xs
xsm
sm
md
lg

ทูลกระหม่อมฯ ทรงปรุง “เมี่ยงกลีบบัว” งาน WTM2019 ที่ลอนดอน แนะ 5 ข้อ พัฒนาท่องเที่ยวไทยให้ยั่งยืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



MGR Online - ทูลกระหม่อมฯ สัมภาษณ์สื่อไทยในงาน WTM 2019 ณ กรุงลอนดอน แนะ 5 ประเด็นสำคัญการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน กระตุ้นปลุกจิตสำนึกคนลดใช้ถุงพลาสติก-พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง แนะนำแหล่งท่องเที่ยวอุบลราชธานี-อุดรธานี-พัทลุง ทรงสาธิตวิธีพับกลีบดอกบัวและปรุงเมี่ยงกลีบบัวประทานแก่ผู้ร่วมงาน

วานนี้ (4 พ.ย.) ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเข้าร่วมงาน World Travel Market (WTM) 2019 ครั้งที่ 39 นิทรรศการการท่องเที่ยวใหญ่อันดับสองของโลก ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2562 เพื่อเยี่ยมชมคูหาประเทศไทย และประทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ในโอกาสนี้ ทูลกระหม่อมฯ ยังทรงสาธิตการพับกลีบดอกบัว และทรงปรุงเมี่ยงกลีบบัว ประทานแก่ผู้มาร่วมงานด้วย โดยรายละเอียดของการสัมภาษณ์มีดังนี้


กระแสการลดใช้ถุงพลาสติก วัสดุสิ้นเปลืองที่ทำจากพลาสติก กำลังเป็นเรื่องที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ ทูลกระหม่อมทรงมีคำแนะนำเพิ่มเติมอย่างไรบ้างเกี่ยวกับการปรับพฤติกรรม ปรับ Lifestyle ของประชาชน รวมถึงภาคการท่องเที่ยวของไทยให้สอดคล้องกับกระแสดังกล่าว

ทูลกระหม่อมฯ : ณ ตอนนี้ความจริงในประเทศไทยก็มีความตื่นตัวที่จะลดการใช้พลาสติก โดยเฉพาะพลาสติกประเภท Single use หรือใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งไปเลย เช่น หลอดพลาสติก ถุงพลาสติก โดยเฉพาะถุงก๊อบแก๊บนี่ร้ายที่สุด นอกจากนั้น ผลิตภัณฑ์พลาสติกต่างๆ ที่ใช้แล้ว แล้วทิ้งเลยก็เป็นสิ่งที่ควรจะลด เพราะทั้งโลกทั่วโลกเขาลดใช้กันแล้ว ในประเทศไทยก็มีการตื่นตัวมาก เท่าที่เห็นก็คือ เวลาเราไปกินกาแฟเขาก็จะให้ลดราคากับคนที่นำกระบอกหรือถ้วยส่วนตัวไปใช้ เหล่านี้ทางหนึ่งก็เป็นการรณรงค์อย่างหนึ่งให้คนมีจิตสำนึกว่า การใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวนั้นเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม ทั้งยังเป็นการสิ้นเปลือง อีกทางหนึ่งก็จูงใจด้วยการทำให้คนสามารถกินกาแฟได้ในราคาถูกลง

ส่วนในซูเปอร์มาร์เกต ตอนนี้ก็มีการรณรงค์และเริ่มทำกันแล้วให้คนใช้ถุงผ้า จริงๆ ถุงผ้าเราก็ดำเนินการก่อนแล้ว ปีก่อนก็มีการแจกถุงผ้า ให้คนนำถุงผ้าไปใช้เวลาไปซื้ออาหาร หรือซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เกตเพื่อที่จะได้ไม่ต้องใช้ถุงพลาสติก แต่ในเชิงทางการ พวกร้านสะดวกซื้อเช่น เซเว่นฯ ภายในปี 2563 เขาก็จะเลิกแจกถุงพลาสติก เพราะว่าถุงก๊อปแก๊ปก็จะเห็นได้ว่าอันตรายส่งผลต่อเรื่องอื่นๆ อย่างเช่นน้ำท่วม ซึ่งอันตรายมาก เรื่องเหล่านี้ก็พูดกันได้ยาวว่าทำไมถุงและเหล่าขยะถึงไปอุดท่ออุดรู ก็พูดกันมานานแล้วว่า กทม.ก็ต้องไปขุดลอกท่อ มิฉะนั้นน้ำก็จะท่วมทุกปี ฝนตกมาน้ำก็ท่วม เพราะมีถุงก๊อปแก๊ป มีขยะอยู่ในท่อระบายน้ำ

อย่างหลอดพลาสติกก็มีการรณรงค์จะเห็นว่ามีภาพยนตร์มีสารคดีออกมาบอกว่าแม้แต่เต่าทะเลก็มีหลอดติดอยู่ที่จมูก ปลาต่างๆ ที่เรากินตอนนี้ก็อาจจะมีพลาสติกอยู่ในตัว เพราะฉะนั้น เราจับปลามา ปลาต่างๆ ก็จะตายเพราะพลาสติกเข้าไป อย่างลูกพะยูน มาเรียมก็ตายเพราะกินพลาสติก เพราะฉะนั้นเราจะต้องลดการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียว เพราะในโลกทุกๆ ปี ผลิตพลาสติกจำนวนมากกว่า 300 ล้านตัน แต่ไม่สามารถย่อยสลายได้ มีที่สามารถย่อยสลายได้แค่ร้อยละ 10 เท่านั้น พลาสติกจึงเป็นสิ่งที่ย่อยสลายได้ยาก ส่วนการรีไซเคิลก็สามารถทำได้เหมือนกัน แต่ตอนนี้มีการนำพลาสติกมาทำเป็นถนน ทำจีวร ทำเป็นผ้า ทำเป็นปลอกหมอน สิ่งเหล่านี้ก็มีการเริ่มทำแล้ว เมื่อก่อนก็เห็นว่ามีการนำพลาสติกมาทำเป็นเสื้อราตรี สิ่งเหล่านี้ก็เป็นการรีไซเคิลพลาสติกอย่างหนึ่ง ทั้งนี้ทั้งนี้ ในการจะลดอันตรายจากพลาสติก อันที่จริงเราก็ต้องคิดถึงการปลุกจิตสำนึกของคน รณรงค์ไม่ให้ไปทิ้งขยะเรี่ยราวตามที่ต่างๆ ถุงพลาสติกถุงก๊อปแก๊ปมันเดินลงไปในท่อ ไปอุดท่อให้เราเกิดน้ำท่วมไม่ได้ มันเดินลงไปในทะเลแล้วปลาไปกินก็ไม่ได้ ก็เกิดจากการที่คนเราเองทิ้งขยะอย่างไม่มีจิตสำนึก ทุกคนต้องช่วยกันปลุกจิตสำนึกไม่ให้มีการทิ้งขยะเรี่ยราด กระนั้นแม้ว่าเราจะลดการใช้พลาสติกลงแล้ว แต่การจะลดทั้งหมด หรือไม่ใช้เลยก็คงไม่ได้ เพราะพลาสติกหรือโฟมก็ยังมีประโยชน์อยู่

ในฐานะที่ทรงงานอย่างหนัก และเสด็จมาแล้วทุกจังหวัดในประเทศไทย เมื่อต้นปีในงาน ITB ที่เยอรมนีทูลกระหม่อมทรงแนะนำเมืองรอง 3 จังหวัด อย่างนครพนม มุกดาหาร มหาสารคามไปแล้ว ในปีนี้อยากให้ทรงพูดถึงเมืองรองที่เป็นเมืองเล็กๆ ของไทย ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อย่างเช่น อุดรธานี อุบลราชธานี และพัทลุง

ทูลกระหม่อมฯ : อันที่จริงไปมาแล้วทุกจังหวัดในประเทศไทย จังหวัดละหลายๆ ครั้ง แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เที่ยวนัก เพราะต้องไปทำงาน พอไปทำงานก็ไม่ได้มีเวลาจะไปท่องเที่ยว ตอนนี้เมื่อมีเวลาไปต่างจังหวัดก็จะพยายามไปล่วงหน้าหนึ่งวัน หรือไปหลาย ๆ จังหวัดรวมกัน เช่น ไปมุกดาหารก็ไปอำนาจเจริญใกล้ๆ กันด้วย เวลามีคอนเสิร์ตก็มีเวลาพักหนึ่งวัน เพราะต้องขนย้ายข้าวของอุปกรณ์ ถ้ามีเวลาหนึ่งวันก็จะใช้เวลานั้นเดินทางท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ แล้วก็นำมาเขียนประชาสัมพันธ์ลงในสื่อออนไลน์ อัพลงในอินสตาแกรม ซึ่งทุกคนก็สามารถทำได้ ตอนนี้ก็พยายามพูดถึงให้ยาวขึ้น อธิบายว่าตรงนั้นตรงนี้มีอะไรให้น่าสนใจ แต่ก็ไม่อยากให้ยาวมาก จะได้ไม่เบื่อ

บางจังหวัดอย่างที่เราแนะนำคราวก่อน เราก็ได้ไป ก็จะได้ฟีลลิ่ง เกิดความประทับใจ รู้ว่าจะเล่าเรื่องอะไร ก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับวัดบ้าง เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีโอกาสได้ไปเห็น ยกตัวอย่าง อย่างเช่นไปโคราชก็ได้ไปดูพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ พิพิธภัณฑ์ไม้ซึ่งกลายเป็นหิน ก็รู้สึกประทับใจ ถ่ายรูปนำมาเล่าในอินสตาแกรม ส่วนจังหวัดอุบลราชธานีก็มีโอกาสได้ไปมาเป็นร้อยหนแล้ว อย่างไปทำงานทูบีนัมเบอร์วันก็ไปมา 4-5 หนแล้ว ก็มีสถานที่น่าสนใจ อย่างเช่น แก่งหินสามพันโบก ซึ่งเป็นแก่งหินที่เกิดจากน้ำเซาะก็เป็นที่ๆ น่าสนใจ แล้วก็มีวัดเรืองแสง (วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร) สองแห่งนี้เราไม่เคยไป ที่เคยไปคืองานแห่เทียนพรรษา เคยไปหนนึงแต่ยังไม่ทันได้ดูเลยฝนมันตกมาห่าใหญ่ ตกแรงมากจนน้ำท่วมหนัก ก็เลยอดดู แต่เท่าที่เห็นตามโทรทัศน์ก็สวยงามมาก เป็นของขึ้นชื่อของอุบลฯ แล้วอุบลฯ ก็มีอาหารอร่อยเยอะแยะ มีหมูยอ แหนมต่างๆ

สามพันโบก แก่งหิน ณ บ้านโป่งเป้า ต.เหล่างาม อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี

วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือ วัดเรืองแสง อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี
ส่วนจังหวัดอุดรธานีก็ไปมาหลายหน แต่ไม่ได้ไปเที่ยวไหนมาก มีโอกาสไปที่ศาลเจ้า เพราะอุดรธานีมีชุมชนชาวจีนเยอะ ส่วนคำชะโนดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของอุดรธานีก็ยังไม่เคยไป ส่วนของกินที่ขึ้นชื่อของอุดรธานีก็อย่างเช่นแหนมเนือง สำหรับพัทลุง เพิ่งไปมาไม่นาน พัทลุงเป็นเมืองเล็กๆ ที่น่ารัก เป็นเมืองสงบ มีต้นไม้แยะ อากาศดีไม่มีมลพิษแล้วก็มีทะเลน้อยที่มีบัวแดงเช่นกัน เป็นทะเลสาบน้ำจืดมีธรรมชาติ มีสัตว์ มีนกน้ำ มีควายมาเล่นน้ำ เราก็อยากจะไป คราวก่อนไปกระบี่แต่ก็ต้องไปอยู่กระบี่ เพราะจังหวัดเล็กๆ เมืองรองเหล่านี้ เวลาโปรโมตให้นักท่องเที่ยวเราต้องทำให้แน่ใจว่ามีสาธารณูปโภค มีที่พัก มีการคมนาคมที่สะดวก อย่างตอนนั้นเราไปอยู่ที่กระบี่เพราะกระบี่ไปง่ายกว่า มีเที่ยวบิน เลยยังไม่มีโอกาสได้ไปดูทะเลน้อย ไปดูบัวแดง แต่ดูในรูปก็สวยงามมาก เมืองไทยมีที่เที่ยวเยอะแยะ มีสิ่งที่น่าสนใจ มีวัดวา มีธรรมชาติที่สวยงาม

ควายน้ำแห่งทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
ท่านทรงมองว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเมืองไทยในปัจจุบันมีศักยภาพในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมากน้อยแค่ไหน และท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงของทุกประเทศทั่วโลกนี้การท่องเที่ยวของไทยสามารถแข่งขันในระดับโลกได้แค่ไหน และยังมีจุดอ่อนด้านไหนบ้างที่ต้องเร่งดำเนินการ

ทูลกระหม่อมฯ : การท่องเที่ยวนี่เป็นถือเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้ให้กับประเทศไทยแทบจะเยอะที่สุดเลย เมื่อเศรษฐกิจไม่ค่อยดีเราก็ได้อาศัยรายได้จากการท่องเที่ยว แต่ตอนนี้การท่องเที่ยวก็ยากเหมือนกันเพราะเกิดปัญหาสงครามการค้า ทางจีนซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของไทย ตอนนี้จีนเศรษฐกิจก็แย่ลงเพราะมีสงครามการค้า แม้ตอนนี้จะสงบศึกได้พักหนึ่ง แต่ก็ไม่มีความแน่นอน อย่างไรก็ตามในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเราก็ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ การท่องเที่ยวไทยถือว่าใหญ่มาก ทำรายได้มากเป็นอันดับ 4 ของโลก (รองจากสหรัฐอเมริกา สเปน ฝรั่งเศส) พอทั้งโลกเศรษฐกิจประสบปัญหา คนก็อาจจะมาน้อยลง ทำให้เราต้องเพิ่มเรื่องความคิดสร้างสรรค์

จริงๆ ขอฝากไว้ตรงนี้เลยว่าว่ามีสองอย่างที่ควรจะได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้นคือเรื่อง การท่องเที่ยว และการป้องกันปราบปรามยาเสพติด ปัจจุบันการท่องเที่ยวในเมืองหลักๆ จังหวัดต่างๆ ก็ดีอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เรากำลังพยายามประชาสัมพันธ์เมืองรอง เพราะเรามีของดีอีกมากมาย ต้องสร้างกิมมิคต่างๆ เช่น การท่องเที่ยวชุมชน ฝรั่งที่เขาชอบเที่ยวแบบลำบากหน่อย เข้าถึงชาวบ้าน เขาก็อาจจะอยากลองทำกับข้าว ดังนั้นแต่ละจังหวัด แต่ละชุมชนก็ควรคิดเรื่องจุดเด่น มีอะไรดี มีอัตลักษณ์ของตัวเอง ต้องมีความหลากหลาย และมีความแปลกใหม่ เช่น ไปเรียนทำกับข้าว ไปเรียนเย็บผ้า ไปออกกำลัง-ปั่นจักรยาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราต้องช่วยกันคิด นอกจากนั้นปัญหาต่างๆ ก็เป็นปัญหาเดิมๆ อย่างเช่น เรื่องความสะอาด ต้องทำให้บ้านเมืองของเราดูสะอาดเรียบร้อย แล้วเรื่องที่สำคัญเบอร์หนึ่งคือเรื่องความปลอดภัย เราไม่ควรไปฆ่า ทำร้าย ข่มขืน หรือคดโกงนักท่องเที่ยว

เป็นที่รับทราบกันว่าประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่ครองอันดับ 1 ในฐานะเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลก ประเด็นนี้ท่านทรงมองอย่างไรที่ไทยติดอันดับ และมีแนวทางเสนอแนะอย่างไรบ้างเพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็นเมืองยอดนิยมและน่าอยู่ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ทูลกระหม่อมฯ : อย่างที่ว่าคือเราต้องเป็นเจ้าของบ้านที่ดี ทำบ้านเมืองให้สะอาด ไม่โกงเขา ทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัย กรุงเทพฯ ก็เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของโลกมาตั้งหลายปีแล้ว ก็มีความหลากหลาย มีแทบทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการมาพักผ่อน มาเที่ยว มาชอปปิ้ง แต่ตอนนี้อากาศในกรุงเทพฯ ไม่ค่อยดี มีมลพิษ ปัญหาเรื่อง PM2.5 สิ่งเหล่านี้อันตรายต่อสุขภาพ เราก็ต้องดูแลเรื่องให้ดี มีกฎมีเกณฑ์ เพราะอากาศตอนนี้เราแย่มาก เนื่องมาจากการที่เรามีรถเยอะเกินไป รัฐบาลก็ต้องช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้

ขอให้ท่านเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวชุมชนต่างๆ ทุกภูมิภาคของประเทศไทย ที่มีความเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละชุมชน มีความหลากหลาย มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยว


ทูลกระหม่อมฯ : ดังที่พูดไปว่า การท่องเที่ยวตอนนี้ต้องการความหลากหลาย นอกจากการดึงเขาไปเที่ยวทะเลแล้ว ก็ต้องพัฒนาการท่องเที่ยวระดับชุมชน แต่ละชุมชนก็มีอัตลักษณ์ของชุมชน ในการขับเคลื่อนประเทศของเราไปข้างหน้าเราก็ต้องเดินไปข้างหน้าด้วยกัน ต้องมีบรรยากาศที่ทำให้เกิดความร่วมมือของคนทั้งประเทศ มีคนที่จะนำให้เกิดความร่วมมือของคนทั่วประเทศ การจะทำบ้านเราให้ดีขึ้นเราทำคนเดียวไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ในการคิดถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน ทุกชุมชนมีอัตลักษณ์ แต่ละชุมชนก็ต้องช่วยกันคิดว่าเรามีสิ่งดีๆ สิ่งไหนบ้างที่จะช่วยเชิดหน้าชูตา และจะเป็นที่น่าสนใจของแขก ของคนต่างชาติที่มาเที่ยว เพราะทุกคนต่างสนใจที่จะเรียนรู้ อยากทำความรู้จักกับเรา ในสิ่งที่เขาไม่มี แต่ละชุมชน อบต. อบจ. ทางจังหวัดก็ต้องพัฒนาสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา ทางการก็จะช่วยได้ เราต้องพัฒนา OTOP ขึ้นมาแต่เป็น OTOP ในการท่องเที่ยว














อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ไม่หวั่นบาทแข็ง “ชาวอังกฤษ” ยังนิยมเที่ยวไทย คาดปีนี้แตะ 9.5 แสนคน โต 1.6% ททท.ลุยโปรโมตงาน WTM 2019 ดันเมืองรอง-เน้นท่องเที่ยวรักษ์สิ่งแวดล้อม (4 พ.ย. 2562)