STARK มั่นใจจุดเริ่มต้นซื้อกิจการปีนี้ดันรายได้โตเท่าตัวแตะ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 3 หมื่นล้านบาท ล่าสุดบริษัทย่อย “อดิสร สงขลา” คว้าสัญญาบริษัทน้ำมันของโลก “เชฟรอนฯ-ปตท.สผ.” กว่า 4.3 พันล้านบาท
นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น ( STARK ) เปิดเผยว่า ปี 2563 เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของ STARK โดยเริ่มเดินหน้าซื้อกิจการตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา หลังจากปรับโครงสร้างทุนและธุรกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุดวันที่ 14 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา บริษัท อดิสร สงขลา ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ของ STARK คว้าสัญญาจากบริษัทน้ำมันชั้นนำของโลก เช่น เชฟรอน และบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) มูลค่ากว่า 4,330 ล้านบาท การได้งานดังกล่าวของอดิสร สงขลา แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของอดิสร สงขลา อย่างชัดเจน และก้าวกระโดดจากปี 2562 มีรายได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังได้ซื้อกิจการสายไฟอันดับ 1 ที่เวียดนาม (Thipa) มูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท และซื้อหุ้นบริษัท ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล (TCI) ผู้ผลิตสายไฟขนาดเล็ก มูลค่ากว่า 540 ล้านบาทในประเทศไทย ผ่านบริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) หรือ PDITL ซึ่งเป็นบริษัทที่ STARK ถือหุ้น 99.9%
นายชนินทร์กล่าวว่า ตั้งเป้าการเติบโตรายได้ปีนี้ของ STARK ของธุรกิจสายไฟฟ้าและบริษัท อดิสร สงขลา แตะ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจสายไฟฟ้าเวียดนามประมาณ 12,000 ล้านบาท, อดิสร สงขลา ไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาท และจากเฟ้ลปส์ ดอด์จ ประมาณ 15,000 ล้านบาท
“การซื้อสองกิจการผลิตสายไฟฟ้าเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งของสตาร์ค โดยเริ่มรับรู้รายได้จากทั้งสองกิจการตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป ทำให้มั่นใจได้ว่ารายได้ของสตาร์คจะโตเกินกว่า 100% และคาดว่ากลุ่มธุรกิจสายไฟของสตาร์คจะติด Top 10 ของโลกในไม่ช้า”
ประธานกรรมการกล่าวในช่วงท้ายว่า อัตรากำไรคาดว่าจะดีขึ้นจาก synergy ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น เช่น การรวมคำสั่งซื้อวัตถุดิบ และการขยายตลาดที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายที่เฟ้ลปส์ ดอด์จ ไม่เคยทำ ส่งผลให้กำไรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากปีก่อนหน้า