ผศ.เอกพงษ์ ตรีตรง อดีตคณบดี คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มีความเชื่อว่า หลังจบการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ประเทศไทยจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากที่มีระบบการดูแลรักษา ระบบการแพทย์และการพยาบาลที่ดีที่สุด จึงอาจจะทำให้ประเทศไทย คือ ทางเลือกอันดับต้นๆ ของโลก
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ผศ.เอกพงษ์ ตรีตรง อดีตคณบดี คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Akekapong Akekapong Treetrong” โดยเป็นการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ของประเทศไทย หลังจากสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทาง ผศ.เอกพงษ์ มองว่า หลังจากจบไวรัสโควิด-19 ประเทศไทยกำลังจะบูม เนื่องจากจะมีนักลงทุนต่างชาติต่างรู้สึกว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ปลอดภัย เศรษฐีต่างชาติกำลังตัดสินใจย้ายที่พำนักมาอยู่ในประเทศที่มีระบบการดูแลรักษา ระบบการแพทย์และการพยาบาลที่ดีที่สุด ประเทศไทยคือ ทางเลือกอันดับต้นๆ ของโลก
ผู้สูงอายุจากหลายประเทศ สนใจที่จะย้ายมาพักระยะยาวกับประเทศที่มีระบบการดูแลมนุษย์ที่ดีอย่างมีระบบ การสร้างเมืองใหม่ๆ จะเกิดขึ้นในไทย การพัฒนาเศรษฐกิจจากคนรวยและเก่งจากทั้งโลก จะทำให้ประเทศไทยเนื้อหอมที่สุด และอาจจะเกิดขึ้นในทุกภูมิภาค เพราะปัจจัยบวกมากมายที่ประเทศไทยของเรามี เช่น ระบบการจัดการอาหารที่เป็นวงจร ที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ทั้งระบบ เป็นดินแดนอาหารและครัวโลก เป็นแหล่งที่ไม่มีวันอดยาก และกันดารอาหาร ค่าครองชีพไม่สูง ดำรงชีพใด้ไม่ยาก สังคมไม่สลับซับซ้อนยุ่งยาก
ระบบเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชการที่ ๙ จะเป็นปรัชญาที่มีคุณค่าที่สุดในโลก ไทยคือศูนย์กลางแนวคิดที่จะมีคนในโลกเข้ามาศึกษาและต่อยอดสู่นวัตกรรมแห่งการอยู่อย่างยั่งยืนและปลอดภัย สภาพอากาศที่ดี ต่อการอยู่อาศัย อากาศร้อนเป็นผลดี เพราะทำให้สถิติการแพร่เชื้อในลักษณะอากาศแบบนี้น้อย ระบบสมาร์ทฟาร์ม ระบบการออกแบบบ้าน ที่มีระบบการอยู่และสร้างนวัตกรรมในครัวเรือน สามารถสร้างสรรค์ใด้ดีในประเทศ การเป็นมิตร ความอารยะของคนไทย ส่วนใหญ่เป็นผลบวกต่อการต้อนรับสิ่งดีดีจากทั้งโลก ระบบกฎหมายที่เปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือในการลงทุนจากต่างชาติ ถือยังเป็นผลบวกไม่ยุ่งยากเมื่อเทียบกับหลายประเทศ มีอุปสรรคอยู่บ้างแต่สามารถแก้ใด้ไม่ยากนัก และสามารถปลดล็อดได้ เช่น EEC. NEC อันมีผลต่อการเสริมสร้างโครงการดีดี
ผมขอเสนอไอเดียนี้กับรัฐบาลเพื่อให้เตรียมความพร้อมในการรองรับและควรมีระบบการบริหารจัดการในการสร้างเมืองเซฟโซน เมืองปลอดภัย เมืองไร้โรค เมืองใหม่ๆ กระจายตัวอยู่ในประเทศทุกจังหวัด มีการสนับสนุนให้เกิดการยกร่างกฎหมายใหม่ๆ ที่ให้โควตาคนเก่งและมีงบประมาณในการร่วมพัฒนาประเทศกับคนไทย แต่ไม่ใช่การขายแผ่นดิน แต่ให้มุ่งเน้นการพัฒนาร่วมเฉพาะผู้มีศักยภาพจากทั้งโลกมาร่วมกันลงทุน อันจะมีเงินหมุนเวียนมหาศาล จากเงินทั้งโลก และถือเป็นการยกระดับประเทศไปพร้อมกันสู่ประเทศพัฒนาแล้ว
รัฐบาลควรจัดให้มีระบบการจัดการในช่วงเวลานี้ทั้งระบบ ที่วางแผนเตรียมการในการระดมทุนจากโพ้นทะเล ควรมีการนำเสนอภาพลักษณ์เชิงความน่าลงทุนและศักยภาพที่ดีสู่สายตาชาวโลกตั้งแต่เนิ่นๆ ควรนำเสนอวิธีการใหม่ๆ ในการแถลงที่ทำให้คนไทยมีกำลังใจ ไม่ใช่ดูหดหู่ แนะนำให้เศรษฐีในไทยที่มีศักยภาพเร่งการลงทุนต่างๆ ที่มีผลต่อการสร้างงาน สร้างรายใด้ โดยเฉพาะการสนับสนุนให้เกิดการกระจายการสร้างเมือง ที่ให้คนไทยใด้มีพื้นที่อยู่สบาย และการเลือกคนต่างชาติที่มีศักยภาพร่วมกันพัฒนาประเทศไปพร้อมกัน จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่เศรษฐี 20 ตระกูล แต่ควรหมายถึงศักยภาพของคนที่มีสายป่านทั้งหมด ที่ทุกคนต่างมีความสำเร็จในแผ่นดินนี้
ควรใช้เวลานี้ยกระดับ ทรัพยากรของชาติ ให้มีคุณค่ามากขึ้น ส่งเสริมระบบเอสเอ็มอีไทยให้เข้มแข็งด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ปัญญาประดิษฐ์ส่งเสริมให้ธุรกิจเล็กๆ รากหญ้าเข้าสู่ระบบการจัดการเพื่อประกันความเสี่ยง เมื่อเกิดสภาวะวิกฤตสามารถมีระบบจ่ายเงินชดเชยใด้ทุกคน ส่งเสริมให้เกิดการออมของประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงระยะยาวให้มากที่สุด ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าสู่แรงงานเสถียร. ระบบแรงงานสำนักงานที่มีระบบประกันสังคม ให้มากที่สุดส่งเสริมให้เกิดการสร้างพลังกับนายจ้างคุณภาพ ที่มีระบบให้เกิดความมั่นคง มีรากฐานดีทั้งระบบ รัฐบาลควรมีกลไกส่งเสริมให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งทั้งระบบ และสนับสนุนเขาให้ลุกขึ้นเดินใด้จากแพลตฟอร์มโครงสร้างที่ยอดเยี่ยมของสังคม ส่งเสริมให้คนในชนบท มีบ้านที่น่าอยู่ มีวงจรอาหารและการดำรงชีพที่แม้มีวิกฤตก็ไม่เดือดร้อน มีระบบพึ่งพาตัวเอง เช่น มีบ่อเลี้ยงปลา การเพาะพันธุ์อาหาร ปลูกพืช ปลูกยาสมุนไพร ระบบการจัดการพลังงานพื้นฐาน และการอยู่อาศัยที่ไม่ต้องใช้เงินตราเป็นหลัก ก็สามารถอยู่ใด้อย่างมีความสุข และอาจต่อยอดสู่การพัฒนาในผลิตภัณฑ์เอสเอ็มอีได้ด้วย โอกาสนี้โอกาสที่ดีสำหรับประเทศไทย ดินแดนสุวรรณภูมิ ดินแดนอุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลาในนามีข้าว ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่บรรพบุรุษรักษาใว้ให้ลูกหลานเราถึงปัจจุบัน