“ทนายรณรงค์” ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนเพื่อความยุติธรรม เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด หลังจากร่วมบริจาคเงินจำนวน 10 บาท เข้าบัญชีของ “ฌอน บูรณะหิรัญ” ที่เปิดรับบริจาคช่วยเหลือดับไฟป่า พร้อมแจ้งความฐานผิด พ.ร.บ.เรี่ยไร ระบุยอดเงินรับบริจาครวมกว่า 30 ล้าน
วันนี้ (4 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนเพื่อความยุติธรรม นายปิยณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่าย เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ พ.ต.ท.แสวง สนูหมื่น พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายฌอน บูรณะหิรัญ เน็ตไอดอลชื่อดัง เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 63 โดยกล่าวหาว่านำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์,พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากทนายรณรงค์ได้ร่วมบริจาคเงินจำนวน 10 บาท เข้าบัญชีของนายฌอนที่เปิดรับบริจาคช่วยเหลือดับไฟป่า
ทนายรณรงค์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับนายฌอน ซึ่งตอนนี้ตนทราบมาว่ามียอดเงินในบัญชีดังกล่าวกว่า 30 ล้านบาท แต่จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่นั้น ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำบัญชีมาตรวจสอบ เพราะถ้ามีการทุจริตในคดีอื่นๆ จะต้องมีการอาญัติบัญชีเอาไว้ก่อน แต่สำหรับ นายฌอน ไม่ได้ทำการพิสูจน์อะไรเลยว่าตัวเองบริสุทธิ์ใจกับยอดเงินบริจาค ตนอยากจะฝากถึงนายฌอน ว่า ทางช่องส่องผี ยังมีการออกมาโชว์สเตทเมนต์การโอนเงินเลย ซึ่งถ้านายฌอนบริสุทธิ์ใจจริง ทำไมไม่ออกมารับผิดชอบเรื่องนี้ ทำไมไม่โชว์หลักฐานเงินในบัญชี ในส่วนที่ฌอนได้บอกกับทางสื่อว่าได้ปิดบัญชีดังกล่าวไปแล้ว แต่ทำไมตนยังสามารถโอนเงินเข้าไปในบัญชีของฌอนได้อยู่ และเงินบริจาคที่รับไปจากพี่น้องประชาชนคุณฌอนต้องอธิบาย และให้รายละเอียดที่ชัดเจน ตนเชื่อว่า คุณฌอนคงจะไม่คิดหนีตามที่มีข่าวลือออกมาว่าฌอนได้หนีออกนอกประเทศไปแล้ว ถ้าไม่ผิดไม่สมควรจะหลบหนี เพราะไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่มากมาย ส่วนความคิดเห็นทางการเมืองตนมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน แต่เรื่องเงินบริจาคของประชาชนต้องชัดเจนเเละตรวจสอบได้