น.อ.ทองย้อย โยงผลงานศิลปะ “พระพุทธรูปอุลตร้าแมน” เป็นลางเหตุสลดกราดยิงโคราช

ศิลปินอาวุโส น.อ.ทองย้อย แสงสินชัย โพสต์เฟซบุ๊กโยงเหตุกราดยิงกลางเมืองโคราช อาจเป็นลางจากการจัดแสดงภาพศิลปะพระพุทธรูปอุลตร้าแมน เผยภาพคล้ายพระพุทธรูปกำลังออกท่าทางเหมือนจะต่อสู้กับใคร ด้าน “พระมหาไพรวัลย์” ตำหนิไม่ควรโยง 2 เหตุการณ์มาเกี่ยวกัน

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ศิลปินอาวุโส น.อ.ทองย้อย แสงสินชัย ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “ทองย้อย แสงสินชัย” ระบุข้อความโยงเหตุกราดยิงกลางเมืองโครชและในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 อาจจะเกี่ยวกับการที่ครั้งหนึ่ง ทางศูนย์การค้าแห่งนี้เคยจัดแสดงภาพวาดผลงานศิลปะ “พระพุทธรูปอุลตร้าแมน” เมื่อวันที่ 3-11 กันยายน 2562

โดยภาพวาด “พระพุทธรูปอุลตร้าแมน” นั้น มีการวาดพระพุทธรูปกำลังออกท่าทางเหมือนจะต่อสู้กัน คล้ายเป็นลางบอกเหตุว่าอาจจะเกิดเหตุรุนแรงในศูนย์การค้าแห่งนี้ โดย น.อ.ทองย้อย ได้ระบุข้อความว่า

“ผมไม่เสพสื่อหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ ไม่ว่าจะฉบับไหนช่องไหนทางไหนมานานแล้ว ข่าวเรื่องกราดยิงที่โคราชผมก็รู้จากข่าวที่มันล้นมาเข้าหูเข้าตา ไม่ใช่เพราะตามไปดูมัน ได้ยินได้เห็นคำว่า “เทอร์มินอล 21” สถานที่เกิดเหตุ แวบแรกผมนึกสงสัยว่า-ดูเหมือนจะเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน เมื่อค้นดูก็เจอจริงๆ ยังจำกันได้หรือไม่

ภาพวาดผลงานศิลปะ “พระพุทธรูปอุลตร้าแมน” ของนักศึกษาชั้นปีที่ ๔ หลักสูตรศิลปศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ถูกนำมาจัดแสดงในงานการแสดงผลงานศิลปะของนักศึกษาหลักสูตรศิลปศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ภายใต้ชื่องาน “เต๊อะเติ๋น” ที่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ชั้น G ด้านประตู ๑ ระหว่างวันที่ ๓-๑๑ กันยายน ๒๕๖๒

หลายคนอาจลืมเรื่องนี้ไปแล้ว แต่ผมยังไม่ลืม เอามาเตือนความจำกันเท่านั้น แต่อย่าเอาไปโยงกันนะครับ คนละเรื่อง คนละกรณีกัน ไม่เกี่ยวกัน ไม่เป็นเหตุเป็นผลของกันและกัน หลายท่านโยงเหตุกราดยิงเข้ากับวันมาฆบูชา แล้วเรียกว่า

“มาฆบูชาเลือด”

“มาฆบูชาวิปโยค”

ทั้งๆ ที่เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกี่ยวกับมาฆบูชาแต่ประการใดเลย พระพุทธรูปอุลตร้าแมนกับเหตุกราดยิง ยังน่าจะโยงเข้าหากันมากกว่า อย่างน้อยก็อ้างได้ว่า-เกิดเหตุในสถานที่เดียวกัน ดูภาพพระพุทธรูปอุลตร้าแมนที่วาดเป็นพระพุทธรูปกำลังออกท่าทางเหมือนจะต่อสู้กับใคร (ซึ่งวิปริตจากพุทธวิสัยอย่างยิ่ง) จะยิ่งชวนให้เกิดจินตนาการ-เหมือนกับบอกเหตุว่าจะมีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดที่นั่น เผื่อใครจะเอาเรื่องนี้ไปโยงกัน-เหมือนกับที่มาฆบูชาถูกเอาไปโยง-ขอให้เลิกคิดนะครับ คนละเรื่อง คนละกรณีกัน ไม่เกี่ยวกัน ไม่เป็นเหตุเป็นผลของกันและกัน

นอกจากเตือนกันว่า-อย่าลืมอดีต ก็ควรถือเป็นโอกาสฝึกตัวเองให้รู้จักใช้ปัญญา แยกแยะเหตุผล แถมนิดหนึ่ง ดูภาพพระพุทธรูปอุลตร้าแมนแล้ว ทบทวนกันด้วยนะครับว่า เมื่อครั้งที่เกิดกรณีขึ้น เราหรือใครแสดงความเห็นไว้อย่างไร พระพุทธเจ้าออกท่าทางเป็นนักสู้แบบนั้น เป็นพุทธวิสัยหรือเปล่า ต่อไปถ้ามีศิลปินวาดภาพเป็น พระพุทธเจ้าสวมนวม คาดเชือก พระพุทธเจ้ารำกระบี่กระบอง พระพุทธเจ้าสะพายอาก้า เอ็ม ๑๖ แล้วบอกว่าพระพุทธเจ้าในสายตาของข้าพเจ้าเป็นฮีโร่แบบนี้ เราจะว่าอย่างไรกัน เห็นใครเอาใครเป็นฮีโร่แบบไหน ตั้งสติกันไว้ดีๆ นะครับ”

ต่อมา พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ภิกษุหนุ่มแห่งวัดสร้อยทอง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึง น.อ.ทองย้อย เกี่ยวกับความคิดดังกล่าว ว่า

“คนที่เขียนอะไรแบบนี้ได้เนี่ย นอกจากจะไม่เคารพชีวิตของคนบริสุทธิ์ที่ต้องถูกฆ่าแล้ว ยังทำให้คนอื่นพลอยเข้าใจพระพุทธศาสนาว่าเป็นศาสนาแห่งความลงทัณฑ์ บ้าคลั่ง และป่าเถื่อนไปด้วย นี่ขอเขียนถึงอาจารย์ทองย้อยแบบไม่เกรงใจ

ปล. เขียนเหมือนจะไม่โยง แต่นัยยะที่คนส่วนใหญ่อ่านแล้วใหญ่เข้าใจ ก็คือโยง ไม่ควรจริงๆ เลย ที่จะนำ ๒ เรื่องนี้ มากล่าวถึงในคราวเดียวกัน”