หลังมีชาวเน็ตจำนวนหนึ่งวิจารณ์เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ ยิ้มขณะถ่ายรูปคู่กระดูก “เตี้ย” ทำให้ทางเพจ “พิพิธภัณฑ์กายวิภาคและพยาธิวิทยาทางสัตวแพทย์ ของคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าวว่าสาเหตุที่ยิ้มเกิดจาก ความภูมิใจที่สามารถทำกระดูกของ พี่เตี้ยให้สมบูรณ์ที่สุด”
กรณีที่ “เตี้ย” สุนัขเพศผู้สีขาว น้ำตาลและดำ อายุ 8 ปี อาศัยอยู่ที่ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตายอย่างปริศนาก่อนที่จะพบซากบริเวณป่าในซอยพระนาง ด้านหลังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา บ้านช่างเคี่ยน ต.ช้างเผือก อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ เมื่อเย็นวันที่ 7 พ.ค. ซึ่งศูนย์ชันสูตรโรคสัตว์ โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่า วินิจฉัยเบื้องต้นน่าจะเสียชีวิตจากการถูกกระแทกอย่างรุนแรงบริเวณขาหลังและช่วงล่างของลำตัว ร่วมกับการฉีกขาดของกระเพาะปัสสาวะ ในส่วนรอยแตกของกะโหลกที่พบอาจเป็นหลังจากเสียชีวิตเนื่องจากไม่พบการอักเสบของเนื้อเยื่อและเลือดออกบริเวณดังกล่าว
กระทั่งมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ได้เข้าช่วยเหลือติดตามประสานงานคดีร่วมกับแอดมินเพจ “เตี้ย มช.” และตำรวจ สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก แกะรอยจากกล้องวงจรปิด พบชายรายหนึ่งขับขี่จักรยานยนต์เรียกเตี้ยขึ้นรถ บริเวณลานจอดรถภายในมหาวิทยาลัย เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะออกจากมหาวิทยาลัย กลับรถหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยพระนาง ทางไปยังจุดพบซากของเตี้ย กระทั่งได้ตัวผู้ต้องสงสัยอ้างว่าสงสารที่เตี้ยไม่ได้ออกไปไหน จึงคิดจะพาไปเที่ยว แต่เตี้ยกระโดดลงจากรถขณะขับขี่ทำให้ล้อหลังทับตายทันที จึงนำไปโยนทิ้งพร้อมโกยใบไม้กลบเพื่อหลบหนีความผิดและการติดตามตัว ที่ผ่านมาไม่ได้แสดงตัวเพราะกังวลว่าจะมีผลกระทบต่อหน้าที่ราชการ
ต่อมา หลังการชันสูตร “เตี้ย” เรียบร้อย ได้มีการส่งร่างให้กับเจ้าหน้าที่ห้องพิพิธภัณฑ์ของคณะไปจัดการทำความสะอาดกระดูกของเตี้ยเพื่อนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ แต่กลับมีกระแสดรามาเกิดขึ้น เมื่อชาวเน็ตได้วิจารณ์เจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ ที่ยิ้มขณะถ่ายรูปกับโครงกระดูกของเตี้ย
ทำให้ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. เพจ “CMU Vet Ana Path Museum” ของ พิพิธภัณฑ์กายวิภาคและพยาธิวิทยาทางสัตว์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเพื่ออธิบายข้อกังขาต่างๆจากชาวเน็ต โดยได้ระบุข้อความว่า
“จากมีกระแสคนกลุ่มหนึ่งได้วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ห้องพิพิธภัณฑ์ด้วยสำนวนดูถูกและไม่ให้เกียรติ ทางห้องพิพิธภัณฑ์ขออธิบายดังนี้ โปรดอ่านช้า ๆ และทำความเข้าใจด้วย
1. ห้องพิพิธภัณฑ์มีหน้าที่ในการจัดทำกระดูกสัตว์รวมถึงตัวอย่างทางกายวิภาคอื่นๆ ทุกชนิดที่ได้รับมาจากเจ้าของโดยพิจารณาลำดับในการทำจากหลายปัจจัย เช่น ความเร่งด่วนในการใช้งานของตัวอย่าง สภาพของตัวอย่างว่าเน่าหรือยัง ทีมงานเริ่มทำโครงกระดูกของพี่เตี้ย มช. หลังจากที่หน่วยชันสูตรได้ดำเนินการเสร็จสิ้นในกระบวนการชันสูตรแล้ว และได้รับความยินยอมจากผู้ดูแลเพจเตี้ย มช. ในขณะนั้น โดยสภาพที่ได้รับคือ เน่า ดังนั้น จึงควรต้องรีบทำจึงได้แจ้งเจ้าของ และได้รับความยินยอมจากเจ้าของในขณะนั้นว่าให้ดำเนินการทำได้เลย ทางทีมงานจึงเริ่มดำเนินการ โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 1 สัปดาห์ หวังว่าจะเข้าใจว่าทำไมจึงต้องทำเลยนะ
2. กรณีกล่าวว่าทีมงานยิ้มตอนถ่ายรูป
ขอชี้แจงว่าที่ยิ้มคือ ทีมงานไม่ใช่ยิ้มเพราะ พี่เตี้ยตาย เรายิ้มด้วยความภูมิใจที่สามารถทำกระดูกของ พี่เตี้ยให้สมบูรณ์ที่สุด เพราะเราเชื่อว่าต้องมีคนจำนวนมากมาเที่ยวชมกระดูกพี่เตี้ย เราอยากบอกให้ทราบว่า กระดูกของพี่เตี้ยเป็นกระดูกสุนัขที่ต่อขึ้นมาสมบูรณ์และดีที่สุดในบรรดากระดูกสุนัขกว่าร้อยตัวที่ทำมาตลอดเวลากว่ายี่สิบปี เพราะทีมงานรักพี่เตี้ย มช. ไม่ต่างกับคนส่วนมาก (หนึ่งในทีมงานรักมากถึงขนาดว่าลางานประจำเพื่อมาช่วยทำ เป็นคุณ คุณจะลางานมาช่วยทำไหม?) เราตั้งใจจะให้กระดูกของพี่เตี้ยมีความสวยที่สุด ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด เรานั่งร้อยกระดูกทุกชิ้นเข้าด้วยกันด้วยเส้นเอ็น (ตัวอื่นติดกาวเพราะเร็วดี) แม้แต่นิ้วเท้าที่ว่าพี่เตี้ยมี 20 นิ้วเราก็ทำจนครบ กระดูกหางก็ครบทุกชิ้น ดังนั้นอยากให้ทุกคนที่เห็นภาพถ่ายเข้าใจว่า เรายิ้มด้วยความภูมิใจในผลงานที่สมบูรณ์ที่สุดตั้งแต่ทำมา โปรดเข้าใจเราด้วย
3. กรณีกล่าวว่าเราทำกระดูกเร็วเพราะต้องการทำลายหลักฐาน
โปรดใช้สมองคิดนิดหนึ่งว่า ถ้าเราต้องการทำลายหลักฐาน เราจะเอามาจัดแสดงทำไม เผาทิ้งไปเลยไม่ดีกว่าหรือ แล้วตั้งแต่นำเข้ามาอยู่ในห้องพิพิธภัณฑ์ เราไม่เคยห้ามไม่ให้ใครเข้าชม ไม่เคยห้ามถ่ายรูป ใครอยากมาดูเชิญ ใครอยากมาทำข่าวเชิญ ใครอยากถ่ายรูป ยินดี แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าทำลายหลักฐานหรือเปล่า คิดให้ดี
สุดท้ายนี้ทางพิพิธภัณฑ์ขอแจ้งให้ทราบว่าเราทำงานภายใต้หน้าที่ คือ “จัดแสดงตัวอย่างทางกายวิภาคและพยาธิวิทยาให้แก่ประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจ โดยยึดในหลักวิชาการที่ถูกต้อง และการทำงานด้วยเสียสละมาโดยตลอด ทำเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่คนทั่วไป” ดังนั้น การวิจารณ์ขอให้ท่านทำในขอบเขตที่พึงกระทำ และหากท่านวิจารณ์พาดพิงจนก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล เราจะดำเนินการฟ้องตามสิทธิ์ที่เรามี เราเองก็ได้เก็บทุกการวิจารณ์ไว้เป็นหลักฐานแล้ว การชี้แจงครั้งนี้ไม่ได้ทำในนามคณะสัตวแพทยศาสตร์ แต่เป็นการชี้แจ้งจากทีมงานห้องพิพิธภัณฑ์ เราจึงใช้ภาษาพูด ซึ่งน่าจะสื่อได้เข้าใจกว่าภาษาราชการ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มีดราม่าใดใด ต่อจากการชี้แจงครั้งนี้ ขอบคุณและหวังว่าจะเข้าใจ"