โฆษก ศบค. แถลงผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ผู้ป่วยสะสมทั่วโลกทะลุ 4 ล้าน ยืนยันกระบวนการปลดล็อกระยะ 2 ยังเดินหน้า เตรียมหาพื้นที่ Sandbox ทดสอบก่อนประกาศจริง ส่วนการตรวจเชิงรุกเดินหน้า 4 จังหวัด พบผู้ป่วยเพียง 0.55% ย้ำ เปิดตลาดนัดสวนจตุจักรมาตรการเข้ม แต่ประชาชนต้องปฏิบัติตาม แนะช่วยกันดูแลสุขภาพในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพื่อให้มีพื้นที่เปิดโล่งมากขึ้น
วันนี้ (9 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ระบุว่า ผู้ป่วยรายใหม่ในวันนี้ 4 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,004 ราย หายป่วยสะสม 2,787 ราย เสียชีวิต 1 ราย สะสมรวม 56 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่ 4 ราย ประกอบด้วย หญิงไทย อายุ 36 ปี ชาวกรุงเทพฯ สัมผัสผู้ติดเชื้อยืนยันก่อนหน้า หญิงไทย อายุ 28 ปี พนักงานห้างสรรพสินค้าในจังหวัดภูเก็ต กลับภูมิลำเนาที่จังหวัดปราจีนบุรี ส่วนเพศหญิง 41 ปี และเพศชาย 44 ปี จากการค้นหาเชิงรุกที่จังหวัดยะลา สัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นชายไทย 68 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ภูมิลำเนากรุงเทพฯ มีอาการไข้ ปวดกล้ามเนื้อ หายใจลำบาก เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ต่อมาอาการแย่ลง มีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดและไตวาย ขณะที่จังหวัดพัทลุง ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 28 วันที่ผ่านมา
สถานการณ์โลก ผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,012,848 ราย รักษาตัว 48,669 ราย รักษาหายแล้ว 1,384,590 ราย เสียชีวิต 276,216 ราย สหรัฐอเมริกายังเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมา สเปน อิตาลี สหราชอาณาจักร รัสเซีย ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 66 ผู้ป่วยรายใหม่พบสหรัฐอเมริกามากที่สุด รองลงมา บราซิล รัสเซีย สหราชอาณาจักร และอินเดีย ผู้เสียชีวิตรายใหม่ พบสหรัฐอเมริกามากที่สุด รองลงมา บราซิล สหราชอาณาจักร อิตาลี ฝรั่งเศส ประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ พบชาวมอสโกขยายระยะเวลาล็อกดาวน์ถึงวันที่ 31 พ.ค. และให้สวมหน้ากากผ้าและถุงมือในที่สาธารณะและขนส่งมวลชน
ประเด็นที่น่าสนใจในประเทศไทย พบการผลิตชุด PPE รุ่นเราสู้ ใช้และซักได้ 20 ครั้ง ผลิตลอตแรก 44,000 ชุด กระจายให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ ใช้เฉพาะความเสี่ยงต่ำอยู่ ส่วนกระทรวงศึกษาธิการมีมติเปิด-ปิดเทอมใหม่ ปิดเทอม 2 ช่วง 54 วัน การนำคนไทยกลับจากต่างประเทศ มีเพิ่มเติมวันที่ 12 พ.ค. มาจากภูฏาน วันที่ 14 พ.ค. มาจากเยอรมนี และ บังกลาเทศ วันที่ 15 พ.ค. มาจากสิงคโปร์ และ บาห์เรน ใครยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน สามารถอยู่ในประเทศนั้นๆ ต่อได้ โดยสถานทูตจะดูแล ผู้เดินทางเข้าประเทศที่ต้องกักตัวในพื้นที่กักกัน ทั้ง State Quarantine และ Local Quarantine พบยอดคัดกรองเพิ่มขึ้น 697 ราย สะสม 15,069 ราย กลับบ้านได้แล้ว 581 ราย สะสม 5,661 ราย พบเชื้อสะสม 87 ราย (ไม่มีเพิ่ม) ส่วนความผิดจากการชุมนุมมั่วสุมลดลง แต่อันดับ 1 เล่นการพนัน รองลงมายาเสพติด และอื่นๆ ส่วนการตรวจกิจการและกิจกรรม 16,024 ราย ไม่ปฏิบัติตาม 392 ราย ส่วนมากจะเป็นร้านอาหาร ร้านค้าปลีก ตลาด และร้านตัดผม
ในช่วงตอบคำถาม เมื่อถามถึงกระบวนการรับฟังความคิดเห็นการปลดล็อกในระยะที่ 2 ชี้แจงว่า ตั้งแต่การประชุม ศบค.ชุดใหญ่ หลังรับฟังความคิดเห็นวันที่ 8-12 พ.ค. แล้ว ในวันที่ 13 พ.ค. จะมีการประเมินผลระยะที่ 1 ซักซ้อมทำความเข้าใจ และวันที่ 14-15 พ.ค. จะยกร่างขึ้นมาใหม่เพื่อรองรับระยะที่ 2 โดยการหาสถานที่ทดลอง (Sandbox) ศึกษาและประเมินผลในวันที่ 16 พ.ค. หากผ่าน วันที่ 17 พ.ค. จะประกาศปลดล็อกในระยะที่ 2 แต่จะต้องปรึกษาด้านสาธารณสุข ฝ่ายความมั่นคง และภาคเอกชน การตรวจเชิงรุกที่คลองเตย และจังหวัดอื่นๆ ผลออกมาเป็นอย่างไร ชี้แจงว่า กรมควบคุมโรคหาผู้ป่วยเชิงรุก 4 จังหวัด รวม 7,993 พบ 44 ราย คิดเป็น 0.55% ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พบผู้ติดเชื้อ 1 ราย ยะลา พบผู้ติดเชื้อ 20 ราย ภูเก็ต พบผู้ติดเชื้อ 26 ราย และกระบี่ พบผู้ติดเชื้อ 3 ราย ระบบนี้กำลังทำงานอยู่และตรวจไปเรื่อยๆ
ตลาดนัดสวนจตุจักรที่เปิดวันแรก หลายคนกังวลและอยากให้ย้ำถึงวิธีปฏิบัติตัว ชี้แจงว่า ผู้ใช้บริการและผู้ที่เปิดกิจการมีส่วนสำคัญอย่างมาก จากการประกาศมีข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 มีตารางบอกถึงมาตรการต่างๆ มาตรการเข้าไปตรวจ จะไปดูระดับการตรวจ 3 ระดับ ได้แก่ มาตรการหลักโดยฝ่ายความมั่นคง สุ่มตรวจทั่วประเทศ, มาตรการเสริมเฉพาะกิจการ กิจกรรมนั้นๆ ตรวจในระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล, คู่มือปฏิบัติ กระทรวงต่างๆ จะออกมา ก็จะเข้าไปตรวจโดยละเอียด เพื่อให้ปลอดเชื้อ ปลอดภัย แต่ประชาชนไปแล้วต้องสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ ดูการทำความสะอาดพื้นผิวด้วยตัวเอง หลีกเลี่ยงจุดที่คนหนาแน่น เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลจะตรวจโควิด-19 แก่ผู้จำหน่ายอาหาร ชี้แจงว่า ผู้จำหน่ายอาหารไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 6 ประเภท แต่ทุกคนก็ถือว่ามีความเสี่ยง สิ่งสำคัญต้องอยู่ในมาตรการหลัก 5 ข้อให้ได้ พยายามควบคุมป้องกันตัวไว้ เช่น สวมหน้ากาก สวมหมวก ซึ่งการตรวจเชื้อไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัย หากทำตัวอิสระเสรีเกินไปจะติดเชื้อในวันต่อมาก็ได้ ในตอนท้าย นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ฝากช่วยกันดูแลสุขภาพ ช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่านในระยะที่ 1 ทำทุกอย่างให้มีสติ เพื่อให้อีก 7-14 วันข้างหน้าได้มีพื้นที่เดินทางเปิดโล่งมากกว่านี้
