สื่อลาวห่วง บัญชีรับบริจาคเงินช่วยผู้ประสบภัยเขื่อนแตก ขอทราบตัวเลขแต่ละบัญชีได้เท่าไหร่แล้ว แนะให้มีบัญชีเดียวรวบรวมเงินทั้งหมด พร้อมเปิดเผยตัวเลขต่อสาธารณชน ให้มีคณะกรรมการตรวจสอบการเบิกจ่ายซื้อสิ่งของบรรเทาทุกข์ ทั้งหมดถึงมือผู้ประสบภัยจริงหรือไม่ โดยให้มีหลักฐานการใช้จ่ายเป็นลายลักษณ์อักษร
วันนี้(27 ก.ค.) เว็บไซต์ข่าวภาษาลาว “เล่าสู่กันฟัง” ได้นำเสนอบทความเกี่ยวกับการรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเขื่อนย่อยแตกในโครงการเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อย เป็นเหตุให้น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่เมืองสนามชัย แขวงอัตตะปือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ได้เห็นน้ำใจคนลาวและเพื่อนร่วมโลกที่อยู่ต่างประเทศ รวมใจกันเป็นหนึ่งเดียวจัดกิจกรรมรับบริจาคทั้งสิ่งของและเงินทองส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นจำนวนและมูลค่ามหาศาล
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า รัฐบาลลาวได้แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจรับผิดชอบแก้ไขวิกฤตการณ์อุบัติภัยครั้งนี้แล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้เป็นห่วงเป็นใยการบริหารจัดการเรื่องการเงินและสิ่งของบริจาคอยู่ไม่น้อย
เบื้องต้นจึงควรจะแจ้งรายรับที่เป็นจำนวนเงินทั้งหมดให้สังคมได้รับรู้ว่าแต่ละภาคส่วนที่เปิดรับบริจาคนั้นได้เงินบริจาคแล้วเท่าไร แยกเป็นแต่ละบัญชีเท่าไร ซึ่งควรจะให้ธนาคารเป็นผู้เปิดเผย
“เล่าสู่กันฟัง” ระบุว่า มีบัญชีที่เปิดรับบริจาคดังนี้
ธนาคารการค้า เลขที่บัญชี 080110000058308001 (ไม่ระบุชื่อบัญชี)
ธนาคารพัฒนาลาว เลขที่บัญชี 0301800100000004 (ไม่ระบุชื่อบัญชี)
ธนาคารการค้า (สำหรับเงินดอลลาร์) เลขที่บัญชี 080110100021371001 (ไม่ระบุชื่อบัญชี)
นอกจากนี้ ยังมีเงินที่ระดมได้จาก BCEL One Heart (ธนาคารการค้าแถลงข่าวการมอบแล้ว 2 พันล้านกีบ) เป็นเงินบริจาคของประชาชน ธนาคารการค้าเป็นเพียงผู้เก็บรวบรวม
เงินบริจาคผ่านเครือข่ายโทรคมนาคมแต่ละเครือข่าย ซึ่งยังมีคำถามว่าได้เท่าไหร่ และเงินจากภาคส่วนอื่นๆ
ทั้งหมดนี้ ควรจะให้มีบัญชีกลางที่เปิดขึ้นเพื่อภารกิจนี้โดยเฉพาะ แล้วนำเงินทั้งหมดมารวมไว้ในบัญชีเดียว เพื่อไม่ให้เงินกระจัดกระจายและอาจหลงลืม
ส่วนเรื่องขั้นตอนการใช้เงิน ถ้าเป็นการเบิกจ่ายเพื่อซื้อสิ่งของหรืออาหารเพื่อบรรเทาทุกข์ ก็ต้องมีคณะกรรมการตรวจสอบและมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน เบิกแล้วต้องติดตามตรวจสอบว่าเงินถูกนำไปใช้จริงหรือไม่ และสิ่งของบรรเทาทุกข์ได้ไปถึงมือผู้ประสบภัยทั้งหมดหรือไม่ และควรจะแจ้งต่อสาธารณชนผู้เป็นเจ้าของเงินให้รับรู้ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้มีเสียงบ่นว่าจากผู้ประสบภัย
หากจะมีการมอบเงินหรือสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยภายหลังจากการแก้ไขสถานการณ์ไปแล้ว ควรจะมีการลงทะเบียนให้ชัดเจน เพื่อรับประกันให้ผู้ประสบภัยทั้งหมดได้รับผลประโยชน์เท่าเทียมกัน และได้รับการช่วยเหลืออย่างสมเหตุสมผล
อย่างไรก็ตาม “เล่าสู่กันฟัง” ทิ้งท้ายว่า เราเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการเฉพาะกิจจะสามารถบริหารจัดการกับเงินและสิ่งของบริจาคด้วยคุณภาพและมีความโปร่งใสตรวจสอบได้