รอยเตอร์/เอเอฟพี - ระดับน้ำท่วมที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในพม่า ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 คน และทำให้ประชาชนอีกหลายหมื่นคนต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยของตนเอง ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รัฐบาลวันนี้ (29) ด้วยฝนมรสุมยังคงตกหนักต่อเนื่องในภูมิภาคนี้
ชาวพม่ากว่า 54,000 คน ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย หลังฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวันทำให้หมู่บ้านหลายแห่งจมอยู่ใต้น้ำ สะพานถูกกระแสน้ำพัดพังเสียหาย ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งจัดส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
เจ้าหน้าที่จากกระทรวงสวัสดิการสังคม ระบุว่า มีผู้อพยพเพราะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในทั่วประเทศกว่า 54,000 คน พร้อมยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิต 5 คน และคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้น
ประธานาธิบดีวิน มี้น เดินทางลงพื้นที่เขตพะโค ในภาคกลางของประเทศเพื่อเยี่ยมผู้ประสบภัยที่ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยในวันเสาร์ (28) และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเพิ่มการจัดเตรียมที่พักชั่วคราว และความช่วยเหลือให้มากขึ้น ด้วยคาดว่าจะมีประชาชนราว 100,000 คน ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
พื้นที่บางส่วนของพม่ามักประสบกับเหตุการณ์น้ำท่วมทุกปีในช่วงฤดูฝน ที่ยังทำให้เกิดดินถล่ม และสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในพื้นที่เกษตร และโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
คณะกรรมการการจัดการภัยพิบัติแห่งชาติได้ประกาศเตือนราษฎรที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำ และในพื้นที่ลุ่มต่ำให้อพยพออกจากที่อยู่โดยทันที เนื่องจากระดับน้ำสูงกว่าระดับอันตรายแล้ว สื่อทางการระบุวันนี้
รายงานยังระบุว่า ฝนที่ตกหนักยังทำให้กระแสน้ำพัดสะพานคอนกรีตในรัฐชานพังเสียหาย นาข้าว และถนนหลายสายในรัฐกะเหรี่ยงได้รับความเสียหายเช่นกัน
ส่วนรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศ ก็มีฝนตกหนัก น้ำท่วมถนนหลายสายภาพถ่ายทางอากาศที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ยังเผยให้เห็นน้ำสีโคลนปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง
สภากาชาดทวิตข้อความว่า ได้จัดส่งสิ่งของช่วยเหลือต่างๆ และโพสต์รูปอาสาสมัครกำลังช่วยเหลือผู้คนในพื้นที่น้ำท่วมไปยังพื้นที่ปลอดภัยด้วยเรือลำเล็ก ด้านสหประชาชาติระบุในคำแถลงว่า มีความห่วงใยอย่างมากต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“สหประชาชาติในพม่ากำลังระดมเจ้าหน้าที่ ทรัพยากร และกำลังความสามารถ และกำลังเสนอที่จะให้การสนับสนุนต่อความช่วยเหลือที่จัดส่งให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมโดยรัฐบาลพม่า” ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำพม่า ระบุ.
