อดีตผู้สมัคร ส.ส.อนาคตใหม่ แฉ “ทีมเฝ้าหน้าจอ” ทุกคนที่วิจารณ์พรรค สร้าง “เฟซบุ๊กผี” นับร้อยจากบริษัทดูแลเว็บไซต์ ก่อนถล่มพร้อมกัน ก็อปปี้ภาษา-แต่งคำต่างนิดหน่อย จูงใจให้คนเกลียดชัง ทำงาน 7 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน
วันนี้ (20 ก.พ.) เฟซบุ๊กเพจ “ดร.โจ ชาญวิทย์ ใจสว่าง” ของนายชาญวิทย์ ใจสว่าง อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ข้อความวิจารณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีกู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค จำนวน 2 ครั้ง รวม 191.2 ล้านบาทในวันพรุ่งนี้ ระบุว่า พรรคอนาคตใหม่พยายามทำให้เชื่อว่าถ้าพรรคถูกยุบ สังคมไทยจะล้าหลังยาว ประเทศไทยจะไม่มีโอกาสทันสมัยและทัดเทียมได้ และยกตนเองว่าเป็นผู้สร้างชาติบ้านเมืองนี้ให้เจริญทันเทียมต่างชาติได้เพียงผู้เดียว คนอื่นทำอะไรไม่เป็น ไม่มีความรู้เท่าพวกเขา สังคมต้องออกมาช่วยกันปกป้องพรรคอย่าให้โดนคดี เพื่อแลกกับการเปลี่ยนแปลงประเทศที่ไม่มีใครทำได้ เหมือนพวกเขาคิด คนที่เชื่อแบบนั้นจึงมองข้าม หรือทำเป็นมองไม่เห็นระบบที่ไม่ดีต่างๆ ภายในพรรค แต่ไม่กล้าเอามาคิดตาม เพราะกลัวทำใจไม่ได้ว่า แท้จริงแล้วคนที่ตัวเองรักทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องอยู่เหมือนกัน
“พรรคการเมืองไม่ใช่ศาสนาที่ต้องศรัทธาไปกระทั่งวันตาย เมื่อเชื่อถือไม่ได้ก็ต้องสรรหาพรรคใหม่ แล้วพรรคใหม่ชื่ออะไร เดี๋ยวจะเกิดขึ้นมาเอง พรรคการเมืองไม่ได้หมดสิ้นดีสุดเพียงแค่นี้ เป็นพลวัตรปกติ เรื่องแนวคิดที่ดีของพรรคอนาคตใหม่ พรรคที่เกิดขึ้นใหม่จะต่อยอดเอง และทุกการต่อยอดจะพัฒนาการได้ดีกว่าแรกเริ่มเสมอ พรรคอนาคตใหม่มีเสนอแนวคิดที่ดีหลายด้าน แต่ขาดวิธีการที่จะทำให้สำเร็จ ส่วนนี้ยังไม่ได้วิจารณ์กันเลย เมื่อยังไม่ได้เป็นรัฐบาล เช่น ปราบคอร์รัปชัน ให้รัฐเปิดเผยข้อมูล พรรคทำอยู่แต่ทุจริตเพียบ” นายชาญวิทย์กล่าว
นายชาญวิทย์กล่าวว่า เรื่องที่ให้ยืมเงินไม่ใช่เป็นการหลุดปากพูดในงานสัมมนา แต่เป็นความจำเป็นที่หัวหน้าพรรคต้องให้เปิดเผยแบบนั้นเก่อนจะหมดเวลา ตัวเลขต้องเป็นแบบนั้นจะเป็นเศษหรือแบบกลมๆ น้อยกว่า มากกว่า ขาดหรือล้นกรอบไปก็ไม่ได้ เดี่ยวกระทบระบบบัญชีบางอย่างที่จะให้มีการโผล่ย้อนหลังในวันที่มี ส.ส.เต็มสภาไม่ได้ ซึ่งมีโทษและผลบานปลายกว่านี้อีกมาก จึงต้องชิงยกความโปร่งใสมาพูดบังเหตุการณ์ เสมือนว่า ฆ่าผู้อื่นตาย แต่อำพรางด้วยการแจ้งเอาความดีบังคดีว่าเป็นผู้พบศพ เบี่ยงเบนประเด็นว่าคนฆ่าคนตาย เป็นความเจ็บปวดที่สุดของหัวหน้าพรรคที่พูดความจริงไม่ได้ แม้จะขยายเวลาคำให้การไปอีกนาน ก็ไม่น่าจะพร้อมส่งเอกสารบัญชีอีก
“บอส (หัวหน้าพรรค) พลาดเพราะเชื่อเพื่อนที่ขาดประสบการณ์มาตั้งแต่ต้น พยายามสร้างความสับสนให้มวลชนเข้าใจคลุมเครือเรื่อยมา ทั้งเงินยืมไม่ใช่รายได้ รู้ทั้งรู้ว่าเป็นกฎหมายเฉพาะการเลือกตั้ง ปนกันไม่ได้ ทำนองเดียวกับคดีอาญาและแพ่ง ความผิดเดียวกันแต่ให้โทษต่างกัน เงินตัวเดียวกัน รายรับรายจ่ายเหมือนกัน แต่มีข้อยกเว้นต่างกัน ในแต่ละภาคธุรกิจ ระบบภาษีเรียกเก็บ การยกเว้น การถือครอง แตกต่างกันหมด เช่น งบประมาณว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเอกชน ศึกษาและออกแบบโครงสร้างพื้นฐาน 161.2 ล้านบาท มันคือรายได้ของบริษัทที่ต้องสำแดงภาษีให้กับรัฐ แต่งบประมาณเดียวกันนี้ ถ้าว่าจ้างโดยมหาวิทยาลัย กลับยกเว้นภาษีทั้งหมด ทั้งที่เป็นรายได้เข้ามหาวิทยาลัยเหมือนกัน แม้กระทั่งนักวิจัยชุดเดียวกัน แต่พอยืนอยู่กันคนละต้นสังกัดกลับต่างไปเลย มันแปลกดีไหม” นายชาญวิทย์กล่าว
นายชาญวิทย์กล่าวว่า อาจารย์นักกฎหมายมือหนึ่งของพรรคเคยอยู่มหาวิทยาลัย น่าจะทราบเรื่องนี้ดี ตนก็ไม่เห็นกับความย้อนแย้งแบบนี้ แต่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากทำให้ถูกต้องเท่านั้น จะชี้แจงแบบข้างๆ คูๆ แบบที่พรรคอนาคตใหม่ทำก็ติดคุก ค่อยรอโอกาสเข้าไปเป็น ส.ส.เพื่อศึกษาเหตุผลในเรื่องเหล่านี้เสียใหม่ แต่ก็เป็นเรื่องยาก สำหรับตนอีก 10 ปีก็เป็น ส.ส.ไม่ได้ เพราะคนเดิมรับผิดชอบประชาชนได้ดีกว่ามาก ต้องยอมรับความสามารถในเรื่องนี้ ทุกกิจกรรมสังคมเข้าถึงหมด ไม่ห่างประชาชนเลย ส่วนตนมีทางเดียวคือการนำเสนอนโยบายให้กับพรรคการเมืองอื่นในสมัยต่อไป ส่วนเรื่องคดีเงินกู้ หากพรรคอนาคตใหม่ไม่ผิด แสดงว่าการกู้เงินทำได้แล้ว ทุกพรรคทำต่อไปได้และยังทำได้อีก
อย่างไรก็ตาม ได้มีสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งถามว่า “ไม่มีซอมบี้มาถล่ม ดร.โจ เลยเหรอคะ หรือว่าบล็อกไม่ไหวเลยพูดอะไรไปสุภาพแท้ๆ พากันมาถล่มด่าอย่างหยาบคายเหมือนคนบ้า ยิ่งทำให้ชังพรรคอนาคตใหม่มากยิ่งขึ้น ถ้าคนในพรรคนี้เป็นแบบ ดร.โจ ก็พอฟังได้ รู้คิดอะไรใช่ไม่ใช่”
นายชาญวิทย์ตอบกลับไปว่า “เฟซบุ๊กที่ไม่มีตัวตน ถูกสร้างมาจากบริษัทดูแลเว็บไซต์ครับ เราตรวจสอบจนพบ มีการใช้ทีมเฝ้าหน้าจอที่วิจารณ์พรรค เขาสร้างไว้เป็นร้อยๆ เฟซบุ๊ก นับไม่ทัน แล้วจะถล่มพร้อมกัน ก็อปภาษา แต่งคำต่างนิดหน่อย แล้วถล่มเรียงกันเลย เขาติดตามทุกคนที่วิจารณ์พรรค ที่ตั้งแยกไปอยู่อีกสถานที่หนึ่ง (ไม่เปิดเผยออกสื่อ) ทำงาน 7.00- 24.00 น. เต็มกำลัง รอคิดภาษาสำนวนด่าคน เพื่อให้คนที่ไม่รู้เรื่องราวพลอยเกลียดชังไปด้วยคำเหล่านี้ เฟซบุ๊กเหล่านี้จะไปถล่ม พร้อมกับเพื่อนการเมืองของผม ดังนั้น ฝ่ายไอทีของผมตรวจสอบเฟซบุ๊กผี แล้วสกัดไม่ให้เข้ามาด่าทออย่างไร้เหตุผล สกรีนตัวตนเฟซบุ๊กก่อน ผมยอมรับความแตกต่าง พูดคุย สอบถามกันนะครับว่าจริงเท็จอย่างไรคุยกัน แต่ผมไม่พร้อมตอบโต้กับคนไม่ถามหาข้อมูลแลกเปลี่ยนใดๆ โดยเฉพาะเฟซบุ๊กผี ใช้คนปลอมเข้ามาเพื่อประณาม หยาบคายอย่างเดียว ขอบคุณครับคุณ... รวมถึงขอบคุณทุกคนที่อ่านข้อความนี้ด้วยครับ”