ชาวเน็ตแห่แชร์ชื่นชม ทีมอาสาดูแลตู้ปันสุขประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี หลังเผยหากโครงการตู้ปันสุขจบลงเตรียมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือประสบปัญหายากจนต่อเนื่อง โดยเผยเรื่องราวเด็กชายตัวน้อยมีแผลไฟไหม้เต็มตัวคือหนึ่งในครอบครัวที่ได้รับเลือกเยียวยาต่อ
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. เฟซบุ๊ก “วสันต์ วนิชชากร” ได้โพสต์เผยเรื่องราวสู้ชีวิตของครอบครัวหนึ่ง โดยระบุว่าตนเองนั่นเป็น 1 ในทีมอาสาสมัครดูแลตู้ปันสุขประจันตคาม อยู่ในจังหวัดปราจีนบุรี และได้พบเจอครอบครัวที่เด็กชายตัวน้อยที่ได้มารับอาหารและขนมจากตู้ปันสุข ซึ่งเด็กชายมีแผลตามลำตัวและขา จากเหตุการณ์ไฟไหม้ โดยได้สอบถามเรื่องราวจากผู้เป็นแม่ของเด็กชาย เล่าว่าเมื่อตอนหนึ่งขวบ ไฟไหม้บ้าน น้องนอนอยู่กับตาที่เป็นอัมพาต ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตาเสียชีวิต แต่น้องถูกเพื่อนบ้านช่วยออกมาได้ ต้องนอนโรงพยาบาลกว่าสามเดือน สุดท้ายมีปาฎิหาริย์น้องรอดชีวิต แต่บาดแผลจากไฟไหม้ลึกผิวหนังตามร่างกายหลายแห่งยังคงต้องรักษาจนถึงปัจจุบัน และแม่น้องมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ตั้งแต่โควิด-19 ระบาด ก็ไม่มีงานทำ และมีลูก 4 คน น้องเป็นคนสุดท้อง พอรู้ข่าวว่าที่นี้มีตู้ปันสุขก็เลยมาที่ตู้นี้ทุกวัน และยังไม่รู้ข่าวว่าตู้จะปิดแล้ว
โดยผู้โพสต์ทิ้งท้ายว่า ตนเองนั่นเห็นครอบครัวนี้หลายครั้ง การมายืนเข้าคิวรอรับของในแต่ละครั้งไม่เคยละเมิดกฎและปฏิบัติตัวดีน่ารัก แม้จะมากันหลายคน พี่สาวพี่ชายก็คอยดูแลน้องอย่างดี น้องเดินไม่ถนัดก็ช่วยอุ้มน้อง น้องจะเป็นที่รักของน้องๆ ในทีมปันสุข น้องจะได้ขนม ของกินของเล่นกลับไปทุกครั้ง จากสีหน้ารอยยิ้มที่ไม่มีเลยในวันแรกๆ ที่พวกเราเจอ จนเราแอบอยากรู้เรื่องราวของน้องเขา คุณแม่บอกว่าถ้าหมดโควิดนี้น้องจะได้เข้าเรียนอนุบาลที่ประจันตคาม วันนี้เราได้เห็นรอยยิ้มและความร่าเริงนั้นบ้างแล้วที่หน้าตู้ปันสุข และเรายังอยากให้น้องมีรอยยิ้มแบบนี้นานๆ ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวหนึ่งที่เราแอบจดประวัติไว้เพื่อเยียวยาต่อไปหลังจากตู้ใบนี้ปิดตัวลง”
ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวมีชาวเน็ตเข้ามาชื่นชมทีมอาสาสมัครที่ดูแลตู้ปันสุขของประจันตคาม และการที่ทำงานต่อเนื่องตั้งใจดูแลผู้ที่ประสบปัญหายากจน หรือได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างจริงจัง โดยโพสต์มียอดกดไลก์กว่า 3,000 ครั้ง และแชร์ไปกว่า 200 ครั้งด้วยกัน