ดร.ธรณ์ เผยมีเฮหลังพบพะยูนที่คุระบุรี จ.พังงา มีภาพถ่ายชัด ระบุประสบความสำเร็จเพราะทุกภาคส่วนช่วยกัน เชื่อหากมาเรียมโปรเจคผ่านครม.คงได้รุดหน้าเร็วขึ้นอีกเยอะ
วันนี้ (23 ก.พ.) เฟซบุ๊กส่วนตัว “Thon Thamrongnawasawat” หรือ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ระบุเนื้อหาว่า
“กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยผลสำรวจพบพะยูนที่คุระบุรี พังงา มีภาพถ่ายชัดเจนเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี เมื่อปีที่แล้ว มีพะยูนตายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงน้องมาเรียม จนกลายเป็นกระแส เกิดแผนอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ มาเรียมโปรเจ็คแผนดังกล่าวอยู่ระหว่างการเข้าสู่วาระการประชุมคณะรัฐมนตรีแต่หลายอย่างเดินหน้าไปแล้ว เช่น โรงพยาบาลสัตว์ การจัดการพื้นที่จังหวัดตรัง ศูนย์เรียนรู้พะยูน ฯลฯ
ในส่วนการสำรวจ เราพอทราบว่าพะยูนในไทยมี 250 ตัว ประมาณ 200 ตัวอยู่แถวตรัง-กระบี่ ที่เหลือกระจายไปอีก 11 แห่งทั่วประเทศ จุดหนึ่งที่น่าสนใจมาก อยู่แถวแหลมไม้ตาย คุระบุรี พังงา เพราะมีรายงานการพบพะยูนหลายครั้ง ยังรวมถึงพะยูนตัวหนึ่งที่ตายในปีที่แล้วในพื้นที่แถบนี้ ในคณะทำงานสัตว์ทะเลหายาก เราพูดคุยกันเรื่องการสำรวจในพื้นที่อื่นๆ เพื่อหาทางจัดการรักษาพะยูนไว้ให้เร็วที่สุด
ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ความสำคัญและกำชับให้หน่วยงานต่างๆ ช่วยกันดูแลสัตว์ทะเลหายากโดยเร่งด่วน กรมอุทยานทำงานต่อเนื่อง จนเมื่อเครือข่ายคนรักทะเลในพื้นที่แจ้งการพบร่องรอยที่คุระบุรี ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานทางทะเลที่ 2 รีบตรวจสอบตั้งแต่กลางสัปดาห์ก่อน พบร่องรอยหากิน (ดูภาพร่องรอยหากินประกอบนะจ๊ะ) การหากินพะยูนจะเข้ามาตอนน้ำขึ้น หายใจเฮือกแล้วดำน้ำ เอาปากไถไปตามพื้นเพื่อกินหญ้าทะเล จนเห็นเป็นรอยไถ ปรกติจะเข้ามากินที่เดิม จากนั้นก็ย้ายไปที่อื่นเพื่อรอให้หญ้าโตขึ้นมาใหม่ แล้วกลับมากินที่เดิมอีกครั้ง เมื่อพบร่องรอยแน่ใจ กำหนดพื้นที่ได้ ทีมงานจึงใช้โดรนสำรวจในพื้นที่ จนท้ายสุด มีเฮครับ เราพบพะยูนกำลังหากินในแหล่งหญ้าทะเลแถวนั้น ยังมีเต่าอีก 2 ตัวด้วยนะ เย้ ! การสำรวจครั้งนี้ช่วยยืนยันการพบพะยูนอย่างเป็นทางการในพื้นที่ ทำให้เราสามารถเดินหน้าการอนุรักษ์ไปได้อีกขั้น
ยังรวมถึงยืนยันความสมบูรณ์ของแหล่งหญ้าทะเลในคุระบุรี ว่ามีความสำคัญมากต่อสัตว์หายากทั้งพะยูนทั้งเต่า และต่อการทำมาหากินอย่างพอเพียงของผู้คนในชายฝั่งทะเล การทำงานต่อจากนี้จึงจะเน้นหนักยิ่งขึ้น การร่วมมือกับพี่น้องชาวบ้านแถบนั้น การประสานกับอุทยานและเขตอนุรักษ์อื่นๆ ตลอดจนการวางแผนใช้โมเดลจากตรัง-กระบี่ มาเป็นต้นแบบในการรักษาพะยูนที่พังงา เรื่องนี้สำคัญมาก จึงนำมาบอกเพื่อนธรณ์ว่า ทุกอย่างกำลังก้าวไป ทั้งพี่น้องชาวบ้านและหน่วยงานภาครัฐ/ภาคเอกชนกำลังช่วยกัน
เมื่อมาเรียมโปรเจคผ่านครม.เราคงได้รุดหน้าเร็วขึ้นอีกเยอะ เพื่อช่วยรักษาเพื่อนๆ ผู้น่ารักในทะเลเหล่านั้น ขอบคุณกรมอุทยานฯ มากครับ โดยเฉพาะ ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานฯ ทางทะเล จังหวัดภูเก็ต ที่ดูแลพื้นที่ภูเก็ต พังงา ระนอง นอกจากช่วยดูแลเต่ามะเฟืองเต็มที่ พี่ๆ ยังช่วยมาสำรวจอนุรักษ์พะยูน ได้ใจจริงๆ ในส่วนของเพื่อนธรณ์ ช่วยกันได้เสมอ ลดขยะพลาสติกใช้แล้วทิ้ง เก็บขยะเท่าที่ทำได้ เข้าใจและให้กำลังใจคนดูแลทะเล แค่นี้เราก็มีส่วนช่วยดูแลพะยูน สัตว์หายากให้อยู่ทะเลไทยไปตลอดกาลทุกคนช่วยทะเลได้จริงๆ”