เมื่อไม่นานนี้ U.S. News & World Report เผยผลการจัดอันดับประเทศที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจมากที่สุดในโลก ประจำปี 2563 หรือ Best Countries to Start a Business 2020 ให้ "ประเทศไทย" ติดอันดับที่ 1 ของโลก ประเทศที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นธุรกิจ จากทั้งหมด 73 ประเทศทั่วโลก
โดย 10 อันดับแรก ประเทศที่เริ่มต้นทำธุรกิจดีที่สุดในโลก ได้แก่
อันดับ 1 - ไทย
อันดับ 2 - มาเลเซีย
อันดับ 3 - จีน
อันดับ 4 - สิงคโปร์
อันดับ 5 - อินเดีย
อันดับ 6 - ฟิลิปปินส์
อันดับ 7 - เม็กซิโก
อันดับ 8 - สวิตเซอร์แลนด์
อันดับ 9 - อินโดนีเซีย
อันดับ 10 - แคนาดา
ข้อมูลอ้างอิง https://www.usnews.com/news/best-countries/best-start-a-business
เฟซบุ๊ก ประเทศไทยต้องชนะ เผยแพร่บทความสร้างกำลังใจของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เอกพงษ์ ตรีตง อดีตคณบดี คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ 4DNA และการออกแบบสถาปัตยกรรม หัวข้อ “ประเทศไทยจะบูมหลังโควิด” ซึ่งมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เนื้อหาระบุว่า
“ประเทศไทยกำลังจะบูมหลังโควิด” นักลงทุนต่างชาติต่างเห็นพ้องว่า ประเทศไทยปลอดภัยที่สุด เศรษฐีต่างชาติกำลังตัดสินใจย้ายที่พำนักมาอยู่ในประเทศที่มีระบบการดูแลรักษา ระบบการแพทย์และการพยาบาลที่ดีที่สุด”“ประเทศไทยคือทางเลือกอันดับต้นๆของโลกครับ”“ผู้สูงอายุจากหลายประเทศ สนใจที่จะย้ายมาพักระยาวกับประเทศที่มีระบบการดูแลมนุษย์ที่ดีอย่างมีระบบ”“การสร้างเมืองใหม่ๆจะเกิดขึ้นในไทย”“การพัฒนาเศรษฐกิจจากคนรวยและเก่งจากทั้งโลกจะทำให้ประเทศไทยเนื้อหอมที่สุด" และอาจจะเกิดขึ้นในทุกภูมิภาคเพราะปัจจัยบวกมากมายที่ประเทศไทยของเรามี เช่น ระบบการจัดการอาหารที่เป็นวงจรที่สามารถพึ่งพาตัวเองใด้ทั้งระบบ เป็นดินแดนอาหารและครัวโลก เป็นแหล่งที่ไม่มีวันอดอยาก และกันดารอาหาร“ค่าครองชีพไม่สูง ดำรงชีพใด้ไม่ยาก สังคมไม่สลับซับซ้อนยุ่งยาก”“ระบบเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 จะเป็นปรัชญาที่มีคุณค่าที่สุดในโลก ไทยคือศูนย์กลางแนวคิดที่จะมีคนในโลกเข้ามาศึกษาและต่อยอดสู่นวัตกรรมแห่งการอยู่ยั่งยืนและปลอดภัย”“สภาพอากาศที่ดี ต่อการอยู่อาศัย อากาศร้อนเป็นผลดี เพราะทำให้สถิติการแพร่เชื้อในลักษณะอากาศแบบนี้น้อย ระบบสมาร์ทฟาร์ม ระบบการออกแบบบ้านที่มีระบบการอยู่และสร้างนวัตกรรมในครัวเรือน สามารถสร้างสรรค์ใด้ดีในประเทศ”ระบบสมาร์ทฟาร์ม. ระบบการออกแบบบ้านที่มีระบบการอยู่และสร้างนวัตกรรมในครัวเรือน สามารถสร้างสรรค์ใด้ดีในประเทศ การเป็นมิตร ความอารยะของคนไทย ส่วนใหญ่ เป็นผลบวกต่อการต้อนรับสิ่งดีดีจากทั้งโลกระบบกฏหมายที่เปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือในการลงทุนจากต่างชาติ ถือยังเป็นผลบวกไม่ยุ่งยากเมื่อเทียบกับหลายประเทศ มีอุปสรรคอยู่บ้างแต่สามารถแก้ใด้ไม่ยากนัก และสามารถปลดล็อคได้เช่น EEC. NEC อันมีผลต่อการเสริมสร้างโครงการดีๆ
ผมขอเสนอไอเดียนี้กับรัฐบาลเพื่อให้เตรียมความพร้อมในการรองรับและควรมีระบบการบริหารจัดการในการสร้างเมืองเซฟโซน เมืองปลอดภัย เมืองไร้โรค เมืองใหม่ๆ กระจายตัวอยู่ในประเทศทุกจังหวัด มีการสนับสนุนให้เกิดการยกร่างกฏหมายใหม่ๆ ที่ให้โควต้า คนเก่งและมีงบประมาณ ในการร่วมพัฒนาประเทศกับคนไทย แต่ไม่ใช่การขายแผ่นดิน แต่ให้มุ่งเน้นการพัฒนาร่วมเฉพาะผู้มีศักยภาพจากทั้งโลกมาร่วมกันลงทุน อันจะมีเงินหมุนเวียนมหาศาล จากเงินทั้งโลก และถือเป็นการยกระดับประเทศไปพร้อมกันสู่ประเทศพัฒนาแล้วรัฐบาลควร จัดให้มีระบบการจัดการ ในช่วงเวลานี้ทั้งระบบ ที่วางแผนเตรียมการในการระดมทุนจากโพ้นทะเลควรมีการนำเสนอภาพลักษณ์เชิงความน่าลงทุนและศักยภาพที่ดีสู่สายตาชาวโลกตั้งแต่เนิ่นๆควรนำเสนอวิธีการใหม่ๆในการแถลงที่ทำให้คนไทยมีกำลังใจไม่ใช่ดูหดหู่แนะนำให้เศรษฐีในไทยที่มีศักยภาพเร่งการลงทุนต่างๆที่มีผลต่อการสร้างงาน สร้างรายใด้ โดยเฉพาะการสนับสนุนให้เกิดการกระจายการสร้างเมือง ที่ให้คนไทยใด้มีพื้นที่อยู่สบาย และการเลือกคนต่างชาติที่มีศักยภาพร่วมกันพัฒนาประเทศไปพร้อมกัน จริงๆแล้วไม่ใช่แค่เศรษฐี20ตระกูล แต่ควรหมายถึงศักยภาพของคนที่มีสายป่านทั้งหมด ที่ทุกคนต่างมีความสำเร็จในแผ่นดินนี้ ควรใช้เวลานี้ยกระดับ ทรัพยากรของชาติ ให้มีคุณค่ามากขึ้น ส่งเสริมระบบเอสเอ็มอีไทยให้เข้มแข็งด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ปัญญาประดิษฐส่งเสริมให้ธุรกิจเล็กๆรากหญ้าเข้าสู่ระบบการจัดการเพื่อประกันความเสี่ยง เมื่อเกิดสภาวะวิกฤติสามารถมีระบบจ่ายเงินชดเชยใด้ทุกคนส่งเสริมให้เกิดการออมของประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงระยะยาวให้มากที่สุดส่งเสริมให้ประชาชนเข้าสู่แรงงานเสถียร ระบบแรงงานสำนักงานที่มีระบบประกันสังคม ให้มากที่สุดส่งเสริมให้เกิดการสร้างพลังกับนายจ้างคุณภาพ ที่มีระบบให้เกิดความมั่นคง มีรากฐานดีทั้งระบบ รัฐบาลควรมีกลไกส่งเสริมให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งทั้งระบบ และสนับสนุนเขาให้ลุกขึ้นเดินใด้จากแพลทฟอร์มโครงสร้างที่ยอดเยี่ยมของสังคม!!! ส่งเสริมให้คนในชนบท มีบ้านที่น่าอยู่ มีวงจรอาหารและการดำรงค์ชีพที่แม้มีวิกฤติก็ไม่เดือดร้อน มีระบบพึ่งพาตัวเอง เช่น มีบ่อเลี้ยงปลา การเพาะพันธ์อาหาร ปลูกพืช ปลูกยาสมุนไพร ระบบการจัดการพลังงานพื้นฐาน และการอยู่อาศัยที่ไม่ต้องใช้เงินตราเป็นหลัก ก็สามารถอยู่ใด้อย่างมีความสุข และอาจต่อยอดสู่ การพัฒนาในผลิตภัณฑ์เอสเอ็มอีใด้ด้วย โอกาสนี้โอกาสที่ดีสำหรับประเทศไทย ดินแดนสุวรรณภูมิ ดินแดนอุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลาในนามีข้าว ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่บรรพบุรุษรักษาใว้ให้ลูกหลานเราถึงปัจจุบัน. รักและสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจ คือทางออกครับ
Cr. ขอบคุณบทความโดย ผู้ช่วยศาสตรจารย์ เอกพงษ์ ตรีตรง