นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ โพสต์แนะกลุ่มนักดนตรีอาชีพอิสระ หลังผ่อนปรนธุรกิจกลางคืน ต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกคน ถ้าร้องคู่ต้องใส่หน้ากากทั้งคู่ และยืนห่างกันอย่างน้อย 1.5 เมตร เนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถติดได้ทางการหายใจ
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. เพจ “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” หรือ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความถึงกรณีที่กลุ่มนักดนตรีอาชีพอิสระเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เรียกร้องให้นักดนตรีกลางคืน และนักดนตรีอาชีพอิสระ ได้กลับไปทำงานหลังจากสถานประกอบการกลางคืนต้องปิดให้บริการ ทำให้ขาดรายได้มากกว่า 3 เดือน ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 เบาบางลงแล้ว ร้านอาหารสามารถเปิดให้บริการได้ แต่นักดนตรียังไม่สามารถกลับไปทำงานได้ คาดว่าในประเทศมีผู้ประกอบอาชีพนักดนตรี นักร้องที่ได้รับผลกระทบกว่า 1 แสนราย ระบุว่า
“ทุกคนคงทราบว่า การร้องเพลงเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในวงกว้าง มีรายงานการติดเชื้อในกลุ่มนักร้องประสานเสียงในโบสถ์แห่งหนึ่งในรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา นักร้องคนหนึ่งป่วยอยู่ในระยะฟักตัวของโรคโควิด-19 ร่วมร้องเพลงกับอีก 60 คน เว้นระยะห่าง ไม่มีการสัมผัสตัวในเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง แพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ทางการหายใจให้กับคนร่วมร้องเพลง 45 คน ทำให้เสียชีวิต 2 คนใน 3 สัปดาห์
การร้องเพลงโดยเฉพาะเปล่งเสียงดังและเสียงสูง สามารถปล่อยละอองฝอยให้แขวนลอยในอากาศเป็นเวลานานเหมือนกับการไอหรือจาม คนที่อยู่ในสถานที่เดียวกันหากเป็นสถานที่ปิด ติดเครื่องปรับอากาศ ระบบถ่ายเทอากาศไม่ดี และไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย มีโอกาสติดเชื้อไวรัสได้ง่ายทางการหายใจ
เนื่องจากประเทศไทยไม่มีรายงานคนไทยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จากภายในประเทศ 25 วันแล้ว ผมเห็นด้วยว่าถึงเวลาควรผ่อนปรนให้กลับมามีดนตรีสดในร้านอาหาร อนุญาตให้มีการร้องเพลงได้เหมือนเดิม แต่ต้องมีมาตรการเพิ่มขึ้น คือ นักดนตรี นักร้อง รวมทั้งลูกค้าของร้านอาหารที่ขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ต้องบังคับให้ใส่หน้ากากอนามัยทุกคน ถ้าร้องคู่ต้องใส่หน้ากากทั้งคู่ ยืนห่างกันอย่างน้อย 1.5 เมตร ห้ามขึ้นไปรวมกลุ่มร้องหมู่ ควรมีฉากพลาสติกหรือกระจกเป็นมาตรการเสริม กั้นไม่ให้ละอองใหญ่ ละอองเล็ก เวลาคนร้องเพลงเปล่งเสียง พุ่งออกจากคนร้องบนเวที ลอยไปหาคนนั่งทานอาหารข้างล่างซึ่งไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัย นักดนตรีควรทำความสะอาดไมโครโฟนบ่อยๆ คนร้องหลังจับไมโครโฟน ต้องล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลทุกครั้งก่อนเอามือไปแคะจมูก ขยี้ตา ร้านอาหาร ถ้าเป็นไปได้ควรเปิดประตู หน้าต่างให้อากาศถ่ายเททางธรรมชาติ
ผมไม่ได้ไปร้านอาหารร้องเพลงมา 3 เดือนแล้ว อยากกลับไปทานอาหาร และร้องเพลงเหมือนเดิมภายใต้วิถีชีวิตใหม่ ปลอดภัยกันทุกคน”