“ลูกสาว ผอ.สุวรรณภูมิ” เดือดหลังพ่อลาออก แฉรัฐไม่ให้ความร่วมมือกักตัวผีน้อย แย่งหน้ากากอนามัยไป ทั้งที่เจ้าหน้าที่สนามบินต้องเสี่ยงสัมผัสผู้โดยสาร ด่าแรง “อห. - ส้น-ีน”
วันนี้ (12 มี.ค. 63) จากกรณีที่ น.ท.สุธีวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นพนักงานของ ทอท. โดยหนังสือลาออกขอให้มีผลบังคับ 16 เมษายน 2563 สำหรับเหตุผลที่ขอลาออก คือ ขอแสดงความรับผิดชอบที่บริหารจัดการศูนย์ EOC ไม่ดี จนมีกรณีผีน้อยหลุดออกไปจากการคัดกรอง
โดยแหล่งข่าวเผยถึงสาเหตุที่แท้จริงของการลาออก ว่า น.ท.สุธีวัฒน์ รู้สึกท้อแท้กับการรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ไม่ได้รับความร่วมมือ โดยเฉพาะจากหน่วยงานภายนอก และไม่มีการบูรณาการการทำงานตามที่ได้ประชุมตกลงกันไว้ เช่น เจ้าหน้าที่บางส่วนรู้สึกหวาดกลัว เกี่ยงกันปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลผีน้อย ผู้กลับจากประเทศเกาหลีใต้ เป็นต้น ส่งผลให้ผู้ปฏิบัติงานคนอื่นๆ มีภาระเพิ่มขึ้น ทั้งที่มีภาระหนักอยู่แล้ว
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยังมีอุปกรณ์ป้องกันไม่เพียงพอ และจัดส่งล่าช้า โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย โดย ทอท. ถูกหน่วยงานราชการด้วยกันเองขอโควตาตัดหน้าเอาไปใช้ก่อน ทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่สนามบินมีความต้องการใช้มากกว่า ทำให้การปฏิบัติงานคัดกรองภายในสนามบินเป็นไปด้วยความยากลำบาก และยังขาดการสนับสนุนที่ชัดเจนและเด็ดขาดจากผู้ใหญ่
ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งระบุว่า เป็นบุตรสาวของ น.ท.สุธีวัฒน์ ก็ได้โพสต์อย่างมีอารมณ์ว่า
#รัฐบาลส้นตีน เนื่องจากเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงออกทางการเมืองเท่าไหร่ แต่รอบนี้ไม่ไหวจริง
1. พ่อจะลาออกจริง
2. ไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นจริง ในเมื่อขอความร่วมมือการท่าปฏิบัติทุกอย่าง แต่เมื่ออยากขอความร่วมมือบ้าง อาทิเช่น เรื่องเด็ดเลย กักตัวผีน้อย ดันบอก “ตัวเองไม่มีหน้าที่กักคนไทย กฎหมายไม่ได้ระบุไว้เลยไม่ทำ” อยากด่าแทนพ่อสั้นๆ ว่า อห. ที่ไม่ได้หมายความว่าโอ้โห
3. เรื่องหน้ากาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่สนามบินสัมผัสทั้งทางตรงกับทางอ้อมของผู้โดยสารที่เข้า-ออกประเทศเป็นประจำทุกวัน การท่าทำเรื่องเพื่อขอซื้อ แต่ไม่ได้รับโควตา เนื่องจากถูกรัฐบาลแย่งเอาไป ประเด็นคือถ้าเอาไปให้หมอหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ขาดแคลนจะไม่ว่า แต่นี่เอาไป... (คิดเอาเอง)
4. ยังมีอีกหลายเรื่องรวมกัน สรุปได้สั้นๆ เหตุเกิดมาจาก #รัฐบาลส้นตีน
สุดท้ายลงท้ายด้วยคำพูดของพ่อ:
“ในเมื่อทุกคนไม่ได้มีแนวคิดว่าขณะนี้เรามีวิกฤตของประเทศ ถ้าข้าราชการทุกหน่วยที่ต้องมีหน้าที่ตามกฎหมายต่างคนต่างตั้งคอก ไม่คิดจับมือประสานงานไม่สามัคคี ต่างหน่วยต่างเกี่ยงให้ สธ.ต้องรับผิดชอบ และเผอิญคนที่ สธ.ส่งมาไม่มีบุคลิกความเป็นผู้นำ เหตุการเลยร้ายแรงกว่าที่ท่านทราบกันครับ”