รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ โพสต์ข้อความให้ความรู้กรณีมีชาวเน็ตโพสต์ปูสายพันธุ์หนึ่งทราบว่าเป็นปูใบ้ มีสีสันที่สวยงาม หากรับประทานอันตรายถึงชีวิต เพราะพิษในตัวปู ทนความร้อนได้แม้จะไปประกอบอาหารแล้วก็ตาม
เมื่อวันที่ 30 ม.ค. เพจ “อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์” หรือ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาโพสต์ชี้แจงรายละเอียดกรณีมีชาวเน็ตโพสต์ภาพปูชนิดหนึ่ง มีตัวสีแดง พร้อมกับตั้งคำถามว่าเป็นปูสายพันธุ์อะไร และสามารถกินได้หรือไม่
ทางเพจระบุข้อความว่า “ตัวนี้เป็นปูพิษครับ อยู่ในกลุ่มปูใบ้ หลายคนน่าจะไม่เคยทราบว่า “ปู” นั้นมีหลายชนิดที่มีพิษ อันตรายถึงตายได้ อย่างเช่น ปูในรูปนี้ครับ ปูสวยๆ ตัวนี้มีชื่อว่า Mosaic reef crab หรือชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lophozozymus pictor อยู่ในวงศ์ Xanthidae (พวกปูใบ้) โดยมักพบตามแนวปะการัง ใกล้ชายฝั่ง ขนาดตัวประมาณ 8-10 เซนติเมตร มักมีสีแดงถึงส้ม พร้อมลวดลายจุดสีขาวคล้ายกระเบื้องโมเสกบนกระดอง มีก้ามสั้นที่มีปลายสีดำ ปัจจุบันถือว่าเป็นปูชนิดที่หาได้ค่อนข้างยาก
ปกติเวลาเราคิดถึงสัตว์ทะเลที่มีพิษก็มักจะคิดถึงปลาปักเป้า หรือแมงดาไฟกัน แต่ก็มีปูอยู่หลายชนิดที่มีพิษสะสมในตัวและทำให้ถึงแก่ความตายได้ถ้ากินเข้าไป ปูพิษที่ว่านั้นมักจะเป็นปูในวงศ์ปูใบ้ เช่น ปูใบ้แดง (Artergatis intergerrimus) ปูใบ้ลาย (Lophozozymus pictor) ปูตาเกียง (Eriphia smithi) ปูใบ้ตาแดง (Eriphia sebana) เป็นต้น ขณะที่ปูใบ้อีกหลายชนิด ก็สามารถนำมากินได้โดยไม่มีพิษ (จึงทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ถ้าเลือกกินผิดชนิด)
ปูใบ้ชนิดที่มีพิษนั้น มีทั้งพิษที่เกิดจากสารกลุ่มนิวโรท็อกซิน ที่ทำลายประสาท เช่น สาร ซาซิทอกซิน (saxitoxin) โดยปูใบ้ได้กินแพลงก์ตอนพิษกลุ่มไดโนแฟลกเจเลตเข้าไป และสะสมพิษเหล่านี้ไว้ในตัว รวมทั้งมีพิษกลุ่มเตโตรโดท็อกซิน ชนิดเดียวกับที่พบในปลาปักเป้า โดยอาจจะสร้างจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของปูใบ้ สารพิษพวกนี้ ส่วนใหญ่จะทนความร้อนสูง ดังนั้น ถึงนำไปประกอบอาหารด้วยการนึ่ง อบ หรือปิ้งย่าง ก็ไม่สามารถทำลายพิษลงได้ ถ้าได้รับเข้าไปอาจจะเกิดอาการบวมที่ริมฝีปาก ลิ้น ลำคอ และใบหน้า ถ่ายท้อง ปวดท้อง และช็อก รวมถึงเป็นอัมพาต และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้น แม้แต่อาหารที่ดูธรรมดาๆ มากอย่างปู ก็ต้องเลือกกินให้ถูกต้อง ไม่เอาชนิดที่มีพิษมากินกันนะครับ”