xs
xsm
sm
md
lg

จากกัปตันสายการบินดัง สู่พ่อค้าขายบราวนี่สุดปัง! เดช-เดชพนต์ พูลพรรณ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก ส่งผลให้หลายคนได้รับผลกระทบไปตาม ๆ กัน เช่นเดียวกับ เดช-เดชพนต์ พูลพรรณ กัปตันสายการบินดังแห่งหนึ่ง ที่ถูกหยุดบินชั่วคราว ทำให้รายได้ลดลง


แต่ทุกวิกฤตซ่อนโอกาสที่สวยงามไว้เสมอ เมื่อกัปตันได้หยิบงานอดิเรกที่มีติดตัวมาก่อนหน้านี้ นั่นก็คือการทำขนมบราวนี่ที่ได้ไปร่ำเรียนมา นำมาดัดแปลงสูตรจนลงตัว จนสามารถสร้างรายรับได้ ซึ่งต้องบอกว่ายอดขายปัง! มาก ๆ วันหนึ่งขายได้ไม่ต่ำกว่า 160 ชิ้น เลยทีเดียว

เป็นบุคคลหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19

ก่อนหน้านี้ผมทำงานเป็นผู้ช่วยกัปตันนาน 12 ปี จากนั้นได้สอบเลื่อนขั้นเป็นกัปตัน ซึ่งทำได้ประมาณ 4 ปี ก่อนจะถูกหยุดบินชั่วคราวจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งไฟลต์สุดท้ายของผมคือ บินกลับจากประเทศออสเตรีย เมื่อ 21 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา

ช่วงที่โควิด-19 ระบาดแรก ๆ เมื่อปลายปีที่แล้ว กระทั่งเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ เริ่มมีการระบาดมากขึ้น ซึ่งตัวผมก็ได้เห็นข่าวตลอด แต่เราก็ยังประเมินว่ามันน่าจะอยู่ในแค่ประเทศที่แพร่ระบาด คิดว่าคงจำกัดแค่ในจีน ไต้หวัน หรือฮ่องกง ยังไม่คิดว่าจะระบาดเยอะมากขนาดนั้น ไม่คิดว่าจะหนักไปถึงโซนยุโรป แต่พอการระบาดมากขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มมีการปิดประเทศ ไม่ให้คนเข้า-ออก ผมได้รับผลกระทบต้องหยุดบิน พอเป็นแบบนี้ ก็รู้สึกตกใจนะครับ

วิกฤตที่เกิดขึ้นทำให้รายได้ผมหายไป บริษัทออกมาตรการลดเงินเดือน เงินเบี้ยเลี้ยงไม่ได้ เพราะหยุดบิน ตอนนี้รายได้ผมเหลือประมาณ 60% แต่ผมยังอยู่ได้ ผมไม่เครียดนะครับ เนื่องจากผมไม่มีภาระอะไรมากมาย แต่ก็พยายามประหยัด อะไรที่อยากได้ช่วงนี้ก็งดไปก่อน และหาอย่างอื่นทำ เพื่อไม่ให้ตัวเองว่าง

เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส หันมาขายบราวนี่

จุดเริ่มต้นที่มาขายบราวนี่เกิดจากโดยปกติเวลาที่ผมไปบิน ผมจะชอบซื้อขนม ของฝาก ไปแจกลูกเรือ เพื่อสร้างบรรยากาศดี ๆ ในการทำงาน ส่วนใหญ่ของที่ผมซื้อไปจะเป็นขนม แต่ระยะหลัง ๆ ผมมีความรู้สึกว่า ผมอยากจะทำอะไรที่มาจากตัวเรา เราอยากทำเอง เพื่อคนรับจะได้มองว่าเราจริงใจเพราะเป็นสิ่งที่มาจากเราจริง ๆ

ผมก็เลยตัดสินใจไปเรียนทำขนม อีกอย่างผมเป็นคนที่ชอบลองทำอะไรใหม่ ๆ ไปเรียนทำขนมก็จะได้มีงานอดิเรกด้วย ก็เลยลองดู

ตอนนั้นผมเลือกเรียนทำบราวนี่ คุกกี้ และขนมเปี๊ยะครับ สุดท้ายผมก็เลือกบราวนี่ เพราะด้วยความที่บราวนี่เป็นขนมที่เราชอบด้วย ผมชอบรสชาติ ชอบเท็กเจอร์ของบราวนี่ และเป็นขนมที่ผมคิดว่ามีความทนทานในระดับหนึ่ง พกพาไปไหนก็สะดวก ไม่ต้องระวังมาก

พอเรียนเสร็จ เราก็มาลองทำ คือเรียนมาแบบไหน ก็ซื้ออุปกรณ์ทุกอย่างมาแบบนั้น ผมเริ่มทำไปแจกให้คนอื่นชิมเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา พอแจกได้เรื่อย ๆ ก็มีหลายคนชอบ บอกว่าอร่อย เขาก็บอกให้ทำขายเลย แต่ช่วงแรกผมไม่ได้อยากทำขายเท่าไหร่นะครับ คิดแค่ว่าอยากจะทำแจกเวลาไปทำงาน หรือช่วงเทศกาลต่าง ๆ อย่างเดียว เพราะว่าดู ๆ แล้วกำไรก็ไม่ได้เยอะอะไร เนื่องจากเราใช้วัตถุดิบดี แต่พอแจกแล้วคนมาถามเยอะมาก บอกให้ทำขายเยอะมาก บวกกับช่วงนั้นผมบินน้อยลง สัปดาห์ละ 1-2 ไฟท์ ผมเลยมีเวลาว่าง ก็เลยคิดว่าลองดูก็ไม่น่าเสียหายอะไร

ผมมาเริ่มขายบราวนี่จริง ๆ จัง ๆ คือ ช่วงต้นเดือนมีนาคม 2563 ตอนนั้นไวรัสโควิด-19 กำลังมาแล้ว ผมได้บินไฟท์สุดท้ายวันที่ 21 มีนาคม 2563 ซึ่งต้องบอกว่าเป็นจังหวะพอดี พอผมหยุดบินปั๊บ ผมก็เริ่มขายบราวนี่เลยครับ


เกิดเป็นแบรนด์ Flying Sweets
ของหวานจากนักบินที่ออเดอร์ปังมาก ๆ


ผมตั้งชื่อแบรนด์ว่า Flying Sweets ซึ่งชื่อแบรนด์ก็มาจากตัวผมที่เป็นนักบิน ส่วนสโลแกนของทางร้านคือ “บราวนี่รสเข้ม หวานน้อย” ลูกค้าส่วนใหญ่จะบอกว่าเข้มข้นมากเลย ขายขาดทุนไหม บอกตรง ๆ เลยว่า ไม่ขาดทุนครับ แต่กำไรก็ไม่ได้เยอะ เพราะเราเน้นใช้วัตถุดิบดี จัดเต็ม

ตอนนี้สินค้าที่ร้านจะมีบราวนี่ทั้งหมด 4 รสชาติ ได้แก่ Nutella Brownie เป็นออริจินอลของที่ร้าน ชิ้นละ 35 บาท, Cream cheese Brownie ชิ้นละ 35 บาท , Macadamia Brownie ชิ้นละ 38 บาท และ Matcha White Brownie ชิ้นละ 37 บาท สามารถเลือกรสชาติใส่กล่องคละรสได้ หากสนใจอยากสั่งซื้อบราวนี่สามารถสั่งได้ที่ Line @FlyingSweets หรือโทรที่เบอร์ 081-830-8100, 081-808-3892 จัดส่งทั่วประเทศครับ

ถามว่าขายดีไหม ถือว่าขายค่อนข้างดีเลยครับ กลุ่มลูกค้าจะเป็นทุกเพศ ทุกวัย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงประมาณ 80% ช่วงนี้มีออเดอร์เข้ามาต่ำ ๆ วันละ 160 ชิ้น ซึ่งผมเองก็ยังงง ๆ อยู่ แต่น่าจะเป็นเพราะจากกระแสออนไลน์ ที่ผมเข้าไปโพสต์ขายตามกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งยอดขายถือว่าดีมากครับ

นอกจากขายแล้ว ผมยังร่วมกับเพื่อน ๆ จากสมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์รวบรวมทุนค่าขนม ทำบราวนี่ไปบริจาคให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด้วย ก็ไปมาหลายที่ อาทิ โรงพยาบาลรามาธิบดี สถาบันบำราศนราดูร ฯลฯ ซึ่งดีใจครับที่อย่างน้อยเราก็ได้ทำอะไรเพื่อช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์บ้างเพราะคนเหล่านี้เหนื่อยมาเยอะมาก





ทุกอย่างเริ่มจากศูนย์ ไม่ลงมือทำก็ไม่สำเร็จ

จริง ๆ ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาขายขนมได้เลย ตอนที่ไปเรียนทำขนม ต้องบอกว่าทุกอย่างใหม่ทั้งหมด เริ่มจากศูนย์เลย ผมไม่มีพื้นฐานด้านการทำขนมมาก่อนด้วยซ้ำ ผมเป็นผู้ชายคนเดียวในห้องเรียนด้วย ก็เขิน ๆ นะครับ มีแต่ผู้หญิง ครูก็เป็นผู้หญิง แต่เราก็ไม่สนใจเพราะเราอยากเรียน เราตั้งใจมาแล้ว

ตอนนี้ผมทำบราวนี่เองทุกขั้นตอน ตัดเองทุกชิ้น ทำทุกวันและส่งทุกวัน ซึ่งก็ถือว่ากลายเป็นงานหลักตอนนี้ไปแล้ว คือผมปรับสูตร ปรับรสชาติเรื่อยมา ให้ลงตัว ศึกษาทั้งจากที่เราเรียนมา และศึกษาเพิ่มเติมจากยูทูป จากเพื่อน พี่ น้องแนะนำ ข้อมูลก็มาจากหลาย ๆ ที่ ก็เอาหลักการมาปรับสูตรให้เข้ากับตัวเรา กว่าทุกอย่างจะลงตัวก็ใช้เวลาอยู่ประมาณ 4-5 เดือน

อนาคตถ้าได้กลับไปบิน ผมก็ยังจะทำบราวนี่ขายเป็นงานอดิเรกอยู่ เพราะมีคนชอบขนมของเรา ทำแล้วก็มีความสุข ซึ่งผมอยากจะลองทำขนมใหม่ ๆ ด้วย เพราะที่สร้างแบรนด์ Flying Sweets ขึ้นมา จริง ๆ ผมไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องเป็นบราวนี่เพียงอย่างเดียว แต่อาจจะรวมขนมหวานต่าง ๆ ด้วย

โดยความฝันผมอยากมีหน้าร้านเป็นของตัวเอง อยากเจอลูกค้า อยากพูดคุยกับลูกค้า อยากให้ลูกค้ามานั่งทานขนมของเรา ตอนนี้ก็มีหัดทำ Soft Cookies บ้างแล้ว ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนปรับสูตรอยู่ครับ

ส่งต่อกำลังใจไปยังคนที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

จากวิกฤตครั้งนี้ ผมมองว่าทุกคนได้รับผลกระทบกันหมด มีคนที่แย่กว่าเรา มีคนที่ตกงาน ไม่มีงานทำ โดนบริษัทไล่ออก มีคนเหล่านี้อยู่เยอะมาก ๆ เพราะว่าบริษัทปิดกิจการไปเยอะ ดังนั้นต้องมีคนที่หาเช้ากินค่ำ ที่เขาไม่มีเงินใช้เลยในแต่ละวัน แต่อย่าไปเครียดนะครับ อย่าเพิ่งไปซีเรียสกับสถานการณ์เลวร้าย ผมเชื่อว่ายังไงสักวันมันจะดีขึ้น ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน เหมือนที่ทุกคนมีความทุกข์แหละครับ ผมเชื่อว่าทุกข์ได้ไม่นาน เดี๋ยวความทุกข์มันก็หายไป

พยายามมองมุมบวกครับ การที่เราทำงานไม่ได้ ผมอยากให้มองว่ามันเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้อยู่กับตัวเอง ได้อยู่กับครอบครัว ทุกคนมีความสามารถ อยากให้คิด อยากให้เริ่ม และอยากให้ลงมือทำเลย อะไรก็ได้ จะทำกับข้าว ทำขนม เล่นดนตรี ฯลฯ


ลองมองหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ จะทำอะไรก็ได้ ทุกอย่างต้องลองลงมือทำ ถึงจะรู้ว่าตัวเองชอบอะไร อยากทำอะไร ซึ่งตอนแรกมันก็จะแย่แหละครับ มันยังไม่ดีหรอก เหมือนกับผมที่ทำบราวนี่ ก็ใช่ว่าจะดีเลย ทำเสีย ทำไม่อร่อย ทิ้งมาก็เยอะ แต่ขอให้เราได้ลงมือทำก่อน มันจะล้มสักกี่ครั้ง ก็ถือว่าเป็นบทเรียนที่ทำให้เรารู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก รู้แล้วก็เริ่มใหม่ อย่าไปมัวซึมเศร้า พยายามมองสิ่งดี ๆ รอบตัวเรา ยังมีอีกเยอะครับ



เรื่อง : วรัญญา งามขำ



กำลังโหลดความคิดเห็น