เพจ “ชมรม strong ต้านทุจริตประเทศไทย” โพสต์แฉโรงเรียนแห่งหนึ่ง ย่านสาทร นำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นอาหารเช้าของนักเรียน นอกจากนี้ พบว่าได้มีการนำนมโรงเรียน มาต้มปรุงขายเด็กเป็นเมนูนมเย็นและโอวัลตินเย็น โดยขายเด็กนักเรียนแก้วละ 5 บาท
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. เพจ “ชมรม strong ต้านทุจริตประเทศไทย” โพสต์แฉโรงเรียนแห่งหนึ่ง ย่านสาทร นำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นอาหารเช้าของนักเรียน และผู้บริหารโรงเรียน ให้นำวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารของโครงการอาหารเช้า/อาหารกลางวัน มาจัดจำหน่ายให้กับนักเรียน และนอกจากนี้ ยังพบอีกว่าได้มีการนำนมโรงเรียน มาต้มปรุงขายเด็กเป็นเมนูนมเย็นและโอวัลตินเย็น โดยขายเด็กนักเรียนแก้วละ 5 บาทโดยผู้โพสต์ระบุว่า
“โรงเรียนดี สุขภาพดี..นักเรียนมีความสุข คือนโยบายต้อนรับเปิดเทอมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งโรงเรียนต่างๆทั่วประเทศ จะเปิดเทอมในวันที่ 1 ก.ค. 63 นี้...ภายใต้กรอบความปลอดภัยเป็นที่ตั้ง ในยุค New Normal of Education ย้อนไปเมื่อเทอมที่แล้ว นี่คือ อาหารเช้าของนักเรียน โรงเรียนวัดยานนาวา เขตสาทร สังกัด สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร เป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติต่างๆ และเป็นอย่างนี้เกือบทุกเช้า โดยมีคำสั่งด้วยวาจาจากผู้บริหารโรงเรียน... ให้นำวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารของโครง
การอาหารเช้า/อาหารกลางวัน มาจัดจำหน่ายให้กับนักเรียน ดังนี้
1. ข้าวไข่ดาวและข้าวไข่เจียว ราคา 15 บาท (ข้าว ไข่ น้ำมันพืช ของโครงการ
อาหารเช้าและโครงการอาหารกลางวัน )
2. มาม่าใส่ไข่ มีเนื้อไก่ ไก่สับ (เล็กน้อย) ราคา 15 บาท (ไข่ เนื้อไก่ ของ
โครงการอาหารเช้าและโครงการอาหารกลางวัน เนื้อไก่อาจมีซื้อเพิ่มบ้างบางวัน)
รวมทั้งออกคำสั่งทางวาจาให้ครูและบุคลากร พี่เลี้ยงเด็ก นักศึกษาฝึกสอน เข้าเวรเวียนกันขายขนมขบเคี้ยว น้ำหวาน และติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ดูว่าใครมาขายหรือยัง หากยังไม่มาขายก็ส่งภาพไปในไลน์กลุ่มโรงเรียนให้เกิดความหวาดกลัว ทั้งยังสั่งการเด็ดขาดห้ามผู้ปกครอง เข้าไปในเขตโรงอาหาร
ซึ่งเมื่อทางชมรมฯเจาะข้อมูลลึกลงไปพบว่า ปีการศึกษา พ.ศ. 2563 กทม.จัดสรรงบประมาณเป็นโครงการอาหารเช้า/กลางวัน ที่เบิกจ่ายในระบบแล้ว รวมกว่า 350 ล้านบาท รวม 2,030 โครงการ ในสังกัดกรุงเทพมหานคร
ในส่วนของโรงเรียนวัดยานนาวา เป็นโครงการจ้างเหมาประกอบอาหาร (ปรุงสำเร็จ)
ประจำเดือนธันวาคม 2562 = 210,420 บาท
ประจำเดือนมกราคม 2563 = 245,490 บาท
ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2563 = 222,110 บาท
และตั้งแต่วันที่ 2-6 มีนาคม 2563 = 58,450 บาท
มีบริษัท ณภัทรฟู้ดส์ จำกัด เป็นผู้รับจ้างดำเนินการ..เฉลี่ยหัวละประมาณ 40 บาท
ซึ่งการให้เด็กกินอาหารเช้าพวกนี้ นอกจากไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ยังเป็นการทำลายสุขภาพของเด็กนักเรียนด้วย..และที่สำคัญงบประมาณอาหารเช้าเด็กหายไปไหน..?
ในช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา มีประเด็นทุจริตโครงการอาหารกลางวันเด็กเป็นข่าวโด่งดังอยู่บ่อยครั้งตามหน้าสื่อต่างๆ ทั่วประเทศ จนรัฐบาล กระทรวง หน่วยงานตรวจสอบมีนโยบายที่เข้มข้นเอาจริงเอาจังในการดำเนินการตรวจสอบเอาผิด แต่ในใจกลางเมืองหลวงเอง กลับเล็ดลอดสายตามาได้อย่างไม่น่าเชื่อ..
ต้องฝากไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ยิ่งใกล้เปิดเทอมแล้วหวังว่าอาหารเช้า/กลางวันของนักเรียนไทยคงจะดีขึ้นกว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป...”