จากการทำงานในบริษัทกาแฟที่สั่งสมประสบการณ์มากว่า 10 ปี จนเมื่อถึงเวลาที่กลับไปพัฒนาบ้านเกิด นั่นจึงทำให้ “เจริญ วุ้ยยื้อ” ได้สร้างแบรนด์กาแฟ “ME THAI COFFEE” ผลิตภัณฑ์จากดอยช้าง ที่คัดสรรเมล็ดกาแฟจนออกมาเป็นสินค้าเพื่อต่อยอดให้กับธุรกิจท้องถิ่น ให้ผลิตภัณฑ์กาแฟมีชีวิต สร้างรายได้ และสืบสานปณิธานเจตนารมณ์ของในหลวงที่ 9 ที่พระราชทานให้ชาวไทยภูเขา
ก่อนหน้าที่จะมีกาแฟ ชาวพื้นถิ่นภาคเหนือจะมีการปลูกฝิ่นมาก่อน
ใช่ครับ พื้นที่ตรงนั้นเขาจะปลูกฝิ่นกัน ตามดอยต่างๆ ในภาคเหนือ แล้วอย่างกลุ่มชนเผ่าต่างๆ ก็จะมีเรื่องนี้เข้ามาเกี่ยว แต่ถ้าเรื่องกาแฟพันธุ์อาราบิก้าก็น่าจะเริ่มตั้งแต่ปี 2512 ก็จะเริ่มมีโครงการหาพืชทดแทนฝิ่น แล้วก็มีพืชพวก ท้อ บ๊วย กาแฟ แต่ถ้าพื้นที่ดอยช้างก็จะเป็นปี 2527 ซึ่งคืนนี้ก็นอกจากจะมีกาแฟแล้วก็มีพลับ เชอรี่ บ๊วย แต่ว่าระยะหลัง จะไม่ค่อยมีแล้ว แล้วก็กาแฟ
กาแฟดอยช้าง ก็สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลกด้วย ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น
ส่วนใหญ่ก็จะเป็นความมีเอกลักษณ์ของกาแฟในพื้นที่ ซึ่งในแต่ละพื้นที่นั้นมันก็มีคุณลักษณะเฉพาะตัวอยู่แล้ว แต่ของเราจะเป็นในเรื่องของการทำให้เมล็ดกาแฟมีความสะอาด แล้วเวลาที่ส่งออกไปต่างประเทศนั้น เราจะได้ในเรื่องของผลตอบรับที่ดี ซึ่งสกอร์ที่เขาวางไว้นั้นมันมาจากพวกรีวิว อีกทั้งมีการตรวจสอบ cupping และการให้คะแนนว่า จะได้เท่าไหร่ ซึ่งเขาก็ดูจากองค์ประกอบของกาแฟหมดเลย กาแฟบางชนิดก็จะมีลักษณะเฉพาะอย่างที่บอก มีรสต่างๆ จะมีความหลากหลายแล้วแต่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ปลูก ซึ่งลงรายละเอียดในเรื่องของดินและแร่ธาตุในดิน อีกทั้งยังผ่านในเรื่องของกระบวนการด้วย อย่างทางกาแฟดอยช้างก็จะส่ง cupping ไปต่างประเทศเลย แล้วทางต่างชาติให้การยอมรับในเรื่องกาแฟ
แต่กาแฟบ้านเรา ก็ไม่ได้ปลูกอยู่ที่เดียวเช่นกัน
อย่างทางภาคเหนือก็จะเป็นพันธุ์อาราบิก้า แต่อาจจะมีโรบัสต้ามาผสมบ้างในบางพื้นที่ ซึ่งเมืองไทยมี 2 สายพันธุ์หลักๆก็คือที่บอก แต่โรบัสต้าจะมีการปลูกกันในภาคใต้ แถวๆชุมพรและระนองก็จะมีพันธุ์นี้เยอะ ส่วนรสชาตินั้น อาราบิก้าจะมีความนุ่ม หอม เบา คาเฟอีนจะน้อยกว่า แต่โรบัสต้าจะมีค่าคาเฟอีนมากกว่าพันธุ์แรก 2 เท่า แต่จริงๆ แล้วกาแฟก็มีความเปรี้ยวนิดหน่อยเพราะมันเป็นพืชตระกูลเบอร์รี่ แต่การที่เปรี้ยวมากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายอย่าง ทำกระบวนการที่ทำ มันก็จะมีผลในรสชาติของมัน ระดับการคั่วกาแฟ ก็ส่งผลต่อตัวกาแฟเหมือนกัน หรือในเรื่องของกระบวนการขั้นตอน ทั้งในเรื่องการตากแห้งใช้แสงแดดโดยที่ไม่ต้องปลอกเปลือก เก็บมาทั้งผลแล้วก็ตากแดดเลย มันก็จะเกิดผลในตัวน้ำตาล คือในตัวกาแฟมันก็จะมีตัวเปิดกับเมล็ดข้างใน ซึ่งจะมีความหวานคอยอุ้มอยู่ ตรงนี้มันจะค่อยๆซึมไปสู่ตัวกาแฟ
ก่อนหน้านี้ ก็จะเป็นในแบบการทำแบบเดิมอย่าง
ใช่ครับ แต่เดิมจะเป็นพ่อค้าคนกลาง มารับซื้อและเขาก็กำหนดเรื่องราคา โดยอาจจะเป็นเรื่องความชื้นหรืออะไรก็แล้วแต่ และก็ไม่ได้ทำแบรนด์ของตัวเอง แต่ที่มาทำแบรนด์ตรงนี้ก็เพราะว่าอาจจะเป็นในเรื่องของการโดนกดราคาด้วย ซึ่งก็ต้องขอบคุณทางกาแฟดอยช้าง พี่เขาเป็นคนที่เริ่มในการสร้างแบรนด์ขึ้นมา ชาวบ้านก็เลยได้อานิสงส์จากตรงนี้ไปด้วย อีกทั้งปัจจุบันนี้ เรื่องสื่อสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น ทางชาวบ้านเองก็มีความรู้มากขึ้น เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น
ปัจจุบันเลยมีแบรนด์มากมาย แต่แหล่งผลิตอยู่ที่ดอยช้าง
ต้องบอกก่อนว่าดอยช้างเป็นแหล่งที่ผลิตกาแฟที่ใหญ่ เลยทำให้ได้ผลผลิตเป็นจำนวนมาก แต่ถามว่าถ้ามีหลากหลายแบรนด์ก็มีความแตกต่าง เพราะก็ต้องอยู่กับกระบวนการผลิตอยู่ดี ซึ่งก็ส่งผลต่อรสชาติในตัวกาแฟด้วย เป็นการผลิตจากชาวบ้านหรือเปล่า หรือในเรื่องขั้นตอนวิธีการทำ คั่วยังไงมันก็มีผลต่อการผลิต คือพื้นที่ดอยช้างได้รับในการเป็นสิ่งบ่งชี้ทางด้านภูมิศาสตร์ หรือ GI ทั้งของไทยและสหภาพยุโรปด้วย
แล้วแบรนด์นี้จะมาช่วยเพิ่มศักดิ์ศรีในแบรนด์ไทยยังไงคะ
ด้วยชื่อตัวแบรนด์ จะอยู่ที่ตัวกาแฟไทยเป็นหลัก คือเราให้ความสำคัญกับตัวกาแฟในพื้นที่เป็นหลัก ซึ่งกาแฟจากดอยช้างก็เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกอยู่แล้ว แต่มันก็มีอีกหลายพื้นที่ที่ปลูกกาแฟเหมือนกัน แล้วเขาไม่มีโอกาสที่เข้าถึงผู้บริโภค ทั้งในเรื่องปัจจัยหลายๆอย่าง ในเรื่องความรู้ เราก็ร่วมทำงานกับเขาจากประสบการณ์ในการทำกาแฟ 10 กว่าปี ไปร่วมทำกับทางเกษตรกรแล้วนำความรู้ที่เรามี ไปคุยกับเขาว่าเราอยากทำแบบนี้นะ เพื่อไปนำเสนอผู้บริโภคในเมือง ให้มีโอกาสได้ชิม
โดยที่เราก็บอกเขาเลยว่าตัวกาแฟนี้ มาจากไหน ใครเป็นคนทำ มีกระบวนการยังไง เราก็ทำการใส่ผลิตภัณฑ์ให้ หมายถึงว่าถ้าไปใน Shop เราเปิดหน้าร้านเพื่อมีโอกาสให้คนได้ชิม เราก็ให้ข้อมูลเลยว่ากาแฟตัวนี้ มาจากหมู่บ้านไหน ใครเป็นคนทำ แล้วรสชาติที่เราทำนั้นเป็นยังไง อย่างขนาด 200 กรัม เราขาย 280 บาท สามารถสั่งซื้อได้ที่แฟนเพจ Me Thai Coffee หรือ ทางไลน์ @methaicoffee
คือถ้าได้ดื่มกาแฟนี้แล้ว ก็เหมือนช่วยเกษตรกรไทยด้วย
เป็นการส่งเสริมครับ คือเราไม่ได้ซื้อกาแฟจากเกษตรกรเพื่อมาขายต่อนะ แต่เราซื้อมาเพื่อที่จะทำงานร่วมกับเขา มีการวางขายในร้านและชงให้ลูกค้าได้ดื่ม และช่วยโปรโมทให้เขาในเรื่องที่ว่าเมล็ดกาแฟลักษณะนี้ มาจากหมู่บ้านต่างๆ ที่เขาปลูกกาแฟอยู่แล้ว จากย่านตามดอยต่างๆ คือทางเกษตรกรมีความรู้ความสามารถกันอยู่แล้ว แต่เราจะถือว่าเป็นการทำงานร่วมกัน เพราะว่าเราเคยอยู่ในตลาดมาก่อน เราเห็นว่าตลาดกาแฟมันเป็นยังไงบ้าง เราก็ให้คำแนะนำว่าทำการทดลองเป็นกระบวนการอย่างนี้ดูไหม ประมาณนี้ครับ คือเป้าหมายก็อย่างที่บอกแหละครับว่าต้องการเพิ่มศักยภาพและศักดิ์ศรีของกาแฟไทยให้มากขึ้นกว่าเดิม คือจริงๆก็มีหลายๆเจ้าที่จะช่วยตรงนี้อยู่แล้วเพียงแต่ว่าเราก็เป็นฟันเฟืองหนึ่งในการขับเคลื่อนตรงนี้มากกว่า
คุณทำอะไรเกี่ยวกับกาแฟมาก่อน
เราเริ่มตั้งแต่ปลูกกาแฟ เก็บเมล็ดกาแฟ ทั้งขายแล้วก็ชงด้วย แต่ถามว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านกาแฟไหม เรียกว่าเป็นผู้มีความรู้ในระดับหนึ่งดีกว่า ที่สามารถทำงานร่วมกับชาวบ้านได้ คือก่อนหน้านี้เราเคยทำงานบริษัทกาแฟมาก่อน แต่จะเป็นในเชิงลักษณะช่วยเปิดสอนร้านกาแฟ หรือชงกาแฟ คือทำอย่างที่บอกมาตั้งแต่ 10 กว่าปีแล้วครับ
ทราบมาว่า Me Thai Coffee ก็ไปอยู่ในโครงการ “พอแล้วดี” ด้วย
คือตอนที่จะเริ่มทำแบรนด์ใหม่ๆ มันเริ่มมาจากที่เราทราบจากรุ่นพี่คนหนึ่ง ซึ่งเขาเป็นครูฝึกสอนอยู่ในโครงการนี้พอดี แล้วเขาเห็นความตั้งใจของเรา เขาก็แนะนำเราว่าให้มาโครงการนี้ ที่ “ศิริกุล อภัยกุล” เขาเป็นผู้ริเริ่ม แล้วนำศาสตร์ของพระราชา ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ในตัวธุรกิจ คือคนทั่วไปอาจจะคิดว่าเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเรื่องของการเกษตรอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วมันสามารถปรับให้เข้ากับธุรกิจทุกอย่างได้ด้วย ก็เหมือนกับการแบ่งปันนะครับ
คือเราทำธุรกิจแต่ว่าก็คืนกำไรสู่สังคมด้วย ไม่ใช่เอาแต่กำไรอย่างเดียว คือตัวเทรนเนอร์เองก็เป็นระดับโลกเช่นกัน เข้ามาเป็นครูฝึกในโครงการ มาสอนในเรื่องต่างๆ คือคัดจาก 180 แบรนด์ ให้เหลือแค่ 18 แบรนด์ ในรอบสุดท้ายเพื่อที่จะมาทำในเรื่อง workshop ต่างๆ คือจากผู้ริเริ่มโครงการ ที่เขาบอกว่าเป็นธุรกิจที่คำนึงถึงสังคมส่วนหนึ่งด้วย แน่นอนว่าเกษตรกรทางกาแฟบ้านเราถือว่าเก่งนะ แต่ในเรื่องการชงเป็นเครื่องดื่ม ถ้าเป็นคนรุ่นใหม่ ก็จะมีการกลับไปพัฒนามากขึ้น เริ่มมีความรู้มากขึ้น ซึ่งบนดอยก็มีร้านกาแฟมากขึ้น
แสดงว่าเมล็ดกาแฟจากพื้นที่ต่างๆ ก็มีความแตกต่างด้วย
จริงๆ มันเป็นเมล้ดกาแฟที่เรารวมจากที่ต่างๆ เหมือนกับที่เรามีโอกาสนำเสนอให้กับผู้บริโภค จากทั้งดอยล้าน ปางขอน มีโรบัสต้าด้วยจากเพชรบูรณ์ ส่วนความอร่อยนั้นมันแล้วแต่คนชอบว่าชอบแบบไหน แต่เราพยายามทำให้กาแฟมันสะอาด หมายถึงว่าไม่มีรสชาติแปลกปลอมเลย ซึ่งทางกาแฟมันจะฟ้องด้วยกลิ่นรสของมันเองเลยว่า ถ้ามันไม่สะอาดมันก็จะเกิดกลิ่นเหม็นหมัก ซึ่งถ้ากระบวนการทำมันไม่ดี ทุกอย่างก็จะดูดซึมเข้าไปในตัวมันเลย ต่อให้ผ่านวิธีการคั่วมันก็ไม่หายไป
อยากรบกวนช่วยยกตัวอย่างเมล็ดพันธุ์กาแฟของทาง “Me Thai Coffee”
ตัวอย่างหนึ่งของผลิตภัณฑ์เรา คือ ดอยล้านพีเบอร์รี่ เป็นลักษณะเมล็ดโทรน คล้ายกับกระเทียมโทน ซึ่งลักษณะเมล็ดกาแฟมีอยู่ 2 ซีก ในลูกกาแฟมีไข่อยู่ 2 ใบ แต่ถ้าอีกไข่มันฝ่อ อันนี้ก็โตมาเป็นเมล็ด ตัวนี้ก็จะออกมาเป็นกลมๆ เลย มันโตมาเป็นเมล็ดผลเลย ส่วนการทำกาแฟของเรานั้น ก็ใช้สัดส่วน 1 ต่อ 15 คือกาแฟ 1 ส่วน น้ำ 15 ส่วน ตัวพีเบอร์รี่ ด้วยความเป็นผลไม้อย่างหนึ่ง มันจะได้ในเรื่องรายละเอียดของกาแฟมากกว่า ส่วนเรื่องรสชาติก็จะได้ในเรื่องของความหวานที่มากกว่า เพราะในตัวกาแฟมีน้ำตาลอยู่แล้ว ซึ่งถ้าเราชงเสร็จเรียบร้อย ถ้าเราทิ้งไว้ ความหวานของกาแฟก็ชัดขึ้น
แล้วในการดื่มกาแฟนั้นมันจะช่วยอะไรได้บ้าง
การทานกาแฟ มันจะสามารถอยู่ได้ 2 ชั่วโมง คือถ้าเป็นกาแฟดำก็ไม่มีอะไร แต่ถ้ามีการผสม ก็จะดึงไปใช้ทันที ซึ่งถ้าเราท่านกาแฟในปริมาณที่พอดี และอยู่ในกระบวนการที่สะอาด มันก็จะพอดี หรือถ้าคนเป็นไมเกรน ถ้าทานเป็นกาแฟดำ อาการก็จะดีขึ้น ถ้าเราทานกาแฟ สิ่งแรกที่ทำคือดมก่อน หลังจากนั้นคือดื่ม สิ่งแรกที่ได้คือรสสัมผัสว่ากาแฟชนิดที่เราทานนั้นเป็นยังไง แล้วเวลาที่เราดื่มเข้าไปมันก็จะมีกลิ่นอบอวลในปากเรา จนสุดท้ายมาอยุ่ที่สิ่งที่ค้างหลังจากที่เราดื่มเข้าไปในการดื่มรสต่างๆ ทำให้ดื่มง่ายกว่าเดิม
แสดงว่าคุณก็ต้องทานกาแฟพอสมควรเหมือนกัน
อย่างเวลาที่เราทำให้ลูกค้า เราก็จะชิมมัน อย่างกาแฟที่เราเปิดถุงครั้งแรก กับการเกิดครั้งต่อไป มันก็ต่างกัน มันก็ส่งผลต่อกาแฟเช่นเดียวกัน เพราะว่ามันโดนออกซิเจน รสชาติอาจจะเปลี่ยนไป ถามว่ามีแบบสำเร็จรูปมั้ย ก็มีนะครับ แต่ถ้าคอกาแฟจริงๆ มันจะได้ในเรื่องของอารมณ์ในการทานกาแฟสดมากกว่า เพราะถ้าอย่างที่บอก มันจะเปลี่ยนแปลงอย่างที่บอก
อยากให้คุณช่วยพูดถึงโครงการที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมอบให้ชาวเขาในเรื่องกาแฟ
ต้องขอบคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 นะครับ ที่พระองค์ท่านทรงหาพืชทดแทนฝิ่น และพืชต่าง ที่ช่วยเหลือชาวเชา ซึ่งไม่ใช่แค่พวกเราอย่างเดียว รวมถึงประชาชนชาวไทย ที่มีน้ำพระทัยที่มากมายเหลือเกิน ถ้าไม่มีพระองค์ท่านในวันนั้น ที่ส่งเสริมในเรื่องของกาแฟ ก็จะไม่มีแบรนด์กาแฟยี่ห้อ ME THAI COFFEE ในวันนี้
ก่อนหน้าที่จะมีกาแฟ ชาวพื้นถิ่นภาคเหนือจะมีการปลูกฝิ่นมาก่อน
ใช่ครับ พื้นที่ตรงนั้นเขาจะปลูกฝิ่นกัน ตามดอยต่างๆ ในภาคเหนือ แล้วอย่างกลุ่มชนเผ่าต่างๆ ก็จะมีเรื่องนี้เข้ามาเกี่ยว แต่ถ้าเรื่องกาแฟพันธุ์อาราบิก้าก็น่าจะเริ่มตั้งแต่ปี 2512 ก็จะเริ่มมีโครงการหาพืชทดแทนฝิ่น แล้วก็มีพืชพวก ท้อ บ๊วย กาแฟ แต่ถ้าพื้นที่ดอยช้างก็จะเป็นปี 2527 ซึ่งคืนนี้ก็นอกจากจะมีกาแฟแล้วก็มีพลับ เชอรี่ บ๊วย แต่ว่าระยะหลัง จะไม่ค่อยมีแล้ว แล้วก็กาแฟ
กาแฟดอยช้าง ก็สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลกด้วย ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น
ส่วนใหญ่ก็จะเป็นความมีเอกลักษณ์ของกาแฟในพื้นที่ ซึ่งในแต่ละพื้นที่นั้นมันก็มีคุณลักษณะเฉพาะตัวอยู่แล้ว แต่ของเราจะเป็นในเรื่องของการทำให้เมล็ดกาแฟมีความสะอาด แล้วเวลาที่ส่งออกไปต่างประเทศนั้น เราจะได้ในเรื่องของผลตอบรับที่ดี ซึ่งสกอร์ที่เขาวางไว้นั้นมันมาจากพวกรีวิว อีกทั้งมีการตรวจสอบ cupping และการให้คะแนนว่า จะได้เท่าไหร่ ซึ่งเขาก็ดูจากองค์ประกอบของกาแฟหมดเลย กาแฟบางชนิดก็จะมีลักษณะเฉพาะอย่างที่บอก มีรสต่างๆ จะมีความหลากหลายแล้วแต่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ปลูก ซึ่งลงรายละเอียดในเรื่องของดินและแร่ธาตุในดิน อีกทั้งยังผ่านในเรื่องของกระบวนการด้วย อย่างทางกาแฟดอยช้างก็จะส่ง cupping ไปต่างประเทศเลย แล้วทางต่างชาติให้การยอมรับในเรื่องกาแฟ
แต่กาแฟบ้านเรา ก็ไม่ได้ปลูกอยู่ที่เดียวเช่นกัน
อย่างทางภาคเหนือก็จะเป็นพันธุ์อาราบิก้า แต่อาจจะมีโรบัสต้ามาผสมบ้างในบางพื้นที่ ซึ่งเมืองไทยมี 2 สายพันธุ์หลักๆก็คือที่บอก แต่โรบัสต้าจะมีการปลูกกันในภาคใต้ แถวๆชุมพรและระนองก็จะมีพันธุ์นี้เยอะ ส่วนรสชาตินั้น อาราบิก้าจะมีความนุ่ม หอม เบา คาเฟอีนจะน้อยกว่า แต่โรบัสต้าจะมีค่าคาเฟอีนมากกว่าพันธุ์แรก 2 เท่า แต่จริงๆ แล้วกาแฟก็มีความเปรี้ยวนิดหน่อยเพราะมันเป็นพืชตระกูลเบอร์รี่ แต่การที่เปรี้ยวมากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายอย่าง ทำกระบวนการที่ทำ มันก็จะมีผลในรสชาติของมัน ระดับการคั่วกาแฟ ก็ส่งผลต่อตัวกาแฟเหมือนกัน หรือในเรื่องของกระบวนการขั้นตอน ทั้งในเรื่องการตากแห้งใช้แสงแดดโดยที่ไม่ต้องปลอกเปลือก เก็บมาทั้งผลแล้วก็ตากแดดเลย มันก็จะเกิดผลในตัวน้ำตาล คือในตัวกาแฟมันก็จะมีตัวเปิดกับเมล็ดข้างใน ซึ่งจะมีความหวานคอยอุ้มอยู่ ตรงนี้มันจะค่อยๆซึมไปสู่ตัวกาแฟ
ก่อนหน้านี้ ก็จะเป็นในแบบการทำแบบเดิมอย่าง
ใช่ครับ แต่เดิมจะเป็นพ่อค้าคนกลาง มารับซื้อและเขาก็กำหนดเรื่องราคา โดยอาจจะเป็นเรื่องความชื้นหรืออะไรก็แล้วแต่ และก็ไม่ได้ทำแบรนด์ของตัวเอง แต่ที่มาทำแบรนด์ตรงนี้ก็เพราะว่าอาจจะเป็นในเรื่องของการโดนกดราคาด้วย ซึ่งก็ต้องขอบคุณทางกาแฟดอยช้าง พี่เขาเป็นคนที่เริ่มในการสร้างแบรนด์ขึ้นมา ชาวบ้านก็เลยได้อานิสงส์จากตรงนี้ไปด้วย อีกทั้งปัจจุบันนี้ เรื่องสื่อสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น ทางชาวบ้านเองก็มีความรู้มากขึ้น เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น
ปัจจุบันเลยมีแบรนด์มากมาย แต่แหล่งผลิตอยู่ที่ดอยช้าง
ต้องบอกก่อนว่าดอยช้างเป็นแหล่งที่ผลิตกาแฟที่ใหญ่ เลยทำให้ได้ผลผลิตเป็นจำนวนมาก แต่ถามว่าถ้ามีหลากหลายแบรนด์ก็มีความแตกต่าง เพราะก็ต้องอยู่กับกระบวนการผลิตอยู่ดี ซึ่งก็ส่งผลต่อรสชาติในตัวกาแฟด้วย เป็นการผลิตจากชาวบ้านหรือเปล่า หรือในเรื่องขั้นตอนวิธีการทำ คั่วยังไงมันก็มีผลต่อการผลิต คือพื้นที่ดอยช้างได้รับในการเป็นสิ่งบ่งชี้ทางด้านภูมิศาสตร์ หรือ GI ทั้งของไทยและสหภาพยุโรปด้วย
แล้วแบรนด์นี้จะมาช่วยเพิ่มศักดิ์ศรีในแบรนด์ไทยยังไงคะ
ด้วยชื่อตัวแบรนด์ จะอยู่ที่ตัวกาแฟไทยเป็นหลัก คือเราให้ความสำคัญกับตัวกาแฟในพื้นที่เป็นหลัก ซึ่งกาแฟจากดอยช้างก็เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกอยู่แล้ว แต่มันก็มีอีกหลายพื้นที่ที่ปลูกกาแฟเหมือนกัน แล้วเขาไม่มีโอกาสที่เข้าถึงผู้บริโภค ทั้งในเรื่องปัจจัยหลายๆอย่าง ในเรื่องความรู้ เราก็ร่วมทำงานกับเขาจากประสบการณ์ในการทำกาแฟ 10 กว่าปี ไปร่วมทำกับทางเกษตรกรแล้วนำความรู้ที่เรามี ไปคุยกับเขาว่าเราอยากทำแบบนี้นะ เพื่อไปนำเสนอผู้บริโภคในเมือง ให้มีโอกาสได้ชิม
โดยที่เราก็บอกเขาเลยว่าตัวกาแฟนี้ มาจากไหน ใครเป็นคนทำ มีกระบวนการยังไง เราก็ทำการใส่ผลิตภัณฑ์ให้ หมายถึงว่าถ้าไปใน Shop เราเปิดหน้าร้านเพื่อมีโอกาสให้คนได้ชิม เราก็ให้ข้อมูลเลยว่ากาแฟตัวนี้ มาจากหมู่บ้านไหน ใครเป็นคนทำ แล้วรสชาติที่เราทำนั้นเป็นยังไง อย่างขนาด 200 กรัม เราขาย 280 บาท สามารถสั่งซื้อได้ที่แฟนเพจ Me Thai Coffee หรือ ทางไลน์ @methaicoffee
คือถ้าได้ดื่มกาแฟนี้แล้ว ก็เหมือนช่วยเกษตรกรไทยด้วย
เป็นการส่งเสริมครับ คือเราไม่ได้ซื้อกาแฟจากเกษตรกรเพื่อมาขายต่อนะ แต่เราซื้อมาเพื่อที่จะทำงานร่วมกับเขา มีการวางขายในร้านและชงให้ลูกค้าได้ดื่ม และช่วยโปรโมทให้เขาในเรื่องที่ว่าเมล็ดกาแฟลักษณะนี้ มาจากหมู่บ้านต่างๆ ที่เขาปลูกกาแฟอยู่แล้ว จากย่านตามดอยต่างๆ คือทางเกษตรกรมีความรู้ความสามารถกันอยู่แล้ว แต่เราจะถือว่าเป็นการทำงานร่วมกัน เพราะว่าเราเคยอยู่ในตลาดมาก่อน เราเห็นว่าตลาดกาแฟมันเป็นยังไงบ้าง เราก็ให้คำแนะนำว่าทำการทดลองเป็นกระบวนการอย่างนี้ดูไหม ประมาณนี้ครับ คือเป้าหมายก็อย่างที่บอกแหละครับว่าต้องการเพิ่มศักยภาพและศักดิ์ศรีของกาแฟไทยให้มากขึ้นกว่าเดิม คือจริงๆก็มีหลายๆเจ้าที่จะช่วยตรงนี้อยู่แล้วเพียงแต่ว่าเราก็เป็นฟันเฟืองหนึ่งในการขับเคลื่อนตรงนี้มากกว่า
คุณทำอะไรเกี่ยวกับกาแฟมาก่อน
เราเริ่มตั้งแต่ปลูกกาแฟ เก็บเมล็ดกาแฟ ทั้งขายแล้วก็ชงด้วย แต่ถามว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านกาแฟไหม เรียกว่าเป็นผู้มีความรู้ในระดับหนึ่งดีกว่า ที่สามารถทำงานร่วมกับชาวบ้านได้ คือก่อนหน้านี้เราเคยทำงานบริษัทกาแฟมาก่อน แต่จะเป็นในเชิงลักษณะช่วยเปิดสอนร้านกาแฟ หรือชงกาแฟ คือทำอย่างที่บอกมาตั้งแต่ 10 กว่าปีแล้วครับ
ทราบมาว่า Me Thai Coffee ก็ไปอยู่ในโครงการ “พอแล้วดี” ด้วย
คือตอนที่จะเริ่มทำแบรนด์ใหม่ๆ มันเริ่มมาจากที่เราทราบจากรุ่นพี่คนหนึ่ง ซึ่งเขาเป็นครูฝึกสอนอยู่ในโครงการนี้พอดี แล้วเขาเห็นความตั้งใจของเรา เขาก็แนะนำเราว่าให้มาโครงการนี้ ที่ “ศิริกุล อภัยกุล” เขาเป็นผู้ริเริ่ม แล้วนำศาสตร์ของพระราชา ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ในตัวธุรกิจ คือคนทั่วไปอาจจะคิดว่าเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเรื่องของการเกษตรอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วมันสามารถปรับให้เข้ากับธุรกิจทุกอย่างได้ด้วย ก็เหมือนกับการแบ่งปันนะครับ
คือเราทำธุรกิจแต่ว่าก็คืนกำไรสู่สังคมด้วย ไม่ใช่เอาแต่กำไรอย่างเดียว คือตัวเทรนเนอร์เองก็เป็นระดับโลกเช่นกัน เข้ามาเป็นครูฝึกในโครงการ มาสอนในเรื่องต่างๆ คือคัดจาก 180 แบรนด์ ให้เหลือแค่ 18 แบรนด์ ในรอบสุดท้ายเพื่อที่จะมาทำในเรื่อง workshop ต่างๆ คือจากผู้ริเริ่มโครงการ ที่เขาบอกว่าเป็นธุรกิจที่คำนึงถึงสังคมส่วนหนึ่งด้วย แน่นอนว่าเกษตรกรทางกาแฟบ้านเราถือว่าเก่งนะ แต่ในเรื่องการชงเป็นเครื่องดื่ม ถ้าเป็นคนรุ่นใหม่ ก็จะมีการกลับไปพัฒนามากขึ้น เริ่มมีความรู้มากขึ้น ซึ่งบนดอยก็มีร้านกาแฟมากขึ้น
แสดงว่าเมล็ดกาแฟจากพื้นที่ต่างๆ ก็มีความแตกต่างด้วย
จริงๆ มันเป็นเมล้ดกาแฟที่เรารวมจากที่ต่างๆ เหมือนกับที่เรามีโอกาสนำเสนอให้กับผู้บริโภค จากทั้งดอยล้าน ปางขอน มีโรบัสต้าด้วยจากเพชรบูรณ์ ส่วนความอร่อยนั้นมันแล้วแต่คนชอบว่าชอบแบบไหน แต่เราพยายามทำให้กาแฟมันสะอาด หมายถึงว่าไม่มีรสชาติแปลกปลอมเลย ซึ่งทางกาแฟมันจะฟ้องด้วยกลิ่นรสของมันเองเลยว่า ถ้ามันไม่สะอาดมันก็จะเกิดกลิ่นเหม็นหมัก ซึ่งถ้ากระบวนการทำมันไม่ดี ทุกอย่างก็จะดูดซึมเข้าไปในตัวมันเลย ต่อให้ผ่านวิธีการคั่วมันก็ไม่หายไป
อยากรบกวนช่วยยกตัวอย่างเมล็ดพันธุ์กาแฟของทาง “Me Thai Coffee”
ตัวอย่างหนึ่งของผลิตภัณฑ์เรา คือ ดอยล้านพีเบอร์รี่ เป็นลักษณะเมล็ดโทรน คล้ายกับกระเทียมโทน ซึ่งลักษณะเมล็ดกาแฟมีอยู่ 2 ซีก ในลูกกาแฟมีไข่อยู่ 2 ใบ แต่ถ้าอีกไข่มันฝ่อ อันนี้ก็โตมาเป็นเมล็ด ตัวนี้ก็จะออกมาเป็นกลมๆ เลย มันโตมาเป็นเมล็ดผลเลย ส่วนการทำกาแฟของเรานั้น ก็ใช้สัดส่วน 1 ต่อ 15 คือกาแฟ 1 ส่วน น้ำ 15 ส่วน ตัวพีเบอร์รี่ ด้วยความเป็นผลไม้อย่างหนึ่ง มันจะได้ในเรื่องรายละเอียดของกาแฟมากกว่า ส่วนเรื่องรสชาติก็จะได้ในเรื่องของความหวานที่มากกว่า เพราะในตัวกาแฟมีน้ำตาลอยู่แล้ว ซึ่งถ้าเราชงเสร็จเรียบร้อย ถ้าเราทิ้งไว้ ความหวานของกาแฟก็ชัดขึ้น
แล้วในการดื่มกาแฟนั้นมันจะช่วยอะไรได้บ้าง
การทานกาแฟ มันจะสามารถอยู่ได้ 2 ชั่วโมง คือถ้าเป็นกาแฟดำก็ไม่มีอะไร แต่ถ้ามีการผสม ก็จะดึงไปใช้ทันที ซึ่งถ้าเราท่านกาแฟในปริมาณที่พอดี และอยู่ในกระบวนการที่สะอาด มันก็จะพอดี หรือถ้าคนเป็นไมเกรน ถ้าทานเป็นกาแฟดำ อาการก็จะดีขึ้น ถ้าเราทานกาแฟ สิ่งแรกที่ทำคือดมก่อน หลังจากนั้นคือดื่ม สิ่งแรกที่ได้คือรสสัมผัสว่ากาแฟชนิดที่เราทานนั้นเป็นยังไง แล้วเวลาที่เราดื่มเข้าไปมันก็จะมีกลิ่นอบอวลในปากเรา จนสุดท้ายมาอยุ่ที่สิ่งที่ค้างหลังจากที่เราดื่มเข้าไปในการดื่มรสต่างๆ ทำให้ดื่มง่ายกว่าเดิม
แสดงว่าคุณก็ต้องทานกาแฟพอสมควรเหมือนกัน
อย่างเวลาที่เราทำให้ลูกค้า เราก็จะชิมมัน อย่างกาแฟที่เราเปิดถุงครั้งแรก กับการเกิดครั้งต่อไป มันก็ต่างกัน มันก็ส่งผลต่อกาแฟเช่นเดียวกัน เพราะว่ามันโดนออกซิเจน รสชาติอาจจะเปลี่ยนไป ถามว่ามีแบบสำเร็จรูปมั้ย ก็มีนะครับ แต่ถ้าคอกาแฟจริงๆ มันจะได้ในเรื่องของอารมณ์ในการทานกาแฟสดมากกว่า เพราะถ้าอย่างที่บอก มันจะเปลี่ยนแปลงอย่างที่บอก
อยากให้คุณช่วยพูดถึงโครงการที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมอบให้ชาวเขาในเรื่องกาแฟ
ต้องขอบคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 นะครับ ที่พระองค์ท่านทรงหาพืชทดแทนฝิ่น และพืชต่าง ที่ช่วยเหลือชาวเชา ซึ่งไม่ใช่แค่พวกเราอย่างเดียว รวมถึงประชาชนชาวไทย ที่มีน้ำพระทัยที่มากมายเหลือเกิน ถ้าไม่มีพระองค์ท่านในวันนั้น ที่ส่งเสริมในเรื่องของกาแฟ ก็จะไม่มีแบรนด์กาแฟยี่ห้อ ME THAI COFFEE ในวันนี้
