เอสเค เอ็นจิเนียริ่งฯ หุ้นส่วนโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนเซเปียนฯ เตรียมมอบเงิน 10 ล้านดอลลาร์ ช่วยเหลือรัฐบาลลาวช่วยฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยเขื่อนแตก พร้อมตรวจสอบข้อผิดพลาด หลังรัฐมนตรีพลังงานลาวออกมาระบุเขื่อนพัง เพราะการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน
สำนักข่าวยอนฮัป ของเกาหลีใต้ รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา นายเช แทยอน ประธานกลุ่มบริษัท เอสเค บริษัทแม่ของ เอสเค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรักชั่น หุ้นส่วนในโครงการเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อย ได้เข้าพบเอกอัครราชทูตลาว ประจำกรุงโซล เกาหลีใต้ เพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์เขื่อนแตก ในแขวงอัตตะปือ สปป.ลาว พร้อมเสนอความช่วยเหลือเป็นเงิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 330 ล้านบาท แก่รัฐบาลลาว
เงินจำนวนดังกล่าว ซึ่งจะดำเนินการมอบในภายหลัง จะใช้ในการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่สภาพเดิมโดยเร็ว และการช่วยเหลือประชาชนที่ถูกอพยพออกจากพื้นที่ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ความเคลื่อนไหวของกลุ่มเอสเค ดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจาก นายคำมะนี อินทิลาด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ สปป.ลาว กล่าวระหว่างการแถลงเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ว่า การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน เป็นสาเหตุของเขื่อนแตกในครั้งนี้ ขณะที่ เอสเค เอ็นจิเนียริ่ง ระบุว่า บริษัทกำลังพยายามตรวจสอบว่ามีข้อผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นบ้าง
ทั้งนี้ เอสเค เอ็นจิเนียริ่งฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปยังพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว 18 คน และเตรียมส่งไปเพิ่มอีก 30 คน ในวันจันทร์นี้ เพื่อทำงานบรรเทาทุกข์ร่วมกับพนักบริษัทอีก 120 คน ที่ประจำอยู่ไซต์ก่อสร้างอยู่แล้ว
ขณะที่ทางการเกาหลีใต้จะส่งแพทย์ 15 คน พร้อมเจ้าหน้าที่สนับสนุนอีก 5 คน เข้าไปยังพื้นที่ประสบภัยในวันอาทิตย์นี้ พร้อมกับมอบความช่วยเหลือฉุกเฉินเป็นเงิน 500,000 ดอลลาร์ และสิ่งของบรรเทาทุกข์มูลค่า 500,000 ดอลลาร์ ที่จะถูกส่งมาโดยเครื่องบินของกองทัพเกาหลีใต้
สำหรับ โครงการสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อย มีบริษัทจากเกาหลีใต้ร่วมทุน 2 บริษัท ได้แก่ SK Engineering & Construction Company Limited ถือหุ้นสัดส่วน 26% และ Korea Western Power Company Limited ถือหุ้นสัดส่วน 25% ส่วนที่เหลือเป็นบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH จากประเทศไทย ถือหุ้นในสัดส่วน 25% และรัฐบาล สปป.ลาว ถือหุ้นสัดส่วน 24%