บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด มหาชน (STARK) ดีวันดีคืน หลังปรับโครงสร้างบริษัทเมื่อปี 2562 รวมถึงการเข้าไปลงทุนและซื้อกิจการบริษัทต่างๆ ในปีนี้ ส่งผลให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีทิศทาง ดันรายได้เติบโตเท่าตัว โดยไตรมาสแรกรับรู้รายได้เป็นบวก ขณะที่บริษัทย่อย “อดิสร สงขลา” โชว์ผลงานคว้าโครงการบริษัทน้ำมันรายใหญ่เชฟรอน และ ปตท.สผ. มูลค่ากว่า 4.3 พันล้านบาท ไปเป็นที่เรียบร้อย ทำให้บริษัทมั่นใจโกยรายได้ตรงตามเป้าที่วางไว้ 3 หมื่นล้านบาท พร้อมเผยแผนปลายปีเตรียมลงทุนเพิ่มด้านโลจิสติกส์เพื่อเสริมศักยภาพบริการด้านการขนส่ง
ชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานช่วงไตรมาสแรกปี 2563 ว่า เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของ STARK การดำเนินงานของบริษัทลูกของ STARK ต่างเป็นที่น่าพอใจ โดยบริษัท อดิสร สงขลา เพิ่งเซ็นสัญญาสัมปทานจากบริษัทน้ำมันชั้นนำของโลก อาทิ เชฟรอน และ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP มูลค่า กว่า 4,330 ล้านบาท ไปเมื่อกลางเดือนเมษายน ที่ผ่านมา
“การได้งานดังกล่าวของ อดิสร สงขลา แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของ อดิสร สงขลา อย่างชัดเจน และก้าวกระโดด จากปี 2562 ที่มีรายได้ประมาณ 1.5 พันล้านบาท”
ขณะที่ บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) หรือ PDITL ซึ่งเป็นบริษัทที่ STAR ถือหุ้น 99.9% ได้ซื้อกิจการสายไฟอันดับ 1 ที่เวียดนาม (Thipa) มูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังใช้เงิน 541 ล้านบาท เข้าลงทุนในบริษัท ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (“TCI”) ผ่านการซื้อหุ้นทั้งหมดของ บริษัท เอ็น เอ็ม เอ็น โฮลดิ้ง 2 จำกัด (NMN) และเริ่มดำเนินงานทันที โดยวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา NMN2 ได้ดำเนินการจดทะเบียนเพิ่มทุนเป็นจำนวน 500,000,000 บาท จากเดิมที่มีทุนจดทะเบียนจำนวน 1,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 501,000,000 บาท ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว
“การซื้อสองกิจการผลิตสายไฟฟ้าเข้ามา ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของสตาร์ค โดยเริ่มรับรู้รายได้จากทั้งสองกิจการ ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป ทำให้มั่นใจได้ว่า รายได้ของสตาร์ค จะโตเกินกว่า 100% และคาดว่ากลุ่มธุรกิจสายไฟของสตาร์คจะติด Top 10 ของโลกในไม่ช้า”
ชนินทร์ ยังเปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในช่วงต่อจากนี้ ว่า ในช่วงปลายปีบริษัทยังมีแผนเข้าร่วมทุนในบริษัทที่ให้บริการด้านโลจิสติกเพื่อเพิ่มศักยภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับรายได้ของ STARK ปีนี้ บริษัทตั้งเป้าการดำเนินงานธุรกิจสายไฟฟ้าและบริษัท อดิสร สงขลา ว่า จะอยู่ที่ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีรายได้ 12,,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจสายไฟฟ้าเวียดนาม ประมาณ 12,000 ล้านบาท, อดิสร สงขลา ไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาท และจาก เฟ้ลปส์ ดอด์จ ประมาณ 15,000 ล้านบาท และในช่วงปลายปีบริษัทยังมีแผนเข้าร่วมทุนในบริษัทที่ให้บริการด้านโลจิสติกเพื่อเพิ่มศักยภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
“synergy ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น เช่น การรวมคำสั่งซื้อวัตถุดิบ และ การขยายตลาดที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายที่ เฟ้ลปส์ ดอด์จ ไม่เคยทำ จะส่งผลให้บริษัทมีกำไรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างแน่นอน” ชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวทิ้งท้าย