในถุงลมในปอด ทำให้ปอดติดเชื้อ
คนที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่วนใหญ่มีอาการไข้ ไอ เหนื่อย ซึ่งเป็นอาการทางเดินหายใจส่วนล่าง คือ ถุงลมในปอด แต่มีอาการทางเดินหายใจส่วนบน (น้ำมูกไหล คัดจมูก เจ็บคอ) น้อย แสดงว่าการติดเชื้อส่วนใหญ่ เกิดจากการหายใจละอองฝอยลงถุงลมในปอด มากกว่าหายใจละอองใหญ่ติดเชื้อในจมูก แล้วเคลื่อนที่ลงปอดทีหลัง หรือเกิดจากการติดเชื้อทางอ้อมคือเอานิ้วมือที่ไปสัมผัสกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ปนเปื้อนบนพื้นผิวมาแคะจมูก ขยี้ตา
ทางเข้าของเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้คนติดเชื้อส่วนใหญ่น่าจะเป็นถุงลม เพราะมีตัวรับ ACE2 เยอะมากจากการหายใจละอองฝอย มากกว่าทางเดินหายใจส่วนบนจากการเอานิ้วมือมาแคะจมูก ขยี้ตา บริเวณปากของรูจมูกไม่มีตัวรับ ACE2 ตัวรับจะอยู่ลึกเข้าไปในรูจมูก ต้องใช้นิ้วมือแยงถึงจะเข้าถึงตัวรับ การเอามือมาจับหน้า ลูบจมูก แต่ไม่ได้ล้วงลึกเข้าไปในจมูก ไม่น่าจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้
การล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลก่อนเอานิ้วมือมาแคะขี้มูก แคะจมูก ขยี้ตา ป้องกันการติดเชื้อทางอ้อมนี้ได้
การเว้นระยะห่าง 2 เมตร ก็ยังไม่ปลอดภัย เชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถแพร่กระจายผ่านละอองฝอยที่เกิดจากผู้ติดเชื้อพูดเสียงดัง ตะโกน ร้องเพลง ไอหรือจามได้ไกลกว่า 2 เมตร
การใส่หน้ากากอนามัยเป็นวิธีป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อที่สำคัญที่สุด หน้ากากจะจับละอองใหญ่และละอองฝอย ไม่ให้ล่องลอยไปไกลๆ ในอากาศ ละอองส่วนใหญ่จะอยู่รอบๆ หน้ากากบริเวณใบหน้าของผู้ติดเชื้อที่พูดเสียงดัง ตะโกน ร้องเพลง ไอ หรือจาม ลดโอกาสคนที่อยู่ใกล้ชิดหายใจเอาเชื้อไวรัสเข้าปอด ยิ่งคนใกล้ชิดสวมหน้ากากอนามัยด้วย โอกาสหายใจเอาเชื้อไวรัสเข้าปอดยิ่งน้อยลง
การสวมหน้ากากอนามัยสามารถลดการติดเชื้อ อาจทดแทนการล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ดำเนินต่อไปได้ ไม่ต้องถูกสั่งปิดเหมือนครั้งแรก สถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 ยังไม่ไว้วางใจ คนไทยต้องช่วยกันใส่หน้ากากอนามัยต่อไปเวลาออกนอกบ้าน เขาใส่เพื่อป้องกันเรา เราใส่เพื่อป้องกันเขา ทุกคนจะปลอดภัย”