เมื่อวันที่ 17 ม.ค. นางสาวผาสุก สัมปุณณะโชติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA เปิดเผยว่า MEA ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า พร้อมใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่กับความห่วงใยคุณภาพชีวิตของประชาชน เนื่องจากเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 25 มกราคม 2563 ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลที่มีความสำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีนที่กำลังเตรียมตัวเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ของจีน โดยในช่วงนี้สถานประกอบการต่าง ๆ ของคนไทยเชื้อสายจีนก็จะปิดทำการเพื่อเฉลิมฉลอง และหยุดพักผ่อน เพื่อพบปะญาติสนิทมิตรสหาย ทำพิธีไหว้เทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ รวมทั้งเดินทางไปไหว้บรรพบุรุษ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ในหลาย ๆ ปีที่ผ่านมามักเกิดเหตุอัคคีภัยขึ้นบ่อยครั้ง โดยหนึ่งในสาเหตุที่สำคัญของการเกิดเพลิงไหม้ในช่วงเทศกาลตรุษจีนมาจากการจุดธูปเทียนไหว้เทพเจ้า การเผากระดาษเงินกระดาษทอง หรือปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร นอกจากนี้ การจุดธูป และการเผากระดาษเงินกระดาษทอง ยังเป็นอีกสาเหตุสำคัญของการเกิดมลภาวะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ประเทศไทยกำลังประสบปัญหามาอย่างต่อเนื่อง
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร MEA กล่าวต่อไปว่า จากสาเหตุดังกล่าว MEA ขอความร่วมมือจากประชาชนหมั่นตรวจสอบสายไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้าของท่านว่าอยู่ในสภาพดี ไม่มีส่วนใดชำรุด เช่น สายไฟฟ้าจะต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ฉนวนไม่แตกกรอบ เปลี่ยนสี แผงเมนสวิตช์ จะต้องแน่น ไม่แตกร้าว ใต้แผงเมนสวิตช์ต้องปราศจากวัสดุที่สามารถเป็นเชื้อเพลิงได้ อาทิ ผ้า กระดาษ น้ำมัน เป็นต้น อุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น ๆ ต้องทำงานเป็นปกติ หากพบว่าชำรุดควรเปลี่ยนใหม่ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ โดยเลือกสายไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน และที่สำคัญคือเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทโคมประดับ ธูปเทียนไฟฟ้า จะต้องตรวจสอบความสมบูรณ์ของสายไฟฟ้า ฉนวนของอุปกรณ์ เต้าเสียบไม่ชำรุด แตกร้าว รวมถึงไม่เสียบปลั๊กไฟหลายอันบนเต้าเสียบเดียวกัน หรือเสียบปลั๊กไฟค้างเป็นระยะเวลานาน หากต้องออกไปนอกบ้าน หรือเข้านอน ควรปิดสวิตซ์และดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งานให้เรียบร้อย เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจรที่ก่อให้เกิดอัคคีภัย และยังเป็นการประหยัดค่าไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง สำหรับบ้านหรือสำนักงานที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาดังกล่าวควรปลดคัทเอาท์เพื่อตัดกระแสไฟฟ้าทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม เทศกาลตรุษจีนในปีนี้กำลังอยู่ในช่วงเดียวกับที่ประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร กำลังประสบกับปัญหาวิกฤติมลภาวะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่กำลังสร้างความวิตกแก่ประชาชนในพื้นเป็นอย่างมาก MEA จึงขอร่วมรณรงค์ให้ประชาชนงดจุดธูป และเผากระดาษเงินกระดาษทองในช่วงที่เกิดมลภาวะฝุ่นละอองนี้ เพราะนอกจากจะก่อให้เกิดฝุ่น PM 2.5 แล้ว ในควันธูปยังมีสารที่ก่อให้เกิดอันตรายอื่น ๆ ทั้งซัลเฟอร์ไดออกไซด์ หรือกำมะถัน และไนโตรเจนไดออกไซด์ ที่ล้วนเป็นก๊าซระคายเคืองทั้งสิ้น และยังมีกลุ่มโลหะหนัก สารก่อมะเร็ง สารอินทรีย์ระเหย เช่นเดียวกับการเผากระดาษเงินกระดาษทอง ที่วัสดุทำจากระดาษเคลือบเงิน มันวาว เมื่อเผาไหม้แล้วจะก่อให้เกิดสารโลหะหนักเช่นเดียวกับควันธูปที่มีสารมลพิษ ประกอบด้วย สารพิษทางอากาศ ก๊าซเรือนกระจก สารก่อมะเร็ง และสารโลหะหนัก 4 ชนิด คือ โครเมียม นิกเกิล ตะกั่ว และแมงกานีส ที่พบในขี้เถ้าธูปและขี้เถ้าของกระดาษเงินกระดาษทอง เพื่อเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมรอบตัว และลดการเกิดมลภาวะทางอากาศ รวมถึงเป็นการลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพตนเองและคนรอบข้าง
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นสายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุด อยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัยซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตราย ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงเขตได้ทุกเขต รวมถึงสามารถสอบถามได้ที่ช่องทางสื่อโซเชียลมีเดีย MEA หรือศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง