ชาวบ้านใต้เขื่อนเซเปียนฯ เล่านาทีระทึก พาภรรยาพร้อมตากับยายขึ้นเรือพายหนีน้ำ หลังเขื่อนแตก โดนกระแสน้ำพัดหวิดเอาชีวิตไม่รอด ยังดีที่ภรรยาคว้ากิ่งประดู่เอาไว้ แถมเจอวัวลอยมาตามกระแสน้ำ ต้องตัดใจเบี่ยงเรือหนีไม่ยอมให้เกาะ เพราะกลัวเรือล่ม
วันนี้ (28 ก.ค.) เฟซบุ๊ก สำนักข่าวเอบีซี ลาว ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการให้สัมภาษณ์ของ นายสมหมาย ชาวบ้านใหม่ เมืองสนามชัย แขวงอัตตะปือ ซึ่งอยู่ใต้เขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อย ในแขวงอัตตะปือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ถึงเหตุการณ์นาทีเอาชีวิตรอดจากกระแสน้ำที่พัดเข้ามาในหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว หลังเขื่อนแตกเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา
นายสมหมาย เล่าว่า ในวันนั้น เวลาประมาณ 4 โมงเย็น (หลังจากได้รับแจ้งเดือน) ได้ไปรับตากับยายมาที่บ้าน ส่วนหลานก็ขับรถไถไปเอาเสื้อผ้ามาเก็บที่บ้าน พอตนเอาของเก็บขึ้นบนบ้านหมดแล้ว ลงมาข้างล่าง พบว่าน้ำหัวแรกก็มา แล้วลดลง ก็เลยพาตากับยายออกไป ก่อนที่น้ำหัวที่สองจะมา โดยตั้งใจจะพาไปที่โรงเรียนมัธยม แต่พบว่าน้ำมาแรง ไปต่อไม่ได้ และมีคนบอกว่าให้เอาเรือกลับ ก็เลยพาตากับยายกลับไปที่บ้านของแก ส่วนนายสมหมายก็ไปที่บ้านของตัวเอง แล้วมองมาดูบ้านของตากับยาย พบว่าตรงครัวพังลงมาแล้ว เสาก็หัก 3 ต้น ฝาบ้านก็พัง 2 ฝา จึงไปเรียกให้ตากับยายลงมา เพราะมันอันตรายแล้ว
นายสมหมาย เล่าต่อว่า หลังจากนั้น ได้อุ้มตากับยายขึ้นเรือ โดยสั่งให้ภรรยาเตรียมหัวเรือไว้ให้ตรง พอตากับยายขึ้นเรือเสร็จก็รีบพายออกไป และออกไปถึงทุ่งนา ตาก็บอกให้ไปที่โรงเรียนที่มีไฟสว่างอยู่ แต่ตนไปไม่ไหวเพราะพายเรือจนหมดแรงแล้ว จึงถอยเรือกลับออกไปถึงทุ่งนา ไปเจอต้นประดู่ ตอนนั้นกระแสน้ำมา ตีหัวเรือจนตาต้องร้องด้วยความกลัวว่า “พวกเราคงตายอยู่ตรงนี้แล้วลูกเอ้ย” แต่พอดีว่าเรือไม่เป็นอะไร
“เมียของผมจับกิ่งประดู่ไว้ แต่ก็มีน้ำหัวใหม่มาอีก ตาก็ถามว่าจะไปยังไง ผมก็บอกว่าขอดูทางก่อน ต้องหาบริเวณที่เป็นที่ดอน แล้วก็มีวัวตัวหนึ่งลอยน้ำมาจะมาเกาะเรือเรา เราก็ไม่ให้เกาะเพราะกลัวเรือล่ม บังเอิญบริเวณนั้นผมพอรู้ เพราะเคยมาเลี้ยงวัว รู้ว่าตรงไหนมีที่เนิน ก็เลยพาไปอยู่ตรงนั้นจนปลอดภัย แล้วมีคนโทร.หา และมารับ”
ลุงสมหมาย เล่าต่อว่า มีหน่วยกู้ภัยมารับตอน 3 โมงเช้า โดยเอาเรือใหญ่มารับ แล้วพาข้ามเซเปียนไปรับผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ ต่อที่บ้านนาจาน และบ้านหินลาด
ขณะที่ยายบอกว่า ตอนที่อยู่บนเรือนั้นตาเป็นคนคอยวิดน้ำออกจากเรือ ส่วนตนเองก็คอยบอกลูกให้ตั้งสติดีๆ หาทางไปดีๆ ไม่ให้เรือล่ม และต้องคอยหลบต้นไม้ที่ไหลมากับน้ำ แต่ในใจก็คิดว่ายังไงก็รอด เพราะบริเวณนั้นไม่มีต้นไม้ใหญ่ และมีที่เนิน
ขณะที่ลุงหมายบอกเพิ่มเติมว่า ยังมีญาติพี่น้องในหมู่บ้านเดียวกันสูญหายอีก 8 คน และคิดว่าคงไม่รอดแล้ว เพราะคงจะถูกน้ำพัดไปแต่ไม่รู้ว่าไปทางไหน และอาจจะถูกโคลนทับไปแล้ว ส่วนสภาพจิตใจปัจจุบันก็ยังไม่ปกตินัก เพราะคิดอยู่ว่าต่อไปจะไปอยู่ที่ไหน แต่ก็คิดว่าถ้ายังไม่ตาย อะไรที่เสียไปก็คงหาได้ และพอใจการช่วยเหลือจากรัฐและทุกประเทศ