ครูค้ำประกันให้นักเรียนกู้เงินกองทุน กยศ. เพื่อลูกศิษย์กว่า 60 คน มีการศึกษาที่ดี แต่ถูกลูกศิษย์อีกกว่า 30 คนเบี้ยวไม่ยอมจ่ายหนี้ สุดท้ายครูเจอหมายศาลฟ้องยึดทรัพย์ ช้ำหนักอาจถูกออกจากราชการ
เมื่อวันที่ 23 ก.ค. เฟซบุ๊ก “Tikky CM Peo” ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวน่าเห็นใจ หลับพบครูท่านหนึ่งได้เกิดความเดือดร้อนหลังได้เป็นผู้ค้ำประกันกองทุน กยศ.ให้นักเรียนได้กู้ยืมเพื่อใช้ในเรียนต่อจำนวนกว่า 60 คน นักเรียนบางส่วนชำระหนี้ตามที่ศาลสั่ง แต่มีนักเรียนกว่า 30 คน เมื่อจบมาแล้วไม่ชำระหนี้กองทุน กยศ. มูลหนี้รวมทั้ง 30 คน เกือบหนึ่งล้าน รวมดอกเบี้ย ค่าปรับมหาศาล ทำให้ กยศ.ต้องยื่นฟ้องศาล จำนวน 30 คดี เมื่อไม่สามารถติดตามหนี้ได้จากผู้กู้ ก็ต้องไล่บี้กับผู้ค้ำ ตอนนี้กรมบังคับคดีนำคำสั่งศาลตัดสินเพื่อยึดทรัพย์ผู้ค้ำประกันแล้ว 2 คดี คดีที่ 1 สั่งยึดบ้านและที่ดิน คดีที่ 2 สั่งยึดที่ดิน และคดีที่ 3 กำลังจะตัดสินเร็วๆนี้ ซึ่ง “ครูวิภา” มีอสังหาริมทรัพย์เพียง 2 อย่าง และถูกยึดไปแล้ว หากคดีที่ 3 ตัดสิน ทรัพย์ชิ้นสุดท้ายนั่น “ตำแหน่งทางราชการ”
โดยมีเนื้อหาโพสต์ “ลูกศิษย์” ทรยศ “ครู” (เจาะลึก) เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว “ครูวิภา” (ขอสงวนนามสกุล) เป็นข้าราชการครูสอนในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในจังหวัดกำแพงเพชร มีกองทุน กยศ.เปิดโอกาสให้นักเรียนได้กู้ยืมเพื่อใช้ในเรียนต่อ ด้วยระยะเวลาที่กระชั้นชิด และผู้ปกครองเดินทางมาโรงเรียนค่อนข้างลำบาก “ครูวิภา” ได้อาสาที่จะเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ กยศ. ให้กับนักเรียนจำนวนกว่า 60 คน หวังให้เด็กได้เรียนต่อ เรียนจบในชั้นสูงๆ และมีอนาคตที่ดี สิบปีผ่านไป ในปี 2551 “ครูวิภา” ก็ปฏิบัติหน้าที่ในราชการอย่างเสียสละทุ่มเท แต่วันหนึ่งมาหนังสือจากศาลให้ไปไกล่เกลี่ยในการชำระหนี้ ครูวิภา ในฐานะผู้ค้ำก็ต้องไปให้การกับศาล นักเรียนบางส่วนก็ชำระหนี้ตามที่ศาลสั่ง ครูวิภาก็คิดว่าเรื่องน่าจะจบ
เมื่อกลางเดือนกรกฎาคมมีเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีนำป้ายคำสั่งบังคับคดีมายึดบ้าน และที่ดินของ “ครูวิภา” ใจความว่า “บ้านและที่ดินถูกยึด ห้ามบุคคลเข้ามาดำเนินการใดๆ” ซึ่งตัวครูก็ไม่ทราบมาก่อนว่าเหตุใดถึงต้องมายึดทรัพย์ ยึดที่ดิน ที่เป็นมรดกชิ้นสุดท้ายที่พ่อแม่มอบให้ก่อนตาย
เมื่อเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีก็ทราบความว่า “ครูวิภา” ได้ค้ำประกันเงินกู้ กยศ.ให้กับ “นักเรียน” เมื่อหลายปีก่อน และมีนักเรียนกว่า 30 คน เมื่อจบมาแล้ว ไม่ชำระหนี้กองทุน กยศ. มูลหนี้รวมทั้ง 30 คน เกือบหนึ่งล้าน รวมดอกเบี้ย ค่าปรับ มหาศาลครับ ทำให้ กยศ.ต้องยื่นฟ้องศาล จำนวน 30 คดี เมื่อไม่สามารถติดตามหนี้ได้จากผู้กู้ก็ต้องไล่บี้กับผู้ค้ำ ตอนนี้กรมบังคับคดีนำคำสั่งศาลตัดสินเพื่อยึดทรัพย์ผู้ค้ำประกันแล้ว 2 คดี คดีที่ 1 สั่งยึดบ้านและที่ดิน คดีที่ 2 สั่งยึดที่ดิน และคดีที่ 3 กำลังจะตัดสินเร็วๆนี้ ซึ่ง “ครูวิภา” มีอสังหาริมทรัพย์ เพียง 2 อย่าง และถูกยึดไปแล้ว หากคดีที่ 3 ตัดสิน ทรัพย์ชิ้นสุดท้ายนั่น “ตำแหน่งทางราชการ” และถ้าคดีที่ 4 5 6 และคดีต่อไปไม่มีทรัพย์ให้ยึด ครูก็จะถูกฟ้องล้มละลาย “ครูวิภา” ก็จะถือว่าขาดคุณสมบัติการเป็นข้าราชการ ผลก็คือ “ให้ออกจากราชการ” นี่คือสิ่งที่ “ลูกศิษย์” มอบให้ครูที่สอนเขามา... บ้าน ที่ดิน ตำแหน่งราชการ หายไปในพริบตา
วันนี้ (23 กรกฎาคม 2561) คุณครูวิภา ได้มาติดต่อ กยศ. เพื่อไกล่เกลี่ย และชำระหนี้แทนลูกศิษย์บางส่วน แต่มูลหนี้กว่าหนึ่งล้าน ครูจะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้แทนลูกศิษย์ได้หมดดดดดด ที่น่าเจ็บใจที่สุด คือ เมื่อครูไปขอร้องให้ลูกศิษย์ไปจ่ายหนี้ กยศ. เพราะครูกำลังจะถูกยึดทรัพย์ “ลูกศิษย์” ยังมีหน้ามาบอกว่า “ครูก็ไปบอกศาลให้มายึดทรัพย์ผมสิ”
ช่วยกันแชร์ด้วยครับ แชร์ให้ถึงทนายสงกรานต์ หรือใครก็ได้ที่สามารถช่วยครูเขาได้ครับ"
อย่างไรก็ตาม กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. เป็นหน่วยงานของรัฐอยู่ในกํากับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีฐานะเป็นนิติบุคคล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาด้วยการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ในลักษณะต่างๆ ตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560