เพจ "กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" เผยภาพขณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเต่าจำนวนมาก ทั้งหมดมี 3 ชนิด รวม 563 ตัว ได้แก่ เต่าบัว จำนวน 369 ตัว เต่าหวาย จำนวน 158 ตัว และเต่าหับ จำนวน 36 ตัว อยู่ภายในบ่อน้ำวัดต้นสน จังหวัดอ่างทองด้านเจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อวันที่ 29 ม.ค. เพจ "กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" โพสต์รูปภาพขณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า พบเต่าจำนวนมากอยู่อย่างแออัด ภายในบ่อน้ำวัดต้นสน จังหวัดอ่างทอง จากการตรวจสอบพบ พระอุดร มะลิพวง ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดต้นสน เป็นผู้นำตรวจสถานที่อนุบาลสัตว์เลี้ยงอยู่ภายในบริเวณวัดดังกล่าว มีลักษณะเป็นบ่อ สร้างด้วยปูนซีเมนต์ปูด้วยแผ่นกระเบื้องเซรามิค และมีน้ำขังอยู่ภายในจำนวน 2 บ่อ พื้นที่ด้านบนเป็นที่สูงไม่มีน้ำขัง จำนวน 2 บ่อ ภายในบ่อพบสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลื้อยคลาน ชนิดเต่า จำนวน 3 ชนิด รวม 563 ตัว ได้แก่ เต่าบัว จำนวน 369 ตัว เต่าหวาย จำนวน 158 ตัว และเต่าหับ จำนวน 36 ตัว
พระอุดรฯ เผยว่า วัดต้นสน เป็นเขตอภัยทาน ประชาชนมักนำสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทเต่าชนิดต่างๆ มาปล่อยเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ในอำเภอเมืองจังหวัดอ่างทอง ส่วนใหญ่เป็นที่นา หรือแปลงเกษตร มีเต่าอาศัยอยู่ตามธรรมชาติจำนวนมาก ทำให้ประชาชนพบเห็นเต่าเดินข้ามถนนอยู่เป็นประจำ จึงนำเต่าดังกล่าวมาปล่อยภายในวัดต้นสนอย่างต่อเนื่อง วัดต้นสนจึงให้ความอนุเคราะห์ ในการดูแลอนุบาลสัตว์ป่าดังกล่าว เป็นการชั่วคราวโดยไม่ทราบว่าสัตว์ป่าดังกล่าว เป็นของผู้ใด และทางเจ้าอาวาสวัดต้นสน มีความประสงค์ขอให้ทางราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับมอบสัตว์ป่าดังกล่าว ไปดูแลเนื่องจากวัดไม่มีภารกิจในการดูแลสัตว์ป่า
อย่างไรก็ตาม ทางด้านคณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว เห็นว่ากรณีประชาชนนำสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลื้อยคลาน ชนิดเต่าของกลางดังกล่าว เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 112 และมาตรา 116 ไปปล่อยในที่สาธารณะ หรือบริเวณวัดต้นสน ข้างต้น การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 15 ฐาน "ทิ้งหรือปล่อยเป็นอิสระซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี" ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 91 จำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 17 ฐาน "มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี" ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 92 จำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงได้ทำการตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครองของกลางดังกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง เพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยมอบให้นายถิรเดช ปาละสุวรรณ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และนายนาวี ช้างภิรมย์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ เป็นพยาน
สำหรับสัตว์ป่าคุ้มครองของกลางจำนวนดังกล่าว ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก อยู่ในระหว่างการพิจารณาจัดหาสถานที่อนุบาล คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ขอความอนุเคราะห์จากพระอุดรฯ ช่วยเหลือในการอนุบาลเป็นการชั่วคราว จนกว่าคณะเจ้าหน้าที่จะเคลื่อนย้ายสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวไปดูแลต่อไป