“หมอปิง” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่ง เผยเรื่องราวความประทับใจมุมมองการใช้ชีวิตของคนไข้ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึง ที่ถูกน้ำกรดสาดหน้า ชี้ บาดแผลสาหัสทำอะไรจิตใจเธอไม่ได้เลย หมอแนะหากใครกำลังท้ออาจจะนำมาเป็นกำลังใจในการต่อสู้ชีวิตในช่วงโควิดนี้
วันนี้ (28 เม.ย.) เฟซบุ๊ก “Ping Aranyapala” หรือ นพ.ดุลยณัฐ อรัณยะปาล หรือ หมอปิง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่ง และแม็กซิโลเฟเชียล โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา ได้ออกมาเผยเคสการรักษาที่ทำอิ่มเอมหัวใจมากที่สุด โดยระบุว่า ได้ทำการรักษาคนไข้หญิงสาวที่หัวใจเข้มแข็งมาก เพราะเธอโดนน้ำกรดกัดบริเวณใบหน้า ซึ่งหมอปิงได้รักษาแผลที่ใบหน้าของเธอ และถึงวันที่นัดเปิดแผลจากการรักษาดู หมอปิง ระบุว่า “แม้จะมีผ้าพันอยู่ แต่ผมก็เห็นรอยยิ้มที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าพันแผล”
หญิงสาวยืนยันกับหมอว่า “หนูต้องสู้ ถ้าหนูไปทำงานไหวหนูก็จะไป หนูมีพ่อแม่ต้องดูแล ถ้าหมดหนูไปคน คนข้างหลังจะอยู่ยังไง เรื่องแผลหนูฝากไว้กับคุณหมอแล้ว หนูมั่นใจ ส่วนเรื่องจิตใจ หนูต้องเข้มแข็ง ซึ่งหมอปิงได้เผยความประทับใจมากๆ กับมุมมองการใช้ชีวิตของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึง ที่บาดแผลสาหัสทำอะไรจิตใจเธอไม่ได้เลย
โดยมีเนื้อหาระบุว่า “วันนี้เป็นวันที่ผมอิ่มเอมหัวใจมากที่สุดอีกวัน ไม่ใช่เพราะผลของการผ่าตัดหรอกครับ แต่เพราะผมประทับใจ จิตใจที่เข้มแข็งของคนไข้ของผมมากกว่า อยากเปิดแผลรึยังครับ เพราะวันนี้เรามีนัดเปิดแผลที่ใบหน้า หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วเราทำการย้ายหนังจากต้นขามาวางเพื่อรักษาแผลที่ใบหน้าที่เกิดขึ้นจากการโดนน้ำกรดกัด โดยหลังจากการวางหนังเราจะต้องปิดแผลไว้ 7 วัน เพื่อให้ร่างกายสร้างเส้นเลือดใหม่มาเลี้ยงหนังที่วางไว้ ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะถ้ากร้าฟขยับ เส้นเลือดที่เกิดขึ้นใหม่จะมาเลี้ยงกร้าฟไม่ได้ ส่งผลให้กร้าฟตาย และใบหน้าจะเป็นแผลตึงรั้งไม่สวยงาม
อยากเปิดแผลแล้วค่ะหมอ แม้จะมีผ้าพันอยู่แต่ผมก็เห็นรอยยิ้มที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าพันแผล
กังวลมั้ยครับ? ไม่เลยค่ะ หนูเชื่อใจคุณหมอ และ หนูมั่นใจมากๆ ผมยิ้มให้บ้าง ผมเองก็มั่นใจเหมือนกันว่ามันจะต้องดีนั่นเพราะผมทำตามแบบที่อาจารย์ที่ศิริราชสอนผมมาทุกอย่าง งั้นเรามาเปิดแผลกัน เราใช้เวลาเปิดแผลประมาณ 15 นาที ค่อยๆ เปิดแผลทีละชั้นๆ จนกระทั่งเข้าสู่ชั้นสุดท้าย
แล้วต่อไปวางแผนยังไงต่อ? ผมชวนคุณนิภาพรคุยไปเรื่อยเพื่อลดความกังวล สู้ค่ะ หนูต้องสู้ ถ้าหนูไปทำงานไหวหนูก็จะไป หนูมีพ่อแม่ต้องดูแล ถ้าหมดหนูไปคน คนข้างหลังจะอยู่ยังไง เรื่องแผลหนูฝากไว้กับคุณหมอแล้ว หนูมั่นใจ ส่วนเรื่องจิตใจ หนูต้องเข้มแข็ง
ผมรู้สึกประทับใจมากๆ กับมุมมองการใช้ชีวิตของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึง บาดแผลสาหัสทำอะไรจิตใจเธอไม่ได้เลย และแล้ว สิ่งที่ทุกๆ คนพยายามกันมา ก็ประสบความสำเร็จ กร้าฟ รอดหมดทุกจุด รอยต่อกร้าฟเนียลตา ไม่มีการติดเชื้อ ตาทั้งสองข้างมองเห็นชัดเจน การทำงานของกล้ามเนื้อบนใบหน้าทำงานได้ดี เธอยังสามารถยิ้มสวยได้เหมือนเดิม
อย่างที่บอกครับ วันนี้ผมรู้สึกประทับใจในพลังการมองชีวิต กำลังใจในการใช้ชีวิต มากกว่าผลของการผ่าตัดเสียด้วยซ้ำ ผมได้ขออนุญาต แชร์รูปภาพและเรื่องราว เผื่อว่าใครที่กำลังท้อกับชีวิต ได้พบอ่านเรื่องราวนี้ อาจจะนำมาเป็นกำลังใจในการต่อสู้ชีวิตในช่วง covid นี้ครับ
สำหรับแผนการรักษาขั้นต่อไป รอยแผลบนใบหน้าจะน้อยลงเรื่อยๆ และเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่เราจะดูแลเรื่องแผลตึงรั้งที่อาจจะเกิดขึ้นที่ตาขวา และเมื่อแผลหายดีแล้วการสักคิ้วทางด้านขวาก็จะยิ่งช่วยใหเใบหน้าดูเป็นธรรมชาติได้มากขึ้นอีก เหมือนที่สัญญาไว้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ผมจะดูแลให้ดีที่สุด ผมสัญญา”
อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นและชื่นชมทั้งคุณหมอที่รักษาคนไข้ด้วยความสามารถ และชื่นชมหัวใจของคนไข้สาวที่เข้มแข็งมากมายในการสู้ชีวิต และยอมเปิดเผยเรื่องราวเพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่ท้อแท้ โดยโพสต์ดังกล่าวมียอดกดไลก์กว่า 2,700 ครั้ง และแชร์ไปกว่า 100 ครั้ง