หากใครก็ตามที่กำลังจะมีงานแต่งงานเกิดขึ้นซักงาน อาจจะต้องประสบปัญหาหลักๆ อยู่หนึ่งอย่าง นั่นคือ ‘ภาพลักษณ์’ เพราะแน่นอนว่า เรื่องของสินสอดทองหมั้นนั้น ในบางคราวอาจจะถูกนำไปนินทาลับหลังได้ ถ้าไม่สามารถนำมาโชว์ได้ แต่ปัญหาที่ว่านี้จะคลี่คลายไปได้ เนื่องจากในปัจจุบันนี้ ได้มีธุรกิจลักษณะว่าบริการเช่าสินสอด เอาไว้รองรับปัญหากรณีดังกล่าวไว้แล้ว โดยบริษัทโรแมนทิส ซึ่งมี “ข้างกาย เอรียาสกุล” คอยกุมบังเหียนและเป็นเจ้าของไอเดียนี้ ซึ่งธุรกิจลักษณะนี้ที่เป็นเจ้าแรกในเมืองไทย ก็ได้ผ่านการเสริมหน้าตาผ่านภาพลักษณ์ในงานแต่งงาน มากว่า 300 งาน ในระยะเวลากว่า 2 ปี เข้าไปแล้ว
มีคนที่มีรสนิยมในการไปเช่าสินสอดทองหมั้น มีจำนวนมากมั้ย
มีเยอะค่ะ เราว่าเราแปลกแล้วนะ ดันมาเจอลูกค้าที่แปลกกว่าเราอีก คือโดยปกติแล้วคนทั่วไปเขาก็ไม่ทำกัน ที่จะเอาเงินตัวเองไปให้คนอื่นเช่า แล้วก็มีคนเช่าจริงๆเอาไปโชว์ และก็เสียเงินไปไม่น้อยด้วย แต่ถ้าจ่ายหลักหมื่น จะสามารถเช่าได้ในราคาหลักล้าน มันก็เหมือนกับเราไปเช่าชุดแต่งงาน รวมถึงเช่าอุปกรณ์ที่จะใช้ในวันแต่งงานเหมือนกันเลย เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 3 แสนบาทต่อวัน
เวลาที่เราให้เขาเช่าไป ก็จะมีทีมงานไปเฝ้า
ก็ต้องมีทีมงานเอาสัญญาไปให้เซ็น จากนั้นก็เอาเงินไปให้ แล้วก็คอยเอาเงินกลับ แล้วเวลาเข้าไปในงานของลูกค้าก็จะเหมือนกับแขกทั่วไป ไม่ใช่ลักษณะว่าไปยืนเฝ้าเงินนะ ทีมงานของเราก็เหมือนกับเป็นแขกคนหนึ่งของงานเหมือนกัน คือเหมือนกับไปเฝ้าเงินน่ะค่ะ แต่เฝ้าห่างๆ ตั้งแต่เริ่มธุรกิจมาเคยที่เงินหายเลยนะคะแม้แต่ใบเดียว เพราะว่าลูกค้าก็ระวังในเรื่องของการเสียนะหน้าอยู่เหมือนกัน ทุกอย่างจะเป๊ะ ตามสัญญาเลย ลูกค้าทำยังไงได้บ้าง คืนเงินตอนกี่โมง คือทำตามทุกขั้นตอนหมด จนเราไม่ต้องไปคอยระวังแล้ว เพราะเขาก็กลัวว่าคนอื่นจะรู้เหมือนกัน
เคยคิดมั้ยว่า ธุรกิจของคุณสอนให้คนโกหก
ไม่นะคะ เราว่าเป็นประเด็นที่ดี เพราะเงินสินสอดที่ให้แม่เจ้าสาว คือจริงๆเขาก็รู้นะว่าเงินนี้มันไม่ได้ แต่ก็ทำเพราะเพื่อหน้าตาในสังคม เพื่อให้ได้รูปและภาพลักษณ์ที่ดี เพื่อให้ครอบครัวไม่โดนติฉินนินทา คือถ้ามีสินสอดน้อย เขาจะมีการนินทากันว่าลูกบ้านนี้ไม่ได้ราคา คนไทยเป็นอย่างนี้ค่ะ ซึ่งลูกค้าของเราก็ไม่ใช่มีแค่ฝ่ายเจ้าบ่าว เจ้าสาวนะคะ บางครั้งพ่อแม่ของเจ้าสาว เขามาเช่าเงินจากเราก็มี เราไม่ได้หลอกกันเองนะคะ แต่เพื่อหน้าตาอย่างที่บอก แบบเสียเงินไม่ว่า แต่เสียหน้าไม่ได้ ประมาณนี้ อย่างลูกค้าบางคนมีพ่อเป็นผู้ใหญ่บ้าน ก็สินสอดน้อยไม่ได้อีก ถ้าเจ้าบ่าวไม่มีเงินมาขอก็ไม่สมน้ำสมตาอีก มันจะมีการนินทากัน
มีการไปสำรวจชีวิตหลังจากแต่งงานของลูกค้าที่มาใช้บริการของเรามั้ย
มันไม่ต่างกันเลยระหว่างเงินจริงของเขากับเงินปลอมของเรา อย่างเช่นว่าคุณอยู่บ้านแบบนี้ บ้านที่ไม่ได้สวยงามเท่าไหร่ แต่เวลาที่ไปจัดงานก็ไปโรงแรม มันเหมือนกับการอัพเกรดเพื่อหน้าตา แบบบ้านเป็นอย่างนี้แต่จัดสถานที่สวยหรู สินสอดไม่มีก็เช่ามาวาง ชุดแต่งงานก็ไม่มีเข้ามาเหมือนกัน ทุกอย่างเป็นการเช่าหมด ถามว่าโกหกไหมก็ไม่ คนในบ้านรู้กันเ พียงแต่ว่าคนนอกบ้านก็ไม่รู้ด้วย
แล้วเคยมีคนนอกบ้านมารู้มั้ยว่า มีการเช่าเงินจากธุรกิจของเรา แล้วไปนินทากัน คุณเก็บความลับนี้ยังไง
ถ้าจะทราบจากฝั่งทีมงานของเรา ไม่เคยค่ะ เพราะว่าเราจะมีเอกสารทั้งหมดที่เป็นความลับ ทุกอย่างคือเอาเงินไปให้แล้วรออยู่ห่างๆ เสร็จพิธีแล้วเอากลับ เพียงแต่ว่าก็ปากคน บางงานเขาก็ไม่ได้เช่าหรอกเป็นเงินของเขา ก็มีการโดนคิดว่าไปเช่ามา คือก็มีคนหลายประเภทให้สังคมนะครับพี่ เอกสารสัญญาสามารถฟ้องได้เลย เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร ในแฟนเพจหรือเว็บไซต์ของเราไม่เคยเอาภาพของลูกค้ามารีวิว ไม่มีภาพบรรยากาศในงานแม้แต่รูปเดียว ที่เราทำได้ก็คือมาสัมภาษณ์สื่อต่างๆว่ามันมีธุรกิจลักษณะนี้จริงๆ มาบอกว่ามีรูปเงินกับลูกค้าที่แต่งงานกันจริงๆ แต่เราก็มีการจ้างนักแสดงเพื่อมาประกอบในการโฆษณาธุรกิจของเรา และไม่สามารถนำของลูกค้ามาได้อย่างที่บอก ทุกอย่างเป็นความลับหมด
เรียกว่าธุรกิจของคุณเป็นแบบครบวงจรเลย
มีทอง มีเงิน มีคนร่วมงาน เพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว อย่างกรณีเพื่อนเจ้าบ่าวบางครั้งเขาก็ไม่ค่อยกล้าที่จะทำอะไรในพิธี เงียบๆ เราก็เลยมีบริการเช่าเพื่อนเจ้าบ่าว ที่สามารถแต่งตาม Theme งานได้ แถมหน้าตาดีด้วย และสามารถที่จะทำพิธีได้ ซึ่งเราก็หามาจากนักแสดงประกอบละครต่างๆ ซึ่งมาจากทางทีมละครต่างๆ เราก็จ้างมาเหมือนกัน
ขณะเดียวกัน ธุรกิจของคุณ ถือว่าเป็นเจ้าเดียวมั้ย
สำหรับเราถือว่าเป็นเจ้าแรกในไทย แต่พอเริ่มแล้วก็เริ่มมีคู่แข่ง ก็มีมาจะพยายามเลียนแบบ แต่เขาก็ไม่ค่อยได้เครดิตเหมือนกับเรา หรือลูกค้าบางคนเขาก็เคยโดนโกงมาก็มี โดนหลอกให้โอนเงินไป โดนหลอกให้ทำสัญญาแต่สุดท้ายมาพบว่าบริษัทที่เขาทำนั้นไม่มีตัวตน ส่วนของเราก็มีสัญญาชัดเจนและสามารถฟ้องร้องกันได้อย่างที่บอก เราเปิดบริษัทมาประมาณ 2 ปี จัดงานลักษณะอย่างนี้มาประมาณ 300 งานได้ ซึ่งรายรับที่เราได้มาก็เยอะนะคะ แต่รายจ่ายภายในบริษัทก็เสียไปเยอะเหมือนกัน
อย่างเวลาที่ลูกค้าติดต่อมา ทางบริษัทจะทำอะไรให้เขาบ้าง
ถ้ามีลูกค้าติดต่อมาเราก็จะถามข้อมูลรายละเอียดคร่าวๆ เช่น แต่งกันวันที่เท่าไหร่ที่ไหน ต้องการทรัพย์สินเท่าไหร่ ซึ่งถ้ามีการสรุปค่าใช้จ่าย เราก็แจกแจงละเอียดว่าเป็นยังไง เช่นว่า ถ้าเช่าเงินประมาณ 500,000 เราก็คิดค่าใช้จ่ายประมาณ 20000 บาท แล้วก็ทำสัญญาโอนค่ามัดจำไปให้ 5,000 บาท
จุดเริ่มต้นของธุรกิจนิ้ มันเริ่มมาจากกิเลส อยากให้ช่วยอธิบายหน่อยครับ
เริ่มต้นมาจากธุรกิจออนไลน์ที่มีพ่อค้าแม่ค้านำครีมมาขายเยอะๆ เขามีการต้องการทีมงาน เพราะว่าเขาเป็นนักขายมือใหม่ ยังไม่ค่อยมีรายได้เท่าไหร่ แต่ว่าอยากมีลูกทีม เขาจะอยากโชว์ว่าทำธุรกิจนี้มันดี เขาได้เงินอย่างนี้แล้วก็จะส่งครีมมา ให้วางกับเงินกับทอง แล้วก็ถ่ายรูปแล้วส่งให้ลูกค้าเขาก็จะไปโพสต์รูปตามเพจของเขา ว่าถ้าทำยอดได้เท่านี้จะได้เงินและได้ทอง มันก็เป็นหนึ่งในพร็อบ อย่างขายสินค้าบางอย่าง เอาดอกไม้บางอย่างไปถ่ายในสตูดิโอ มันก็คือพร็อบอย่างหนึ่ง
อย่างการโฆษณา ถ้าแม่ทีมโฆษณาได้เท่านี้ จะได้ทองได้แหวนทอง ก็เป็นเพราะจากเรา มันเลยต่อยอดจนมาเป็นธุรกิจเช่างานแต่งงาน ส่วนธุรกิจนี้ พร็อบที่ว่า ก็มาจากเงินเก็บของเรา แล้วเอามาเป็นอุปกรณ์ในการทำธุรกิจของเราต่อ ประมาณว่าเงิน 500000 บาท มาใช้แบบเงินต่อเงิน จำได้ว่างานแรกที่เราทำ เราเอาเงินให้เขาเช่า 500,000 บาทแล้วก็ได้ค่าจ้างมาประมาณ 35,000 บาท
ในงานแรกนั้น มีคนติดต่อให้รู้จักเราได้ยังไง ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการโปรโมตเลย
ก่อนที่เราจะได้งานแรกนั้น เราก็มีการอธิบายให้คนรอบข้างฟังอยู่ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเรา แม้กระทั่งแม่เราเอง ก็ยังบอกว่าอย่าไปทำ ไม่มีใครเชื่อเธอหรอก แต่เราก็ยังดื้อต่อไปว่ามันต้องได้สิ ก็มีการทำรายละเอียดของเราขึ้นมา แล้วก็ตั้งแฟนเพจ แล้วก็โพสต์อธิบายถึงธุรกิจของเรา คนที่เข้าไปอ่านก็มีความรู้สึกงงเหมือนกัน ว่าเป็นเรื่องตลกหรือเปล่า โพสต์นั้นก็ถูกแชร์ต่อๆกันไป มีการดราม่ากัน แต่ก็มีลูกค้าที่สนใจแล้วก็ติดต่อเราเป็นจำนวนมากเช่นกัน
เช่นเดียวกัน เจ้าภาพงาน อย่างฝ่ายเจ้าบ่าว อาจจะไม่ได้มีเงินมาก แต่ขอมาเอาภาพ ซึ่งหลายๆ คน ก็เป็นแบบนั้น
ใช่ค่ะ อย่างลูกค้าบางรายก็มีเงินเก็บของเขาเอง เพิ่งในนั้นเขาก็ไม่ใช่ไม่มีเงินเก็บนะแต่เขายอมที่จะเอาเงินเก็บตรงนั้นมาให้กับเราเพื่อที่จะสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดี จะเห็นได้เลยว่าลูกค้าเหล่านี้พื้นฐานเขามีหน้าที่การงานที่ดีอยู่แล้ว มีสังคม แต่ในงานของเขาก็เสียค่าใช้จ่ายไปเยอะแล้ว จากค่าใช้จ่ายต่างๆ เรียกว่าหมดไปกับการจัดงาน แล้วในส่วนของสินสอดนั้นคิดว่าจะไปหาจากไหนทันล่ะคะ ถ้าไปกู้ธนาคารเขาไม่น่าจะให้แบบเร็วๆขนาดนั้นมันต้องผ่านขั้นตอน แต่ถ้ามาโทรมาที่เรา เราสามารถจัดการให้ได้ทันที
เรทค่าเช่าในแต่ละครั้ง คิดยังไง
ถ้าใครแต่งงานในกรุงเทพฯปริมณฑลและเชียงใหม่ หากเช่าสินสอดมูลค่า 50,000 เราจะคิดอยู่ที่ 20000 บาทต่อครั้ง จากปกติ 35000 บาท หรือสินสอดเรทมูลค่า 1 ล้าน เราจะคิดค่าเช่าเพียง 35000 บาทต่อครั้ง จากราคาปกติ 50000 บาท ค่ามัดจำ 5,000 บาท คือถ้ามีการโอนค่ามัดจำไปแล้ว ล็อกสัญญาล็อกคิวเลย ว่ามีรายละเอียดอะไรบ้าง พอถึงวันงานเราก็นำเงินจากที่ตกลงกันไว้ให้เลย ส่วนเงินที่เอามาใช้เป็นแบบนั้น ก็จะอยู่ที่ทีมงานในแต่ละทีม บางทีมีติดตัวไว้ 500000 บ้างหรือบางทีมันก็มีติดตัวอยู่ที่ 1 ล้านบาทบ้าง จากนั้นอาจจะใช้วิธีสะพายกระเป๋าแล้วนำไปใช้ในงาน หรือบางครั้งเราจะนำไปฝากในธนาคารแล้วค่อยเบิกออกมาที่ปลายทางของงาน แต่ตอนช่วงแรกของธุรกิจเราไม่ได้ทำธุรกรรมผ่านทางแอพพลิเคชั่นของธนาคาร เลยทำให้บางครั้งต้องเอาเงินใส่กระเป๋าแบบขึ้นเครื่องกลับบ้านก็มี แล้วก็ผ่านแบบไม่มีปัญหาแถมบ่อยครั้งด้วย เพราะโดยส่วนตัวเราจะอยู่ที่เชียงใหม่เป็นหลัก บัญชีเดินสะพัดต่างๆก็ทำธุรกรรมที่เชียงใหม่ แต่ในตอนหลังเราก็มาเปิดบัญชีที่กรุงเทพฯด้วยเพราะว่ามีลูกค้าเริ่มเยอะขึ้น แต่ก่อนหน้านั้นก็อย่างที่บอกอ่ะค่ะ
จากการแบกเงินขึ้นเครื่องบิน ไม่กลัวเหรอ
เอาจริง ๆ คือหนูก็กลัวเหมือนกันนะ แต่เราก็ไม่ได้แต่งตัวบ่งบอกฐานะขนาดนั้น เราก็แต่งตัวตามปกติแล้วก็แบกกระเป๋าที่มีเงินอยู่ข้างในจากนั้นก็ไปที่งาน ส่วนหน้าที่จัดเรียงนั้นก็อยู่ที่ลูกค้า คือเวลาที่ไปถึงงานเราก็ให้ลูกค้านำบัตรประชาชน มาแลกเอาเงินไป หลังจากนั้นพอได้เงินไปปุ๊บก็เอาไปทำอะไรก็ได้แล้วแต่ภายในงาน แต่พอจบงานปุ๊บลูกค้าก็ต้องนำเงินมาคืนแล้วก็เอาวันกลับไป ซึ่งเวลารับเงินสินสอด ก็ต้องมีการแอบนิดนึง อาจจะเป็นห้องน้ำบ้าง หรือในรถบ้าง ซึ่งโดยปกติแล้วการเช่าเงินสินสอดในแต่ละครั้งเราก็จะไปตั้งแต่ช่วงเดินขันหมากแล้ว เพราะช่วงเวลานั้นยังไม่ค่อยมีคนมาเท่าไหร่ เราก็จะมาทำสัญญากับลูกค้า หลังจากนั้นก็จะเป็นพิธีของงาน ถ้าเสร็จแล้วก็นำมาคืนในที่ลับๆ
“บริษัทโรแมนทีส ให้เช่าสินสอดวันแต่งงาน โดยคุณข้างกาย - เจ้าแรกในไทย” หรือโทรมาที่ 061-8108404 ขณะเดียวกัน ทางเราก็มีการช่วยสังคมอยู่เหมือนกัน คือเปิดเพจเพื่อช่วยเหลือกลุ่มที่ถูกละเมิดทางเพศ ชื่อเพจว่า “ผู้หญิงที่ชื่อข้างกาย” คอยให้คำปรึกษาให้กับพวกเขา มีทั้งจิตอาสาและจิตแพทย์มาร่วมเป็นทีมงานในเพจนี้ค่ะ
เรียบเรียงโดย : สรวัจน์ ศิลปโรจนพาณิชภาพ : แฟนเพจ บริษัทโรแมนทีส ให้เช่าสินสอดวันแต่งงาน โดยคุณข้างกาย - เจ้าแรกในไทย