“เบนซ์ เรซซิ่ง”ยันไม่ได้รวมกลุ่มแข่งรถซิ่ง แค่ขับจักรยานยนต์ไปกินข้าวกับเพื่อนในกลุ่มย่านดอนเมือง ปฏิเสธข้อหาฝ่าพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว ก่อนตร.อนุญาตให้ประกันตัวตีวงเงินคนละ 40,000 บาท
วันนี้ (25 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ สน.วิภาวดี พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ รอง ผกก.สน.วิภาวดี เปิดเผยถึงกรณีการจับกุม นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง กับพวก รวม 8 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 6 คัน ในลักษณะประมาทหวาดเสียว บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ใกล้หน้าโรงแรมรามาการ์เด้น ว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.30 นาที พบกลุ่มรถจักรยานยนต์ดังกล่าว ออกจากถนนเทวฤทธิ์พันลึก ใกล้คลังสินค้า ดอนเมือง ก่อนจะไปใช้ช่องทางหลัก หรือช่องทางด่วน ถนนวิภาวดีรังสิต โดยขับขี่ด้วยความเร็วสูง จึงประสานตำรวจที่ออกตรวจอยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว ขับรถไล่ตามเข้าสกัดจับกุม โดยใช้การขับบีบเส้นทางจากแยกหลักสี่ ไปถึงที่หน้าโรงแรมดังกล่าว จึงสามารถควบคุมตัวได้ทั้งหมด
เบื้องต้นจากการสอบสวน เบนซ์ เรซซิ่ง ให้การปฏิเสธยืนยันว่า ไม่ได้รวมกลุ่มเพื่อขับขี่รถประลองความเร็ว ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เป็นเรื่องในสำนวนการสอบสวนของ สน.ทุ่งสองห้อง ไม่สามารถเปิดเผยได้ เบื้องต้นได้ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มั่วสุมกระทำกิจกรรมให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรค และความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร ฐานขับรถโดยประมาทหวาดเสียว ก่อนส่งให้ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง รับไปดำเนินคดี ส่วนผู้ต้องหาที่มีเยาวชนอายุ 14 ปี รวมอยู่ด้วย ได้แยกดำเนินคดีต่างหากแล้ว ซึ่งกรณีนี้จะต้องประสานผู้ปกครองมาสอบสวนด้วยว่า ได้ปล่อยปละละเลยให้ร่วมกระทำความผิดด้วยหรือไม่
สำหรับการจับกุมดังกล่าว เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแข่งรถในทาง และการป้องกันปัญหาอาชญากรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะในช่วงก่อนเปิดภาคเรียน ซึ่งยังมีความเสี่ยงที่กลุ่มวัยรุ่นจะออกไปกระทำความผิดได้ง่าย อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่า หลังเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคมไปแล้ว คาดว่าปัญหาดังกล่าวจะลดน้อยลง
ต่อมา เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 มิ.ย. ที่ สน.ทุ่งสองห้อง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ถูกตำรวจควบคุมตัวไปทำประวัติพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อทำเรื่องขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชน
นายอัครกิตติ์ กล่าวว่า ตนยืนยันไม่ได้รวมตัวเพื่อแข่งรถซิ่ง แต่อยู่ระหว่างจะเดินทางกลับบ้าน หลังจากไปกินข้าวกับกลุ่มเพื่อน ที่ย่านดอนเมือง โดยยืนยันว่า ทั้งหมดกลับบ้านเส้นทางเดียวกัน และขับรถความเร็วปกติ จึงยืนยันปฏิเสธในข้อกล่าวหาฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในช่องทางหลัก หรือ ช่องทางด่วนถนนวิภาวดี-รังสิตจริง จึงยอมรับผิดในส่วนนี้ และระหว่างถูกจับกุม ก็ให้ความร่วมมือตำรวจเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ตนเองไม่ได้ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น