ครูรายหนึ่งเผยกังวล สพฐ. สั่งให้ไปเยี่ยมบ้านนักเรียนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ประเมินผลเรียนทางไกล ทั้งที่เชื้อโควิด-19 ยังไม่หมดไป กระทรวงสาธารณสุข ยังไม่ตรวจหาแบบเจาะจง หวั่นแพร่เชื้อหนักอีกรอบ
วันนี้ (18 พ.ค.) เป็นวันแรกที่กระทรวงศึกษาธิการ จัดการศึกษาทางไกลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 โดยร่วมกับมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม พัฒนาช่องทางการเรียนการสอน 6 ช่องทาง ได้แก่ ทีวีดิจิทัล ช่อง 37-51, ทีวีดาวเทียมระบบ KU-Band (จานทึบ) ช่อง 186-200, ทีวีดาวเทียมระบบ C-Band (จานโปร่ง) ช่อง 337-351, ยูทูป DLTV1 Channel ถึง DLTV15 Channel, แอปพลิเคชัน DLTV และ www.dltv.ac.th
โดยพบว่ามีนักเรียนประสบปัญหาโทรทัศน์ดาวเทียมไม่สามารถรับสัญญาณได้ และเมื่อเข้าชมผ่านระบบอินเทอร์เน็ต พบว่า ภาพและเสียงมีปัญหาสะดุด ไม่เสถียร และภาพการเรียนการสอนก็ค้าง ขณะที่ผู้ปกครองต้องเสียค่าใช้จ่ายซื้อโทรทัศน์เครื่องใหม่และโทรศัพท์มือถือใหม่เพื่อใช้เรียนทางไกลโดยเฉพาะ ขณะที่เด็กส่วนหนึ่งไม่สนใจการเรียนทางไกล เพราะผู้ปกครองต้องออกไปทำงาน ทำการเกษตร ทำให้ไม่สามารถควบคุมดูแลบุตรหลานได้ ส่วนครูผู้สอนก็ไม่พร้อมกับการเรียนทางไกล
ทีมข่าวโซเชียลมีเดีย MGR Online ได้รับการร้องเรียนจากครูระดับประถมศึกษารายหนึ่ง ระบุว่า รู้สึกกังวลที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ออกคำสั่งให้ครูไปเยี่ยมบ้านนักเรียน เพื่อประเมินผลการเรียนทางไกล ซึ่งเห็นว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่หมดไป และกระทรวงสาธารณสุขยังไม่ลงพื้นที่ตรวจหาแบบเจาะจงลงไปในพื้นที่ เกรงว่าจะแพร่เชื้อกันหนักอีกรอบ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ออกหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เรื่อง เตรียมความพร้อมการจัดการเรียนการสอนทางไกลในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หนึ่งในนั้นคือการแจ้งให้โรงเรียนทุกแห่งที่จัดการเรียนการสอนระดับขั้นปฐมวัยและประถมศึกษา แต่งตั้งและมอบหมายให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนออกพบปะและเยี่ยมบ้านนักเรียน อย่างน้อยคนละ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ สำหรับโรงเรียนที่จัดการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ให้โรงเรียนจัดระบบการสื่อสารระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครองและนักเรียนตามความเหมาะสม โดยอาจให้ครูออกไปเยี่ยมบ้านนักเรียนด้วยก็ได้
