SACICT ยิ้มรับยอดจำหน่ายในงานอัตลักษณ์แห่งสยามครั้งที่ 11 ผลจำหน่ายในวันแรกรับยอดขายกว่า 12 ล้านบาท พร้อมยอดผู้เข้าชมงานกว่า 4,890 ราย เผย ความสำเร็จนอกจากมูลค่า คือการสร้างความตระหนักในคุณค่าแห่งงานศิลปหัตถกรรมไทย
นางสาวแสงระวี สิงหวิบูลย์ รองผู้อำนวยการ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ กล่าวว่า งานอัตลักษณ์แห่งสยามครั้งที่ 11 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้างาน โดยในวันแรกสามารถสร้างยอดจำหน่ายทั้งสิ้น 12,603,856 บาท ซึ่งสูงกว่ายอดของวันแรกในปีที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่า จะได้รับการตอบรับที่ดีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในวันถัดไป โดยประเภทของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจในวันแรก ได้แก่ เครื่องเงิน เครื่องทอง งานผ้าทอ เครื่องถม เครื่องจักสาน และเรือจำลอง
ทั้งนี้ SACICT ได้มุ่งผลักดันการสร้างความตระหนักในคุณค่าของงานศิลปหัตถกรรมไทย ตลอดจน เชิดชูกลุ่มช่างผู้รังสรรผลงาน ด้วยการเชิดชูครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ตลอดจน ได้เข้าไปมีบทบาทในการร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สามารถดึงเอาจุดแข็งของงานศิลปหัตถกรรมไทยที่มีความประณีตงดงามมาผสมผสานกับเทรนด์สมัยใหม่ ให้เกิดเป็นชิ้นงานที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้เพิ่มมากขึ้น และยังเป็นหนึ่งในผลงานที่ได้รับความนิยมเป็นลำต้น ๆ เช่น “ร้านขวัญเงิน” โดย ณัฐวุฒิ พลเหิม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม สาขาเครื่องเงิน ปี 2558 ที่ SACICT เข้าไปมีส่วนช่วยในการสร้าง Story tailing สร้างการจดจำในแบรนด์ และเชื่อมโยงระหว่างงานหัตถศิลป์ประเภทอื่นๆ เช่น เครื่องเงินผสมกับเบญจรงค์ ซึ่งความพิเศษ ของเครื่องเงินขวัญเงิน สุโขทัย คือ เป็นการทำลวดลายขึ้นมาทีละชิ้น แล้วนำมาประกอบกันเป็นชิ้นงานใหม่ สามารถสร้างความประทับให้กับผู้ซื้อ เพราะงานดั้งเดิมที่ผสมแนวคิดของคนรุ่นใหม่ เกิดเป็นผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ไทยที่มีความโดดเด่นสามารถเพิ่มมูลค่าได้ หรือจะเป็นผลิตภัณฑ์งาน ผ้าไหมแพรวาจากคนรุ่นใหม่ โดย จิตนภา โพนะทา ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2558 งานผ้าแพรวา เจ้าของแบรนด์ Primpraewa จากเดิมมีคนรู้จักน้อย SACICT ได้เข้าไปมีบทบาทในด้านการให้คำปรึกษา แนะนำปรับชื่อแบรนด์ให้มีความชัดเจนขึ้น และปรับชื่อแบรนด์
จนกลายมาเป็น Primpraewa ที่บ่งบอกถึงความเสน่ห์ของผ้าแพรวาผสมกับความน่ารักของชิ้นงานที่เป็นทั้งเครื่องประดับ กระเป๋า เลือกใช้สีผ้าแพรวาที่มีความอ่อนโยนเหมาะกับสุภาพสตรี ซึ่งได้รับความนิยม และสร้างความน่าสนใจในงานอัตลักษณ์แห่งสยามครั้งที่ 11 ได้เป็นอย่างดี
งานอัตลักษณ์แห่งสยามครั้งที่ 11 จึงถือได้ว่าประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านการสร้างยอดจำหน่าย ที่แม้จะอยู่ในช่วงสภาวะการแข่งขันทางการค้าในยุคปัจจุบัน แต่งานศิลปหัตถกรรมไทยก็ยังคงได้รับการยอมรับ และยังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนประสบความสำเร็จในด้านคุณค่า ที่สามารถสร้างความตระหนัก และส่งต่องานหัตถศิลป์ไทยให้เป็นที่รู้จัก และเกิดการสืบสาน ต่อยอด สืบไป
SACICT ขอเชิญชวนทุกท่านชื่นชมและสนับสนุนงานหัตถศิลป์ไทย ในงาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 11” วันนี้ – 2 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ฮอลล์ EH 101 ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา สอบถามเพิ่มเติมเฟชบุ๊ก SACICT