แฉบริษัท “สร้างเขื่อนลาว” แจ้งเตือนไม่กี่ชั่วโมงก่อนปล่อยมวลน้ำถล่ม ยังขาดอาหาร-เสื้อผ้า-ยารักษาโรค

วิทยุ RFA ภาษาลาวรายงาน จนท.เผยทางเขื่อนผลิตไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อย บอกแค่ปล่อยน้ำบ่าย 3 แต่ไม่ถึง 5 โมงเย็นน้ำท่วมสูง ประชาชนอพยพไม่ทัน เผยยังมีบางส่วนติดอยู่บนหลังคา เสาไฟฟ้า ผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายไม่แน่ชัด ผู้ประสบภัยต้องการน้ำดื่ม อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรคด่วน

วันนี้ (25 ก.ค.) วิทยุเอเชียเสรี (Radio Free Asia) ภาคภาษาลาว รายงานว่า จากกรณีที่เขื่อนผลิตไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อย ได้แจ้งเตือนไปยังแขวงจำปาสัก และ แขวงอัตตะปือ ให้โยกย้ายประชาชนที่อยู่ใกล้เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ว่า สันเขื่อนอ่างเก็บน้ำแตกและยุบลง ทำให้เขื่อนจำเป็นต้องปล่อยน้ำออกจากเขื่อนในเวลา 15.00 น.

เจ้าหน้าที่แก้ไขสภาวะฉุกเฉินน้ำท่วมแขวงอัตตะปือ กล่าวว่า ตามเหตุการณ์ได้รับแจ้งว่าเป็นการปล่อยน้ำ แต่เมื่อสังเกตพบว่าเกินขอบเขต แจ้งเวลา 15.00 น. แต่ก่อนเวลา 17.00 น. น้ำก็ท่วมแล้ว ประชาชนอพยพไปไม่ทัน อาศัยอยู่ตามหลังคาบ้านเรือน สัตว์เลี้ยง หมู หมา เป็ด ไก่ ไหลไปตามกระแสน้ำ

ทั้งนี้ เพียงแค่ 2 ชั่วโมง ปริมาณน้ำจำนวนมากก็ไหลลงจากทางใต้ และไหลเข้าท่วมเมืองสนามไชยอย่างรวดเร็ว โดยที่ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมลำน้ำเซเปียนยังไม่ทันได้รับรู้ใดๆ ประชาชนหลายคนก็หนีน้ำไม่ทัน เก็บข้าวของ สัตว์เลี้ยงไม่ทัน ไหลไปกับน้ำ

โดยบริษัท เซเปียน-เซน้ำน้อย แจ้งว่า ขอแจ้งภาวะฉุกเฉินว่า สันเขื่อน D กำลังอยู่ในภาวะไม่ปลอดภัย อันเนื่องมาจากฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันในเขตการก่อสร้าง น้ำได้ท่วมล้นสันเขื่อน ถ้าหากสันเขื่อน D หักพังลงมา ปริมาณน้ำจำนวนมากกว่า 5 ล้านตัน จะไหลตามลำน้ำเซเปียน ดังนั้น จึงขอแจ้งประชาชนที่อยู่เลียบลำน้ำดังกล่าว ให้โยกย้ายออกไปเพื่อป้องกันความเสียหาย

เจ้าหน้าที่รับผิดชอบแก้ไขสภาวะฉุกเฉินน้ำท่วมแขวงอัตตะปืออีกราย กล่าวว่า ขณะนี้แขวงอัตตะปือ มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบนับพันคน ทั้งหมด 5 หมู่บ้าน โดยบ้านหินลาดได้รับผลกระทบหนักที่สุด และได้ย้ายออกจากพื้นที่ไปยังที่พักที่ทางการได้จัดสรรให้

ขณะนี้ ประชาชนจำนวนหนึ่งซึ่งยังไม่ทราบจำนวน ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือโยกย้ายมาอยู่ในที่ปลอดภัย เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความลำบาก เสื้อชูชีพก็มีไม่เพียงพอ

ส่วนกรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์ รายงานว่า ระหว่าง 23-29 ก.ค. ประเทศลาวยังมีฝนตกทั่วประเทศ บางพื้นที่ยังมีฝนตกหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ทางภาคกลางและภาคใต้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม

ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเขตเมืองสนามไชย แขวงอัตตะปือ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังให้ความช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัยน้ำท่วมออกมาจากเขตภัยพิบัตินั้นอยู่ เพราะยังมีชาวบ้านบางส่วนที่หนีน้ำท่วมยังติดค้างตามหลังคาบ้าน และเสาไฟฟ้า

นับตั้งแต่ได้ปฏิบัติการช่วยเหลือกู้ภัยตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 23 ก.ค. ยังไม่สามารถยืนยันตัวเลขผู้สูญหายและผู้เสียชีวิต แต่คาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตอย่างแน่นอน เพราะเวลากระแสน้ำมาแรง ลูกเมียหลายคนได้หายไปกับกระแสน้ำ ปัจจุบันคณะผู้รับผิดชอบช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเขตเมืองสนามไชย แขวงอัตตะปือ สามารถปฏิบัติการช่วยเหลือชาวบ้านออกจากพื้นที่ภัยพิบัติให้มาอยู่เขตที่ปลอดภัยได้เป็นส่วนใหญ่แล้ว ซึ่งได้นำชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมได้รวมตัวกันที่สโมสรของเมืองสนามไชย เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ประชาชน

ประชาชนกว่า 5 พันคนอยู่ในหมู่บ้านหินลาด บ้านใหม่ บ้านสนอง บ้านท่าแสง บ้านท่าหิน บ้านโคกกอง และหมู่บ้านตามแนวลำน้ำเซเปียน เมืองสนามไชย แขวงอัตตะปือ ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะน้ำท่วมกะทันหัน ประชาชนหลายพันคนต้องโยกย้ายออกจากพื้นที่ที่น้ำท่วมสูง

ขณะเดียวกัน แขวงอัตตะปือต้องการความช่วยเหลือน้ำดื่ม อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค แพทย์ และเรืออย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ขณะนี้ประชาชนที่ถูกโยกย้ายออกจากบ้านที่ถูกน้ำท่วมใน 5 หมู่บ้าน ก็ออกมาอยู่ในที่ที่ทางการจัดสรรให้อย่างปลอดภัยแล้ว แต่เนื่องจากประชาชนมีจำนวนมาก ทำให้ขาดสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง

โดยเฉพาะน้ำดื่ม ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค แพทย์ เนื่องจากมีเด็กจำนวนหนึ่งไม่มีเสื้อผ้าติดตัวมา กังวลว่าเด็กจะเป็นโรคปอดบวม อีกทั้งที่นอนของประชาชนที่โยกย้ายหนีน้ำท่วมก็ยังไม่เพียงพอ ส่วนหนึ่งนอนในวัด และโรงเรียนที่ไม่ถูกน้ำท่วม

เบื้องต้นเทศบาลแขวงอัตตะปือก็นำอาหารและเครื่องนุ่งห่มมาแจกจ่ายให้ประชาชนแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ส่วนแขวงเซกองก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยมาช่วยเหลือโยกย้ายประชาชนที่ถูกน้ำท่วมแล้ว แต่ยังมีประชาชนอีกจำนวนหนึ่งยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงเกินไป

ขณะเดียวกัน กองประชุมรัฐบาลแห่ง สปป.ลาว ในเดือนกรกฎาคม 2018 ได้หยุดกระทันหัน โดยนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว พร้อมด้วยคณะรัฐบาลผู้เกี่ยวข้องได้บินด่วนในเช้าวันที่ 24 ก.ค. เดินทางไปที่แขวงอัตตะปือ เพื่อลงไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ