xs
xsm
sm
md
lg

บุรุษไปรษณีย์ ส่งจดหมายเพียงคนเดียวทั้งตำบล ในจ.ตาก ท่ามกลางความลำบากของเส้นทาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพจ “Reporter Journey ตามติดชีวิตนักข่าว” โพสต์เล่าเรื่องชีวิต บุรุษไปรษณีย์ไทยรายหนึ่ง ทราบชื่อว่า “ศตวรรตชัย ใหม่โม่ง” หรือ “โก้” พนักงานนำส่งจดหมาย ปณอ.101 แม่ตื่น วัย 27 ปี ที่ต้องนำจ่ายจดหมาย-พัสดุ เพียงคนในทั้งตำบล ท่ามกลางความลำบากของเส้นทางในพื้นที่ เพราะต้องขึ้นเขาเป็นลูกๆ เพื่อไปส่งจดหมายถึงผู้รับ

เมื่อวันที่ 14 ก.พ. เพจ “Reporter Journey ตามติดชีวิตนักข่าว” โพสต์เรื่องราวของบุรุษไปรษณีย์ไทยรายหนึ่ง ทราบชื่อว่า “ศตวรรตชัย ใหม่โม่ง” หรือ “โก้” พนักงานนำส่งจดหมาย ปณอ.101 ต.แม่ตื่น อ.แม่ระมาด จ.ตาก วัย 27 ปี โดยเล่าว่า ตนได้สานต่ออาชีพบุรุษไปรษณีย์จากผู้เป็นพ่อ ซึ่งยึดอาชีพนี้ทำมาหาเลี้ยงครอบครัวมานานกว่า 20 ปี ส่วนตัวของโก้ ก็ทำอาชีพนี้มากว่า 8 ปี ที่เขาได้ตระเวนขึ้นเขา ลงดอยส่งจดหมายและพัสดุ ท่ามกลางความลำบากของเส้นทางในพื้นที่รับผิดชอบเพียงคนเดียวทั้งตำบล โดยผมก็สานต่อนำจ่ายไปรษณีย์จากพ่อตอนจบ ม.6 ตอนนี้เข้าปีที่ 8 แล้ว ซึ่งพื้นที่รับผิดชอบของผมคือใน ต.แม่ตื่น ทุกๆ หมู่บ้าน คนเดียว บนพื้นที่ 512.24 ตารางกิโลเมตร หรือ 321,050 ไร่ 3,460 ครัวเรือน ระยะทางไกลสุดก็หมู่ 7 ติดกับ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ระยะทางราว 50 กิโลเมตร และอีกฝั่งคือ หมู่ 9 ติดกับ อ.สามเงา ระยะทางก็ 40 กิโลเมตร จากไปรษณีย์ อ.แม่ระมาด จ.ตาก ซึ่งเป็นเทือกเขาทั้งหมด และแต่ละหย่อมบ้านในแต่ละหมู่ ก็ตั้งห่างกันบนเขาเป็นลูกๆ ซึ่งเวลาที่นำไปรษณีย์ไปส่ง ก็มีปัญหาในการนำจ่ายด้วย เพราะไม่รู้ว่าตัวเจ้าของบ้านอยู่หย่อมบ้านไหน หรือบนเขาลูกไหน”

“ยิ่งหน้าฝนยิ่งไปกันใหญ่เลย ขนาดรถยนต์ก็ต้องเป็นรถ 4X4 แถ้มล้อยังต้องพันโซ่ถึงจะไปได้ ส่วนมอเตอร์ไซค์ผมเปลี่ยนมาเป็นคนที่ 2 แล้ว เพราะคันแรกเครื่องน็อกไปแล้ว ต้องเปลี่ยนเครื่อง เปลี่ยนเฟรม ดัดแปลงเป็นรถวิบากถึงจะไปได้ เพราะต้องฝ่าโคลนลึกเกือบครึ่งล้อ เบรก ยาง ตลับลูกปืน ไม่ต้องพูดถึง แต่ละปีก็ต้องเปลี่ยนการหลายรอบเลยทีเดียว ขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นเขาตามทางที่เป็นโคลน พยุงตัวเองให้ถึงที่สุด เปื้อนทั้งตัวเลยครับ ทั้งขี้ดินขี้โคลน แต่พยายามจะไม่ให้จดหมายเปื้อน เพื่อให้ถึงมือผู้รับสมบูรณ์ที่สุด”

“ผมรักในบ้านเกิด ในเมื่อพ่อได้มอบหมายให้สานต่อ ผมก็ทำมันต่อ จนตอนนี้ผมกับพ่อนำส่งไปรษณีย์รวมกันก็ราว 30 ปี แล้ว เคยท้อเหมือนกันนะ ว่าทำไมเราต้องมาลำบากมากขนาดนี้ ทั้งๆ ที่งานสบายก็มีเยอะแยะ แต่ในเมื่อพ่ออยากให้เราสานต่อ เราก็ไม่อยากละทิ้งในความตั้งใจของพ่อ ถามว่าคิดอยากไปทำอย่างอื่นไหม ก็คิดครับ ตอนนี้ก็เรียนต่ออยู่ เรียนรัฐประศาสนศาสตร์ ของสถาบันแปซิฟิค ม.พะเยา แต่ตอนนี้ก็ยังคงทำอยู่ และทำมา 8 ปีแล้ว อย่างขึ้นมาส่งที่บนดอยนี้ กว่าจะส่งให้ครบทุกหย่อมบ้านก็ต้องใช้เวลา 2-3 วัน ส่วนมากเราก็คลุกคลีกับชาวบ้านเยอะเหมือนกัน เวลาจะนอนชาวบ้านก็จะให้อาศัยที่หลับที่นอน ทำกับข้าวกับปลาให้กิน เอ็นดูเราเหมือนลูกหลาน อย่างบางทีพวกบริษัทส่งพัสดุเอกชน ทั้งสีส้ม สีต่างๆ ก็ไม่สามารถขึ้นมาส่งได้ถึงบนดอย เขาก็ฝากผมขึ้นมาส่งให้เช่นกัน ถ้าจ่าหน้าซองถึงบ้านที่ผมรู้จักก็จะเอามาส่งให้ด้วย ถือว่าช่วยๆ กันไป”

หรือบางทีชาวบ้านที่ต้องจ่ายบิลต่างๆ มีหมายศาล ค่าประกันชีวิต หรือค่างวดผ่อนรถกระบะ ผมก็รับไปลงไปส่งให้ ถ้ามันส่งทัน ซึ่งชาวบ้านก็ไว้ใจและเชื่อใจกันครับ ก่อนจบบทสนทนาโก้บอกกับผมว่า งานที่เขาทำแม้มันจะลำบาก เงินอาจจะไม่ได้มากมายเหมือนอาชีพอื่นๆ แต่มันคืองานที่ถูกส่งต่อมาจากพ่อ งานที่หาเงินเลี้ยงดูครอบครัวมาตั้งแต่ผมยังเด็ก สมัยที่เงินเดือนพ่อยังแค่ 2,000 บาท เมื่อ 30 ปีก่อน ก็คงจะทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะทำไม่ไหว ในเมื่อเราเกิดที่นี่ โตที่นี่ ก็คงจะทำต่อไป เพราะชาวบ้านยังรอไปรษณีย์จากเราทุกวัน












กำลังโหลดความคิดเห็น