สจ๊วตหนุ่มของสายการบินดัง โพสต์ขอความเห็นใจหลังลูกของพี่ที่ทำงานด้วยกันไม่มีเพื่อนคุยด้วยเพียงเพราะมีแม่เป็นแอร์โฮสเตส ย้ำพนักงานดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ฝากถึงชาวเน็ตอย่าตกใจเมื่อรู้ว่าเราทำอาชีพอะไร อย่ากลัวที่จะคุยกับพวกเรา
เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Dech-siri Tony Nopas” ได้ออกมาโพสต์ข้อความขอความเห็นใจจากสังคม หลังมีอาชีพเป็นสจ๊วตของสายการบินแห่งหนึ่ง ทำงานบนความเสี่ยงต่อการติดโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ลูกของพี่ที่ทำงานด้วยกันก็ไม่มีเพื่อนคุยด้วยเพียงเพราะมีแม่เป็นแอร์โฮสเตส เผยพนักงานทุกคนดูแลตัวเองเป็นอย่างดี และอย่ากลัวที่จะคุยกับพวกเรา อย่าตกใจเมื่อรู้ว่าเราทำอาชีพอะไร โดยได้ระบุข้อความว่า
“มีพี่ที่ทำงานเล่าทั้งน้ำตาว่าสงสารลูก ไปโรงเรียนไม่มีเพื่อนคุยด้วยเพราะมีแม่เป็นแอร์ฯ ผู้ปกครองสั่งไม่ให้ยุ่งเกี่ยว จริงอยู่ที่อาชีพเราเป็นอาชีพเสี่ยง แต่พวกคุณไม่ต้องกลัวอาชีพเรา พวกเราดูแลป้องกันตัวเองยิ่งกว่าเวลาคนไปเดินห้างฯ เสียอีก ใส่มาสก์ตลอดเวลาทุกไฟลต์ ใส่ถุงมือตลอดการทำงาน และเปลี่ยนตลอดเมื่อออกไปเสิร์ฟเสร็จแต่ละคอร์ส มีแอลกอฮอล์ประจำครัว ครัวละ 2 ขวด เราปั๊มเราใช้กันจนมืดซีดมือเหี่ยวและแห้ง หลีกเลี่ยงการสัมผัสจากผู้โดยสารทุกรูปแบบ เลิกคุยกับผู้โดยแบบคุกเข่านั่งยองเพื่อป้องกันการกระเด็นของน้ำลายและเสมหะ whatsoever กัปตันคอนเฟิร์มว่า เครื่องกรองอากาศบนเครื่องบินมีคุณภาพดี อากาศถ่ายเท ไม่ได้วนเวียน ดีกว่าอากาศภายนอกเสียอีก เลิกไฟลต์ปุ๊บเราเปลี่ยนชุดล้างตัวทันที อย่าตกใจเมื่อรู้ว่าเราทำอาชีพอะไร อย่ากลัวที่จะคุยกับพวกเรา
ไม่ต้องกลัวพวกเรานะ พวกเรามาดี ถ้าพวกเราไข้ขึ้น เราจะไม่ออกไปไหน เราจะไม่ออกจากบ้าน เราจะไปหาหมอทันที พวกเราสัญญา”
ต่อมาเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายเดิม ได้ออกมาโพสต์รูปภาพที่เผยให้เห็นแอร์โฮสเตสสวมถุงมือขณะกำลังกดยาฆ่าเชื้อใส่มือผู้โดยสารบนเครื่องบินเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อ ภาพดังกล่าวเป็นการตอกย้ำและให้ความมั่นใจแก่ชาวเน็ตว่า พนักงานสายการบินก็เป็นห่วงและดูแลความสะอาดเป็นอย่างดี โดยได้ระบุข้อความว่า
“วันนี้ผู้โดยสารส่งภาพนี้มาให้ ใช่ครับ มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับชีวิตพวกเราทุกคนมาก ไม่ใช่แค่พวกเราลูกเรือ แต่มันคือมนุษย์โลกทุกคนที่ตอนนี้เกิดมาและต้องเผชิญกับโรคที่ไม่เคยรู้เลยว่าต้องมารับมือโรคร้ายสายพันธุ์อะไรแบบนี้
เราเองก็ไม่รู้ว่าจะได้ทำงานกับการบินไทยถึงเมื่อไหร่ แต่ ณ ปัจจุบันนี้ตั้งแต่ที่ผมเข้ามาทำงานมาตั้งแต่ปี 2014 เมื่อคุณจ่ายเงินซื้อตั๋วกับการบินไทยมาแล้ว โปรดมั่นใจได้ว่าเราพยายามบริการเต็มที่ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนก็ตาม”