รองอธิบดีกรมอุทยานฯ เผย ปัจจุบันมีการลักลอบจุดไฟเผาป่าและแผ้วถางป่าเพิ่มขึ้น จึงเพิ่มมาตรการควบคุมเข้มข้น เพื่อเอาตัวคนกระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
เมื่อวันที่ 26 พ.ค. เพจ “ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพีนธุ์พืช” นายประกิต วงศ์ศรีวัฒนกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์วิกฤตโรคติดต่อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สั่งเน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัดสอดส่องดูแลป้องกันการลักลอบจุดไฟเผาป่าในพื้นที่ หากตรวจพบผู้กระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับไฟป่าในพื้นที่ ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการดำเนินโครงการจัดสรรที่ดินทำกินให้ชุมชน ผู้กระทำผิดอาจถูกยกเลิกสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการ และให้เข้มงวดกวดขันการลาดตระเวนตรวจตราป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่รับผิดชอบอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ในปัจจุบันมีการฉวยโอกาสลักลอบบุกรุกแผ้วถาง ยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าในพื้นที่เกิดเหตุไฟไหม้และลักลอบล่าสัตว์ป่า โดยมีการใช้อาวุธในการต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทำให้เกิดความขัดแย้งและความสูญเสียต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เช่น กรณีผู้บุกรุกแผ้วถางป่าต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย และกรณีพรานป่าใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเสียชีวิต ดังนั้น เพื่อเป็นการระงับยับยั้งไม่ให้เกิดการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าและป้องกันปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับทางราชการ รวมทั้งป้องกันความสูญเสียที่จะเกิดต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ที่เกี่ยวข้องจึงให้หน่วยงานสั่งการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการอย่างเข้มข้น
โดยดำเนินการตามมาตรการป้องกันปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ตามข้อสั่งการแนวทางปฏิบัติระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ให้นำเทคโนโลยีภาพถ่ายทางอากาศภาพถ่ายดาวเทียมและอากาศยานไร้คนขับ หรือ UAV (Unmanned Area) มาประยุกต์ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ป่าในพื้นที่ โดยเฉพาะในบริเวณที่เกิดไฟป่า เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสบุกรุกแผ้วถางยึดถือครอบครองพื้นที่ที่เกิดเหตุไฟป่าดังกล่าว และเพิ่มมาตรการความปลอดภัยและความโปร่งใสในการตรวจลาดตระเวนป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ โดยให้นำเทคโนโลยีกล้องถ่ายวีดิทัศน์กิจกรรม (Action Camera) มาใช้บันทึกภาพการปฏิบัติงานไว้เป็นพยานหลักฐานในกรณีที่มีการโต้แย้ง หรือกล่าวหาต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามความจำเป็นและเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั้งให้ยึดหลักความปลอดภัยในการประกอบกำลังตรวจลาดตระเวนและการใช้อาวุธในการปฏิบัติการอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ นายประกิต ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลยรู้เห็นเป็นใจ หรือสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิด จะมีการดำเนินการทางกฎหมายและวินัยอย่างเด็ดขาด จึงขอให้คนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจ สุจริต เน้นการทำงานแบบบูรณาการ ให้ประชาสัมพันธ์ปลูกจิตสำนึกและสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ให้ได้รับทราบถึงโทษและผลกระทบจากการทำลายทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และการเป็นเจ้าของ เพื่อให้มีส่วนร่วมในการป้องกันการกระทำผิดอีกทางหนึ่ง หรือเป็นเครือข่ายในการแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อจะได้หามาตรการป้องกันมิให้มีการทำลายป่าต่อไป