ข่าวบิดเบือน! ลูกจ้างที่เฝ้าระวังอาการติดเชื้อ COVID-19 ถูกกักตัว 14 วัน ไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้าง

จากกระแสในสื่อออนไลน์ว่า “ลูกจ้างมีอาการเข้าข่ายติดเชื้อ COVID-19 และถูกกักตัว 14 วัน ไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้าง” ซึ่งเนื้อหาบางส่วนทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทางกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานชี้แจงว่า ลูกจ้างที่สงสัยเป็นโรคจะอยู่ในสถานะป่วยสามารถใช้สิทธิลาป่วยได้ตามกฎหมายและได้รับค่าจ้างในวันที่ลาป่วย

วันนี้ (19 มี.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการแชร์ข่าวตามสื่อออนไลน์ต่างๆ ในประเด็นเรื่อง ลูกจ้างที่เฝ้าระวังอาการติดเชื้อ COVID-19 ถูกกักตัว 14 วัน ไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้าง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน

ตามที่ปรากฏข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ว่า “ลูกจ้างมีอาการเข้าข่ายติดเชื้อ COVID-19 และต้องถูกกักตัวเพื่อสังเกตอาการ ทำให้ลูกจ้างไปทำงานให้นายจ้างตามสัญญาได้ไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่ความผิดของทั้ง 2 ฝ่าย ฉะนั้นลูกจ้างย่อมหลุดพ้นจากหน้าที่ ไม่ต้องไปทำงานให้นายจ้าง แต่ก็ไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างจากนายจ้าง และนายจ้างก็ไม่มีหน้าที่จ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้าง ตามหลัก no work no pay” ซึ่งเนื้อหาบางส่วนทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทางกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว คือ การที่ลูกจ้างต้องสงสัยเป็นโรค COVID– 19 และต้องกักตัว 14 วันเพื่อเฝ้าระวังอาการเพราะมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่ออันตราย ถือว่าลูกจ้างอยู่ในสถานะป่วยสามารถใช้สิทธิลาป่วยได้ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน เมื่อลูกจ้างแจ้งการใช้สิทธิลาป่วยโดยชอบต่อนายจ้างแล้ว และมีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันที่ลาป่วยตลอดระยะเวลาที่ลาปีหนึ่งไม่เกิน 30 วันทำงาน หรือลูกจ้างอาจใช้สิทธิหยุดพักร้อนได้ กรณีที่ลูกจ้างไม่ประสงค์จะใช้สิทธิดังกล่าว นายจ้างอาจตกลงกับลูกจ้างให้หยุดงานโดยไม่รับค่าจ้าง (Leave without Pay) หรือให้ลูกจ้างหยุดงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างตามหลักสัญญาต่างตอบแทน (No Work No Pay) ก็ได้

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และสามารถติดตามข่าวสาร กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ที่เว็บไซต์ https://www.labour.go.th/ หรือ โทร 1506 กด 3