xs
xsm
sm
md
lg

เผยผลสอบ“เสธ.โก้” ต่อสาย ผอ.EOC สธ.ก่อนปล่อย 152 คนไทยกลับบ้าน หลังเจรจาไม่เป็นผล หวั่นบานปลาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เผยผลสอบ “พล.ต.โกศล” ช่วยเจรจาคนไทยกลับจากต่างประเทศที่สุวรรณภูมิ หลังไม่พอใจที่รอนาน จนก่นด่า จนท. แต่ไม่เป็นผล ตัดสินใจต่อสาย ผอ.EOC สธ.ให้ปล่อยไปก่อน แล้วค่อยตามกลับมา ด้าน ผบ.ทสส.เผยเป็นวันแรกของเคอร์ฟิวต้องตรวจสอบคนเข้าประเทศเป็นรายบุคคล ทำให้รอนานกว่าปกติ และมีจุดอ่อนการบริหารจัดการอารมณ์จึงเกิดความไม่ราบรื่น

วันที่ 4 เม.ย. เฟซบุ๊กส่วนตัว “วาสนา นาน่วม” ผู้สื่อข่าวสายทหาร ได้โพสต์ข้อความถึงผลการสอบ พล.ต.โกศล ชูใจ หรือ เสธ.โก้ ผู้ชำนาญการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จากเหตุที่ปล่อย 152 คนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ กลับบ้านโดยไม่ต้องกักตัว โดยระบุข้อความว่า เปิดผลสอบ “เสธ.โก้” “พลตรี” สุวรรณภูมิ ทำไมตัดสินใจปล่อยตัว 152 คนไทยกลับ พยายามเจรจาแล้วไม่เป็นผล หวั่นบานปลายต่อสาย ถก ผอ.EOC สธ. (ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข) สุวรรณภูมิ ตัดสินใจให้ปล่อยไปก่อน แล้วค่อยตามกลับมา

มีรายงานข่าว จากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.)ว่า จากที่เกิดเหตุการณ์คนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 152 คน ไม่ให้ความร่วมมือแก่เจ้าหน้าที่ในการเข้าสู่มาตรการการกักตัว เป็นเหตุให้มีความวุ่นวายเกิดขึ้น ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งแต่บ่ายจนถึงค่ำ 3 เม.ย. 2563

จนเป็นเหตุให้ พล.ต.โกศล ชูใจ นายทหารกลาโหม ต้องมาเจรจา และยอมปล่อยให้คนไทยกลับบ้าน ไม่ต้องกักกันตัว จนถูกวิจารณอย่างหนัก นั้น

จากการตรวจสอบเบื้องต้นของ ศปม. พบว่า เกิดจากการที่ผู้โดยสารใช้เวลารอขั้นตอนการตรวจโรค การตรวจสอบของ จนท.เป็นเวลานานหลายชั่วโมงและไม่มี จนท.ผู้รับผิดชอบที่ตัดสินใจได้ มาดูแลให้ข้อมูลผู้โดยสารที่รออยู่ จนเกิดเหตุวุ่นวายขึ้น ไม่ยอมรับการกักตัว ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเรียกร้องให้ผู้ใหญ่มาเจรจา

ซี่งในระหว่างนั้น "เสธ.โก้" พล.ต.โกศล ชูใจ ได้ปฏิบัติหน้าที่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะได้รับมอบหมายจากกลาโหม ไปทำหน้าที่ประสานงานเรื่องการจัดยานพาหนะในการรับส่งผู้โดยสารที่กลับจากต่างประเทศไปกักกันตัว แต่ไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด แต่ได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเจรจากับผู้โดยสารที่แสดงความไม่พอใจ ก่นด่า เพราะเห็นเป็นผู้ใหญ่สุด

แต่เมื่อพยายามเจรจาชี้แจงด้วยข้อกฎหมายแล้ว ผู้โดยสารไม่ยอม พล.ต.โกศล จึงได้ติดต่อกับ ผอ.EOC สธ. เพื่อปรึกษาหารือ จนที่สุดก็ได้รับการบอกกล่าวว่า ให้ปล่อยกลับบ้านไปก่อน เพราะหากยื้อกันต่อไป จะเกิดความวุ่นวาย และอาจลุกลาม จึงได้ปล่อยตัวกลับบ้านไปก่อน แล้วค่อยติดตามกลับมาจนทำให้ถูกกระแสสังคมโจมตีว่า ทำไมตัดสินใจปล่อยกลับบ้านโดยพลการ

พล.ต.โกศล เป็นนายทหารเสือราชินี ที่โตจาก ร.21 รอ. และรับราชการในภาคอีสาน และเป็น ตท.24

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น กลาโหมมีคำสั่งเรียกตัว พล.ต.โกศล กลับกลาโหม ไม่ต้องมาช่วยงานที่สุวรรณภูมิ และถูกตั้ง กก.สอบสวนข้อเท็จจริงว่าใช้อำนาจหน้าที่เกินไปหรือไม่

ดังนั้น พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุด/หัวหน้า ศปม. จึงมีคำสั่งแต่งตั้งให้ “บิ๊กเบิร์ด” พล.อ.ปริพัฒน์ ผลาสินธุ์ รองเสนาธิการทหาร เข้ากำกับดูแลการบังคับใช้ข้อกำหนดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (Emergency Operation Center หรือ EOC) ทั้งที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ และ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง เพื่อชี้แจงข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง รวดเร็ว

พร้อมทั้งทำหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่ผ่านการคัดกรอง และจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการควบคุมโรคตามมาตรการของรัฐที่กำหนด (State Quarantine) เพื่อนำเข้าพื้นที่ควบคุมโรคต่อไป

และ มอบหมายให้ “บิ๊กไก่” พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม รองเสนาธิการทหาร เป็นผู้รับผิดชอบในการติดตามตัวผู้โดยสารที่เดินทางกลับประเทศไทย และไม่ยินยอมเข้าสู่กระบวนการ State Quarantine กลับมา

นอกจากนี้ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุด/หัวหน้า ศปม. กล่าวว่า จากการตรวจสอบเหตุการณ์ และทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ก็พบว่า มาตรการการดำเนินการยังเป็นการดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ แต่เมื่อวันที่ 3 เม.ย.เป็นวันแรกที่มีการประกาศยกระดับการห้ามออกนอกบ้าน (เคอร์ฟิว) ซึ่งผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรจะต้องผ่านการตรวจสอบเป็นรายบุคคลทุกคน แต่ในการบริหารจัดการดังกล่าวอาจจะทำให้ผู้โดยสารเกิดการรอคอยนานกว่าปกติ เนื่องจากเราจะต้องรอจำนวนผู้โดยสารเพื่อที่จะได้เดินทางไปสถานที่กักตัวพร้อมกันเพื่อไปยังสถานกักกันโรค ซึ่งตรงนี้เราก็มีจุดอ่อนเล็กน้อยในการบริหารจัดการอารมณ์จนเกิดความไม่ราบรื่นในการใช้มาตรการ แต่เราก็ทำเพื่อประชาชนและครอบครัวของผู้เดินทางกลับมา




กำลังโหลดความคิดเห็น