เอสเค เอ็นจิเนียริ่งฯ บ.เกาหลีใต้ หุ้นส่วนโรงไฟฟ้าเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย ปฏิเสธสาเหตุเขื่อนแตกมาจากการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ย้ำยังไม่มีการยืนยันใดๆ ขอมุ่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วมก่อน ส่วนการค้นหาสาเหตุของอุบัติภัยครั้งนี้จะดำเนินการแยกต่างหาก
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ The Korea Herald ของเกาหลีใต้ รายงานเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ผู้บริหารของบริษัท เอสเค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรักชั่น (SK Engineering and Construction - SK E&C) หุ้นส่วนในโครงการเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อย ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าสาเหตุของเขื่อนแตกเป็นเพราะการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน
“ยังไม่มีการยืนยันใดๆ ถึงสาเหตุที่ทำให้เขื่อนพังลงมา พวกเราเชื่อว่าควรจะให้ความสำคัญกับภารกิจช่วยเหลือและการฟื้นฟูสภาพพื้นที่จากภัยน้ำท่วมเป็นอันดับแรกในตอนนี้” เจ้าหน้าที่ SK E&C คนหนึ่งกล่าว “ส่วนการค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ครั้งนี้ ควรจะดำเนินการแยกต่างหาก”
ทั้งนี้ คำให้สัมภาษณ์ของตัวแทน SK E&C ดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากนายคำมะนี อินทิลาด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ สปป.ลาว กล่าวระหว่างการแถลงเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ว่าการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานเป็นสาเหตุของเขื่อนแตกในครั้งนี้
สำหรับเหตุการณ์เขื่อนแตกที่แขวงอัตตะปือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมาทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน ตัวเลขขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันเป็นทางการ และมีผู้สูญหายอีกกว่า 1,000 คน พร้อมกับมีการตั้งข้อสงสัยถึงมาตรฐานการก่อสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้ามูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์โครงการนี้ ซึ่งดำเนินการโดยบรษัทร่วมทุนระหว่าง SK E&C, Korea Western Power Company Limited จากเกาหลีใต้, บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH จากประเทศไทย และรัฐบาล สปป.ลาว โดยเริ่มการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2556 มีกำหนดเริ่มการผลิตกระแสไฟฟ้าปี 2562
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ส่งทีมบรรเทาภัยพิบัติประกอบด้วยแพทย์ 15 คน และพนักงานสนับสนุนอีก 5 คน เพื่อดำเนินภารกิจฟื้นฟูและช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นเวลา 15 วัน
ส่วน SK E&C ได้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเกือบ 200 คนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพร้อมอุปกรณ์และสิ่งของมูลค่า 2 พันล้านวอน (ประมาณ 60 ล้านบาท) และกำลังก่อสร้างศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้ประสบภัย 7,000 คน โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 ก.ค. นายเช แทยอน ประธานกลุ่มบริษัท เอสเค บริษัทแม่ของ เอสเค เอ็นจิเนียริ่งฯ ได้เสนอความช่วยเหลือเป็นเงิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 330 ล้านบาท แก่รัฐบาลลาว