ศูนย์ข้อมูล COVID-19 เผยแพร่มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ว่าด้วยการปฏิบัติศาสนกิจในเดือนรอมฎอน
วันนี้ (18 เม.ย.) ศูนย์ข้อมูล COVID-19 โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ว่าด้วยการปฏิบัติศาสนกิจในเดือนรอมฎอน ตามที่ได้มีประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ฉบับที่ 1 /2563 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2563 ฉบับที่ 2/2563 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2563 และฉบับที่ 3 / 2563 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 เพื่อให้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ ศาสนกิจของพี่น้องมุสลิมนั้น
เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวยังคงพบผู้ติดเชื้อ อย่างต่อเนื่อง จึงยังมีผลในทางปฏิบัติต่อไป และในห้วงระหว่างวันที่ 24 หรือ 25 เมษายน - 23 หรือ 24 พฤษภาคม 2563 นี้ จะตรงกับเดือนรอมฎอนที่มุสลิมต้องปฏิบัติศาสนกิจการถือศีลอดและการทำกิจกรรมต่างๆ ในเดือนที่สำคัญยิ่งนี้ ซึ่งจะมีการรวมตัวกันเป็นหมู่คณะ ณ มัสยิด เคหสถาน หรือสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ และในสถานการณ์ที่ยังคงพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่องนี้ จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการเพิ่มเติม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ดังนี้
งดการจัดเลี้ยงอาหารละศีลอดที่มัสยิด เคหสถาน หรือสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ หากมีความประสงค์ก็ให้จัดทำอาหารปรุงสุกที่บ้านและจัดใส่ภาชนะบรรจุภัณฑ์ให้ถูกต้องตามสุขลักษณะ แล้วแจกจ่ายให้แก่เพื่อนบ้านและญาติใกล้ชิดแทนการจัดเลี้ยงที่มารวมกันเป็นหมู่คณะ
กรณีสมาชิกในครอบครัวละศีลอด หรือรับประทานอาหารซาโฮร์ร่วมกัน ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารในภาชนะร่วมกัน และให้นั่งห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ล้างมือให้สะอาดทั้งก่อนและ หลังรับประทานอาหาร
งดการเอี้ยะติกาฟ และการละหมาดญะมาอะห์ที่เป็นซุนนะห์ (สุนัต) ประเภทต่างๆ ในค่ำคืนของเดือนรอมฎอน ได้แก่ การละหมาดตะรอเวียะห์ การละหมาดวิตร์ (วิเต็ร) และ การละหมาด ตะฮัจญด ตลอดจนกิจกรรมการรวมตัวอื่นๆ ที่มัสยิด หรือในสถานที่ที่จัดเตรียมไว้
การจ่ายซะกาตฟิตร์ และ ฟิดยะห์ล่วงหน้า ที่สามารถกระทำได้ตั้งแต่เข้าสู่เดือนรอมฎอน โดยให้มัสยิดเป็นผู้รวบรวม และขอให้สัปปุรุษทุกคนร่วมมือในการมอบซะกาตฟิตร์ และ ฟิดยะห์ ดังกล่าวให้กับมัสยิด เพื่อนำไปช่วยเหลือครอบครัวที่เดือดร้อนในสถานการณ์ปัจจุบัน
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มิได้เป็นอุปสรรคให้งดการถือศีลอดแต่ประการใด ตลอดจนการกลืนน้ำลายที่ไม่เจือปนเศษ อาหารที่อยู่ในช่องปากก็มิได้ทำให้การถือศีลอดบกพร่องแต่อย่างใด กลับเป็นการรักษาร่างกายและลำคอ ให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น จึงไม่ควรถ่มน้ำลายในสถานที่สาธารณะโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิด การแพร่ระบาดของเชื้อในสภาวการณ์ปัจจุบัน