นพ.อุสาห์ พฤฒิจิระวงศ์ ได้โพสต์เรื่องราวทารกเพศชาย อายุ 2 เดือน มีไข้ 3 วัน ไอมีเสมหะ 4 วัน เมื่อตรวจร่างกาย เอกซเรย์ปอดพบมีเสมหะเปรอะๆ ทั้งสองข้าง ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ ขอส่งตรวจโควิด-19 ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ไม่เห็นพ้องแจ้งว่าไม่เข้าเกณฑ์ นอกจากนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการส่งสัญญาณว่าระลอกสองกำลังมา
เมื่อวันที่ 29 เม.ย. เฟซบุ๊ก “หมอแต๋ง รักชา” ของ นพ.อุสาห์ พฤฒิจิระวงศ์ ได้โพสต์เรื่องราวทารกเพศชาย อายุ 2 เดือน มีอาการไข้ 3 วัน ไอมีเสมหะ 4 วัน วันนี้มาหาหมอด้วยอาการไอมีเสมหะ ตรวจร่างกาย น้ำหนัก 4.5 กิโลกรัม วัดปรอททางรักแร้ 37.2 เซลเซียส หายใจ 48 ครั้งต่อนาที ชีพจร 152 ครั้งต่อนาที เสียงปอดมีเสมหะเปรอะๆ ทั้งสองข้าง เสียงหัวใจปกติ ภาพเอกซเรย์เป็นดังภาพ หัวใจปกติ หากเป็นโควิดก็อธิบายได้ เพราะเด็กอายุ 2 เดือน ยังเดินเล่นไม่ได้ ส่วนมากอยู่ท่านอน ส่วนเด็กโตกับผู้ใหญ่อยู่ในแกนวายแนวตั้งมากกว่าแนวนอน ปอดโควิดจึงพบกลีบล่างมากกว่ากลีบบน
ซึ่งทารกรายนี้เลี้ยงนมแม่ร่วมกับนมขวด มารดาเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกอยู่บ้าน บิดาทำงานในหน้าที่นับตู้คอนเทนเนอร์ในเรือสินค้าที่มาจากต่างประเทศ และปัญหาที่เกิดขึ้น คือ ขอส่งตรวจโควิด-19 ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดไม่เห็นพ้องแจ้งว่าไม่เข้าเกณฑ์ จึงไม่ให้รหัสส่งตรวจ PCR
อย่างไรก็ตาม ทารกอายุ 2 เดือน นับว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง ต่อให้ผลเอกซเรย์บิดามารดาปกติจะบอกว่าไม่ใช่โควิด-19 ได้ไหม เรื่องวัดไข้ไม่ขึ้น หมอที่ไหนการันตีอุณหภูมิร่างกายว่าไม่มีไข้แปลว่าไม่ป่วย ทั้งนี้ นพ.อุสาห์ ระบุถึงปัญหาในการทำงาน ที่คนไม่เห็นคนไข้กำหนดการทำงานของคนที่มีความเสี่ยงหน้างานและรู้เรื่องอาการคนไข้มากกว่า ให้คนที่รักษาโรคไม่เป็นมากำหนดการดูแลรักษาโรค กระบวนการทำงานที่ให้อำนาจคนที่ไม่รู้เรื่องโรคมาเพิ่มแรงกดดันด้านหลังของหมอ พยาบาล ส่วนคนไข้และสังคมก็กดดันจากด้านหน้า จะมีใครรู้บ้างว่าคนทำงานโดนกดดันเช่นนี้อยู่
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ยืนยันว่า เด็กจะติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ แต่ถ้าหากรายนี้เป็นโควิด-19 จะเป็นการส่งสัญญาณว่าระลอกสองกำลังมา หากระลอกสองมาจริง และการสนับสนุนหน้างานยังเป็นเช่นนี้ หมอพยาบาล อาจสิ้นหวังขอกักตัวเองอยู่บ้าน