"พิชาย" ชี้เวที "อยู่เย็นเป็นสุข - อยู่ไม่เป็น" ไม่ใช่ขั้วขัดแย้ง ปรารถนาดีต่อชาติทั้งคู่ เพียงแต่มองกลไกต่างกัน เชื่อคุยกันได้เพื่อแสวงหาจุดร่วม แต่ปัญหาอยู่ที่ Deep State พวกอยู่เบื้องหลังการเมือง ที่จะไม่ยอมเสียผลประโยชน์
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อาจารย์ประจำหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "อยู่ไม่เป็น vs อยู่เย็นเป็นสุข"
จากกรณีเวที "อยู่ เย็น เป็นสุข" โดยมี ดร.สุวินัย ภรณวลัย และ นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อยู่เบื้องหลัง จัดเสวนาขึ้นพร้อมกับอีกเวที "อยู่ไม่เป็น" ของอนาคตใหม่ จนถูกมองว่าเป็นขั้วขัดแย้งกัน
โดย ดร.พิชาย กล่าวว่า ทั้งสองกลุ่มนี้มีความปรารถนาดีต่อสังคมไทยเหมือนกัน แต่มองกลไกต่างกันออกไป อยู่ เย็น เป็นสุข ตั้งสถาบันทิศทางไทย เพื่อเป็นเครื่องมือกลไกสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ส่วน อ.ปิยบุตร และนายธนาธร ใช้พรรคการเมืองเพื่อหวังสร้างการเปลี่ยนแปลง
สถาบันทิศทางไทยมีการวิเคราะห์ทั้งสังคมไทยและโลก มองว่าในยุคปัจจุบันสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้คือ Deep State หมายความว่าการดำเนินกิจการของรัฐซ้อนกันอยู่ 2 ชั้น ชั้นแรกคือสิ่งที่เห็น ๆ กันอยู่ สิ่งที่ปรากฎออกมาอย่างเป็นทางกร ส่วนรัฐลึกคือกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจทางการเมือง เช่น ทหาร นายทุนใหญ่ เครือข่ายนักการเมือง ฯลฯ โดยสถาบันทิศทางไทย จะเข้าไปมีส่วนในรัฐลึก ด้วยทางใดทางหนึ่ง
แล้วยังวิเคราะห์ถึงปมปัญหา อย่างเช่น ประชากรผู้สูงอายุมากขึ้น โลกร้อน การครอบงำของตะวันตก สิ่งที่สำนักนี้สรุปมาจะเห็นได้ว่าไม่มีอะไรแตกต่างจากที่รับรู้กันอยู่ พื้น ๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษที่ต้องไปโต้แย้งกับใคร
ดร.พิชาย กล่าวอีกว่า ทั้งทิศทางไทยเองกับอนาคตใหม่ต่างก็มีจุดร่วม แล้ว ดร.สุวินัย ก็บอกเอง ท่านไม่ใช่อนุรักษ์นิยมคลั่งชาติและเสรีนิยมสุดขั้ว ตนคิดว่า 2 กลุ่มนี้ไม่ได้เป็น 2 ขั้วขัดแย้ง แต่เสริมกันได้
ลองมาคุยกัน วิเคราะห์ปัญหาให้ใกล้เคียงกัน ยอมรับไหมว่าความเหลื่อมล้ำเป็นปัญหาหลัก ทรัพยากรต่าง ๆ ควรจัดสรรอย่างเป็นธรรม สังคมควรอยู่กันอย่างสมานฉันท์สามัคคี ลองคุยกันแล้วหาจุดร่วมร่วมกัน ความปรารถนาทั้งสองฝ่ายใกล้เคียงกัน แต่วิธีการอาจแตกต่างกันบ้าง อนาคตใหม่มุ่งที่การแก้กฎหมาย ใช้พรรคการเมืองพุ่งเป้าขจัดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ซึ่งมันก็จะนำไปสู่ความอยู่เย็นเป็นสุขได้ตามที่ทิศทางไทยต้องการ
แต่ปัญหาอยู่ที่การเข้าไปจัดการปัญหาต่างหาก ว่าจังหวะก้าวควรเป็นอย่างไร ค่อยเป็นค่อยไปหรือหักดิบ ต้องมาคุยกัน 2 กลุ่มนี้คุยกันได้ แต่พวก Deep State ไม่รู้ อย่างนายทุนถือที่ดินจำนวนมาก จะยอมให้ปฏิรูปที่ดินไหม หรือกำลังกำลังผูกขาดเสวยสุข แก้กฎหมายจะยอมหรือ