สาวรายหนึ่งเล่าประสบการณ์ระหว่างการรักษาโควิด-19 ที่โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ผ่านเพจเฟซบุ๊กของตน ที่ดีเกินคาด ทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดูแลเอาใจใส่ตลอดเวลา ห้องพักสะอาด ดูดี สะดวกสบาย
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. เพจเฟซบุ๊ก “PhDude” ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพ ข้อความ ซึ่งผู้โพสต์เป็นหนึ่งในผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ได้เล่าเรื่องราวตลอดการรักษาที่แห่งนี้เกือบ 1 สัปดาห์แล้ว ว่าสถานที่แห่งนี้มีห้องพักสะอาด ดูดี สะดวกสบาย และการให้บริการดูแลที่ดีอย่างมาก พร้อมยังชื่นชมและขอบคุณทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ดูแลให้การรักษาอย่างดี โดยเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวระบุข้อความว่า
ตอน #โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์
มาแล้วๆๆ หลังจากมีการแชร์เรื่องราวการติด COVID-19 ไป ก็มีพี่ๆ น้องๆ ทักมาบอกว่า รออ่านเรื่องอาการของโรคและการรักษาตัว แต่แอดมินขอติดเรื่องอาการเอาไว้ก่อน วันนี้อยากมาเล่าชีวิตความเป็นอยู่ที่ “รพ.สนามธรรมศาสตร์” เพราะประทับใจในระบบการจัดการ และอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการแชร์เรื่องราวประสบการณ์ตรงที่ได้รับบริการจากที่นี่ค่ะ
Day 1: 31-03-20
“เดี๋ยววันนี้คนไข้จะถูกส่งตัวไปที่ รพ.สนาม นะคะ” คุณพยาบาลแจ้งให้ทราบ วันนั้นก็แอบกังวลใจเบาๆ “เอ๊ะ!....ไม่มีไข้แล้วแต่อาการยังไม่หายขาด ผลยัง positive อยู่ ไปอยู่ตรงนั้นห่างแพทย์และพยาบาล จะทำยังไงถ้าอาการทรุดลงอีก แล้วที่พักจะเป็นยังไงนะ จะน่ากลัวรึป่าว จะนอนหลับมั้ย จะต้องไปอยู่อีกกี่วัน...กังวลจัง!”
นั่นคือสิ่งที่คิดในใจวนเวียนไม่จบก่อนจะได้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วขึ้นรถ รพ.มาที่ รพ.สนาม มธ. พอลงรถมีคุณ จนท.แต่งตัวด้วยชุดป้องกันเชื้อไวรัสมายืนรอ และให้ผู้ป่วยยืนห่างกัน 2 เมตร เดินตามขึ้นอาคารในส่วนข้างหลังที่เตรียมไว้เป็นช่องทางสำหรับผู้ป่วยเท่านั้น ดังนั้น ทาง จนท.พยาบาล ทีมแพทย์ และผู้มาเยือนที่ รพ.สนาม จะไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เนื่องจากทางเข้าออกของผู้ป่วยถูกแยกออกมาเป็นสัดส่วนชัดเจน นี่คือระบบการจัดการแรกที่มีการคิดมาเป็นอย่างดี เมื่อเข้าอาคารก็ขึ้นลิฟต์มาชั้น 8 โดยมี จนท.ยืนรอชี้แจงการเข้าอยู่ก่อนเข้าห้องพักส่วนตัว เมื่อเข้าห้องพัก ผู้ป่วยต้องสแกน QR codes 2 อัน เพื่อกรอกข้อมูลส่วนตัว และเข้าไลน์กลุ่มที่ทาง รพ.สนาม จัดทำขึ้นสำหรับติดต่อสื่อสารกับผู้ป่วยระหว่างการพักรักษาตัวที่ รพ.สนามแห่งนี้
“โห... ห้องดีกว่าที่คิดนะ มีกล้องวงจรปิดด้วยอะ” ตอนเปิดประตูเข้าห้อง รู้สึกประทับใจ เพราะห้องดูสะอาดและมีอุปกรณ์ต่างๆ ครบครัน หลังจากเข้าห้องได้ไม่นานก็ได้รับการทักทาย สอบถามจากคุณพยาบาลที่ประจำอยู่ที่นี่ เพื่อชี้แจงสิ่งที่ต้องทำและสอบถามอาการและรายละเอียดเบื้องต้น มีไลน์กลุ่มของคนไข้ที่ทาง รพ.จะจัดกิจกรรมต่างๆ ให้เข้าร่วมตามความสมัครใจอยู่ตลอดเวลา มีนักจิตวิทยาคอยติดตามสอบถามและให้ประเมินสุขภาพจิตในแต่ละวัน ส่วนตัวคิดว่า “ดีเกินคาด” thoughtful มากๆ ทาง รพ.เห็นความสำคัญของเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เพราะการอยู่ รพ.มากกว่า 10 วันของผู้ป่วยแต่ละรายอาจส่งผลต่อจิตใจและอารมณ์ได้ ซึ่งเราไม่ได้รับการรักษาแค่ทางร่างกาย แต่ทางจิตใจอีกด้วย
Day 2: 01-04-20
7.00 น. “รบกวนคนไข้วัดอุณภูมิร่างกายและระดับ oxygen ในเลือดด้วยนะคะ... ”เสียงไลน์ดังขึ้น ต้องบอกว่าการที่เราถูกส่งมา รพ.สนาม คือต้องช่วยเหลือตัวเองได้ ในทุกๆห้องจะมีอุปกรณ์วัดไข้และวัด blood oxygen level ซึ่งทุกๆ 7.00 น. และ 17.00 น.
ผู้ป่วยต้องรายงานผลให้ทางคุณหมอและคุณพยาบาลทราบ เพราะเป็นเวลาก่อนทานอาหารของแต่ละวัน เมื่อแจ้งผล คุณพยาบาลก็ได้แจ้งว่ามีอาหารวางอยู่ที่หน้าห้อง ในตอนนั้น...เรายังต้องทานยาต้านไวรัสอยู่เป็นมื้อสุดท้าย ซึ่งทาง รพ. ได้จัดเตรียมให้เราตั้งแต่ก่อนออกจาก รพ.
10.00 น. “คนไข้สะดวกคุยกับคุณหมอมั้ยคะ อาการผื่นคันเป็นอย่างไรบ้างคะ” เสียงไลน์ดังขึ้นอีกรอบ แต่ละวันจะมีทีมแพทย์ทักถามอาการผ่านทาง Line call หรือ VDO call ต้องเกริ่นก่อนว่า เรามีอาการผื่นคันขึ้นทั้งตัวอย่างหาสาเหตุไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าเพราะยาต้านไวรัสหรือเพราะเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอาการนี้ขึ้น ซึ่งทางคุณหมอก็ได้พยายามวิเคราะห์และให้ความช่วยเหลือติดตามผลมาตลอด เนื่องจากเป็นโรคระบาดใหม่ที่อาการของโรคแตกต่างออกไปในผู้ป่วยแต่ละราย จึงยังไม่อาจสรุปได้ว่าผื่นที่เกิดขึ้นแดงไปทั้งตัว คันจนนอนไม่หลับ มันเกิดจากอะไร (รีวิวอาการของโรคขอติดไว้รอบหน้านะคะ) ซึ่งก่อนมาอยู่ รพ.สนาม ก็แอบกังวลว่าทาง รพ.จะติดตามผลการเป็นผื่นอย่างไร แต่พอมาแล้วก็ประทับใจ คุณหมอให้ถ่ายรูปส่งประเมินอาการทุกวัน ได้ VDO call กับคุณหมอเพื่อดูอาการตลอด คุณหมอส่งยามาให้เยอะมาก (ตามรูป) นี่คืออีกสิ่งที่อยากแชร์ให้เห็นถึงการให้บริการของ รพ.สนาม ที่ดีเกินคาด จากที่กังวลว่าจะถูกลอยแพในห้องคนเดียว ตอนนี้สบายใจมากเพราะมีทีมแพทย์และทีมพยาบาลดูแลใกล้ชิด ถึงจะไม่ได้อยู้ใกล้ตัว แต่อยู่ใกล้ใจผู้ป่วยทุกราย
17.00 น.
“โอ้โห... อาหารเที่ยงว่าดีแล้ว อาหารเย็นจาก On the Table เลยหรอ มีขนมมาให้อีกด้วย คือดีย์...” มันดีต่อใจมากค่ะทุกคน การทานอาหาร รพ.มาเป็นสิบๆ วัน พอมาเจออาหารและขนมที่แตกต่างไป มัน “สร้างความสุขให้กับผู้ป่วย” ได้มากจริงๆ ประทับใจมากๆ ลองนึกภาพ การอยู่แค่ในห้องสี่เหลี่ยมกับตัวเองคนเดียวมาเกินครึ่งเดือน ความสุขอย่างหนึ่งที่หาได้ในช่วงการรักษาตัวคือ “อาหารการกิน” ไม่ว่าจะเป็นของที่ทาง รพ.จัดไว้ให้ หรือมีผู้บริจาคมา ในฐานะผู้ป่วยคนนึง รู้สึกซาบซึ้งในความห่วงใยและใส่ใจพวกเรามากๆ ที่เห็นอยู่ประจำอีกอย่างคือน้ำดื่มจากสิงห์ อยากเป็นตัวแทนของผู้ป่วย “ขอบคุณจากใจ จริงๆ ค่ะ” มันคือความสุขที่เรารับรู้ได้โดยตรงจากคนภายนอก เป็นน้ำใจและกำลังใจให้พวกเราเข้มแข็งสู้กับโรคนี้ต่อไป
Day 3: 02-04-20
“วันนี้จะมี จนท.ขึ้นไปเก็บเนื้อเยื่อที่ห้อง เพื่อเอาไปตรวจนะคะ รบกวนปิดแอร์ก่อนล่วงหน้า 30 นาทีค่ะ” ปกติผู้ป่วยจะไม่ได้พบเจอคนภายนอก มีเพียงอาหาร น้ำดื่ม ถุงขยะและของฝาก มาวางไว้ให้ที่หน้าห้องวันละ 3 เวลา แต่วันนี้จะมีคุณพยาบาลขึ้นมาที่ห้อง (ดีใจ จะได้เจอคนอื่นบ้าง เบื่อหน้าตัวเองในกระจกมากก) ถึงกำหนดเก็บเนื้อเยื่อในลำคอและโพรงจมูกไปตรวจดูเชื้อ จึงต้องปิดแอร์และเปิดระเบียงห้องให้อากาศถ่ายเท ป้องกันไม่ให้ทาง จนท.ติดเชื้อ แม่ว่าจะมีการใส่ชุดป้องกันเชื้อไวรัสก็ตาม แต่การป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อที่อยู่ในห้อง จะช่วยป้องกัน จนท.จากการติดเชื้ออีกทางหนึ่ง
เผลอแป๊บๆ อยู่มาจะครบสัปดาห์แล้ว จะเห็นว่าตลอดเวลาที่อยู่ รพ.สนาม มีการติดตามผลอาการของผู้ป่วยตลอดเวลา มีทีมพยาบาล ทีมแพทย์ นักจิตวิทยา และจนท.อื่นๆ ทั้งที่มาส่งข้าว เก็บขยะหรือเฝ้ารักษาความปลอดภัยครบครัน หลายๆ คนอาจได้เคยดูวิดีโอแนะนำ รพ.สนาม มธ. จากคุณหนิง ปณิตา ไปบ้างแล้ว (https://m.youtube.com/watch?feature=youtu.be&v=_qlKQbUD7fk) อยากจะ confirm จากประสบการณ์ตรงว่า “ภาพตรงปกนะคะ” ห้องพักสะอาด ดูดี สะดวกสบาย และการให้บริการดูแลผู้ป่วยต้องขอรีวิวว่า ให้ 5 ดาวไปเลยค่ะ ในฐานะ นศ. ป.เอก ที่หวังจะเรียนจบกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของการรับใช้สังคม หากไม่ได้รับการดูแลรักษาจากทีมแพทย์ พยาบาล และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในครั้งนี้ ก็อาจจะมีความเสี่ยงจนไม่ได้มีชีวิตอยู่ต่อเพื่อตอบแทนสังคม ทั้งๆที่ทีมแพทย์และพยาบาลต้องมาเสี่ยงชีวิตกับเราด้วย แต่ก็ยังสู้ไปพร้อมๆกับเรา การรีวิวนี้แอดมินจึงขอให้ “หัวใจ” แทนดาว 5 ดวง แก่ทุกท่านที่ dedicate อุทิศชีวิตไม่ได้กลับบ้านไปหาครอบครัว ช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อทุกราย