แพทย์หญิงหนึ่งในทีมรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ของโรงพยาบาลศิริราช โพสต์เล่าเรื่องราวสุดประทับใจในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 หายดี จนสามารถกลับบ้านและมีรอยยิ้มได้อีกครั้ง เผย หมอก็อยากขอบคุณผู้ป่วย ที่มีอาการดีขึ้นจนเป็นกำลังใจในการทำงานต่อไป
เมื่อวันที่ 11 เม.ย. แพทย์หญิงจากโรงพยาบาลศิริราช ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Yoyae Apatsara” ซึ่งเป็นเรื่องราวน่าประทับใจที่เกิดขึ้นระหว่าบุคลากรทางการแพทย์กับผู้ป่วยในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 กำลังระบาดอย่างหนัก ซึ่งเรื่องราวที่แพทย์สาวได้ระบุข้อความไว้ว่า
“วันนี้มีเรื่องราวดีๆ ให้อมยิ้ม (พิมพ์ให้เพราะๆ ไปยังงั้นแหละ เรื่องจริงคือ ยิ้มกว้างมากๆ แม่) ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในทีมวิกฤตโควิด-19 ศิริราช ได้ดูแลคนไข้ใส่ท่อช่วยหายใจทั้งหมด 4 คน ตอนนี้เอาท่อช่วยหายใจออกได้แล้ว 3 คนนะจ๊ะ (พักฟื้นที่ รพ. 1 คน, ส่งตัวกลับ รพ.ต้นสังกัด 1 คน, กลับบ้านแล้ว 1 คน) คนสุดท้ายกำลังฝึกหายใจเพื่อเอาท่อช่วยหายใจออก
ใครจะคิดว่า วันนี้จะมาถึง
ย้อนกลับไป 18 มีนาคม 2563 อยู่เวร ICU COVID วันแรกในชีวิต ตื่นเต้นสุดๆ
พี่พยาบาล : หมอ!! มีเคสรับใหม่นะ เดี๋ยวคนไข้จะขึ้นมาเลย ข้างล่างบอกว่าเหนื่อยมาก ต้องให้ออกซิเจน
เรา : มาเลยพี่ ว่าแต่ว่าเหนื่อยแค่ไหนอ่ะ (แอบกังวลเล็กน้อย..วันแรกก้มาเลยนะ)
พี่พยาบาล : เดี๋ยวเราก็รู้หมอ (ยิ้มอ่อน)
รีบเดินไปใส่ชุด PPE เช็คหน้า เช็คหลัง พอถามประวัติ ตรวจร่างกายคนไข้เสร็จ
เรา : คนไข้มีอะไรจะถามหมอมั้ยคะ
คนไข้เงียบไปพักนึง....แววตาสีหน้าบ่งบอกถึงความกังวล บวกกับเสียงสั่นๆที่ถามออกมาว่า คุณหมอ...หนูจะหายใช่มั้ยคะ
คำถามของคนไข้ทำให้อึ้งไปแป๊บนึง ได้แต่ยิ้มแห้งๆ (ซึ่งคนไข้มองไม่เห็น 55) แล้วก็ตอบว่า หายสิ หมอจะดูแลอย่างเต็มที่เลย คนไข้ก้ต้องช่วยกันนะคะ ทำตามที่บอก หลังจากนั้น 2 วันต่อมา คนไข้ก็เริ่มเหนื่อยมากขึ้นจนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เอกซเรย์ปอดเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ ตอนนั้นทุกคนในทีมอาจารย์ พี่เฟลโล่ พี่พยาบาล ได้ช่วยกันเต็มที่ มีบางวันที่เครียดมาก จนไม่มีรอยยิ้มเลยทั้งวัน คว่ำทีหงายทีอยู่หลายรอบ จนมาถึงวันที่ถอดท่อช่วยหายใจสำเร็จ
ประโยคแรกที่คนไข้พูดหลังถอดท่อ
ขอบคุณคุณหมอ ขอบคุณคุณพยาบาล และทุกๆ คนมาก หนูอยากกอดทุกคนเลย
ตอนนั้นเริ่มมีรอยยิ้มเกิดขึ้นในทีม ทุกคนดีใจมาก เสียงหัวเราะเริ่มเกิดขึ้น แล้วตอบไปอย่างขัดเขินว่า ตอนนี้ไม่ต้องก็ได้จ้ะ เอาให้หายดีก่อนเนอะ วันนี้ได้มีโอกาสโทรคุยกับคนไข้คนนี้ ที่กลับบ้านไปแล้ว มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส แทบจะเป็นคนละคนกับคนที่เจอในวันนั้นเลย คนไข้ยังคงขอบคุณอยู่ตลอดเหมือนเดิม
แต่เอาจริงๆ อยากบอกคนไข้ว่า หมอและทีมการรักษาก็ขอบคุณคนไข้เช่นกัน ที่ดีขึ้น ทำให้พวกเรามีกำลังใจในการดูแลคนไข้คนต่อๆ ไปยิ้มของคุณวันนี้ มีความหมายกับหมอมากๆ”
