xs
xsm
sm
md
lg

จุฬาราชมนตรี ออกประกาศมาตรการป้องกันโควิด-19 ระบาด ช่วงเดือนรอมฎอน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จุฬาราชมนตรี ประกาศ “มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19” ในช่วงเดือนรอมฎอนปีนี้ พร้อมทั้งได้ขอให้พี่น้องมุสลิมอดทนต่อสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น งดละหมาดตะรอเวียะห์ ละหมาดวิเต็ร ละหมาดตะฮัจญุต





วันนี้ (14 เม.ย.) นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ออกประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่าด้วยการปฏิบัติศาสนกิจในเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1441 (พ.ศ. 2563) (ฉบับที่ 4/2563)

ตามที่ได้มีประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 ( COVID-19) ฉบับที่ 1 /2563 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2563, ฉบับที่ 2/2563 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2563 และฉบับที่ 3 / 2563 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 เพื่อให้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ ศาสนกิจของพี่น้องมุสลิมนั้น

เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวยังคงพบผู้ติดเชื้อ อย่างต่อเนื่อง จึงยังมีผลในทางปฏิบัติต่อไป และในห้วงระหว่างวันที่ 24 หรือ 25 เมษายน - 23 หรือ 24 พฤษภาคม 2563 นี้ จะตรงกับเดือนรอมฎอนที่มุสลิมต้องปฏิบัติศาสนกิจการถือศีลอดและการทำกิจกรรมต่างๆ ในเดือนที่สำคัญยิ่งนี้ ซึ่งจะมีการรวมตัวกันเป็นหมู่คณะ ณ มัสยิด เคหสถาน หรือสถานที่ที่จัด เตรียมไว้ และในสถานการณ์ที่ยังคงพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่องนี้ จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการเพิ่มเติม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ดังนี้

1. การดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันที่ ๑ ของเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1441 (พ.ศ.2563) นี้ให้เป็นหน้าที่ของผู้ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเท่านั้น

2. การถือศีลอดเดือนรอมฎอนให้ถือปฏิบัติตามปกติที่บทบัญญัติศาสนากำหนด ยกเว้น ผู้ที่ได้รับผ่อนผันตามหลักการศาสนาเท่านั้น ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มิได้เป็นอุปสรรคให้งดการถือศีลอดแต่ประการใด ตลอดจนการกลืนน้ำลายที่ไม่เจือปนเศษ อาหารที่อยู่ในช่องปากก็มิได้ทำให้การถือศีลอดบกพร่องแต่อย่างใด กลับเป็นการรักษาร่างกายและลำคอ ให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น จึงไม่ควรถ่มน้ำลายในสถานที่สาธารณะโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิด การแพร่ระบาดของเชื้อในสภาวการณ์ปัจจุบัน

3. งดการจัดเลี้ยงอาหารละศีลอดที่มัสยิด เคหสถาน หรือสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ หากมี ความประสงค์ก็ให้จัดทำอาหารปรุงสุกที่บ้านและจัดใส่ภาชนะบรรจุภัณฑ์ให้ถูกต้องตามสุขลักษณะ แล้วแจกจ่ายให้แก่เพื่อนบ้านและญาติใกล้ชิดแทนการจัดเลี้ยงที่มารวมกันเป็นหมู่คณะ

4. กรณีสมาชิกในครอบครัวละศีลอดหรือรับประทานอาหารซาโฮร์ร่วมกัน ให้หลีกเลี่ยง การรับประทานอาหารในภาชนะร่วมกัน และให้นั่งห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ล้างมือให้สะอาดทั้งก่อนและ หลังรับประทานอาหาร

5. งดการเอี้ยะติกาฟ และการละหมาดญะมาอะห์ที่เป็นซุนนะห์ (สุนัต) ประเภทต่างๆ ในค่ำคืนของเดือนรอมฎอน ได้แก่ การละหมาดตะรอเวียะห์ การละหมาดวิตร์ (วิเต็ร) และการละหมาด ตะฮัจญด ตลอดจนกิจกรรมการรวมตัวอื่นๆ ที่มัสยิด หรือในสถานที่ที่จัดเตรียมไว้
5 . ให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดแจ้งไปยังมัสยิดในการสร้างความเข้าใจเรื่อง การจ่ายซะกาตฟิตร์ และฟิดยะห์ล่วงหน้า ที่สามารถกระทำได้ตั้งแต่เข้าสู่เดือนรอมฎอน โดยให้มัสยิดเป็น ผู้รวบรวม และขอให้สัปปุรุษทุกคนร่วมมือในการมอบซะกาตฟิตร์และฟิดยะห์ดังกล่าวให้กับมัสยิด เพื่อนำไป ช่วยเหลือครอบครัวที่เดือดร้อนในสถานการณ์ปัจจุบัน

อนึ่ง สำหรับการละหมาดอีลฟิตร์และการจัดกิจกรรมในวันดังกล่าว จะประกาศมาตรการให้ทราบในโอกาสต่อไป
ขอให้พี่น้องมุสลิมทุกคนมีความอดทนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้ใช้โอกาสแห่งเดือนรอมฎอนอันประเสริฐนี้ปฏิบัติศาสนกิจให้ครบถ้วนสมบูรณ์ และขอดุอา (ขอพร) ต่ออัลลอฮ์ พระผู้เป็นเจ้า ให้ภัยบะลา ครั้งนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว

ทั้งนี้ ให้ถือปฏิบัติตามมาตรการฯ ฉบับนี้ และมาตรการฯ ทั้ง 3 ฉบับดังกล่าวข้างต้น ด้วยความเคร่งครัด จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น






กำลังโหลดความคิดเห็น