MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 7-13 ก.ค. 2561)
อันดับ 1 : Mission Possible 17 วันช่วยชีวิต "ทีมหมูป่า" ติดถ้ำหลวง
เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่โลกต้องจารึก หลังจากที่เยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมี่แม่สาย 13 ชีวิต ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย มาตั้งแต่บ่ายวันที่ 23 มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา ในที่สุดปฏิบัติการช่วยเหลือที่นำโดย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายฯ ได้นำนักดำน้ำนานาชาติ พร้อมกับนักทำลายใต้น้ำจู่โจม (หน่วยซีล) กองทัพเรือ และอาสาสมัครนับร้อยชีวิต ทยอยนำตัวผู้ที่ติดอยู่ในถ้ำ ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. เป็นต้นมา กระทั่งวันที่ 10 ก.ค. 18.30 น. นำคนที่ 13 ส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เป็นผลสำเร็จ รวมระยะเวลาที่ติดอยู่ภายในถ้ำยาวนานถึง 17 วัน
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวแถลงปิดศูนย์อำนวยการร่วมฯ เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ระบุว่า เป็น Mission Possible ที่ไทยสร้างชื่อเสียงระดับโลกจากภารกิจครั้งนี้ สิ่งสำคัญคือความสามัคคีทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศ รวมทั้งความร่วมมือทั้งเทคโนโลยี ความรู้ อุปกรณ์ต่างๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือการถอดบทเรียน เพราะเป็นการกู้ภัยในถ้ำที่น้ำเต็มเกือบ 100% พร้อมยกย่อง จ่าเอกสมาน กุนัน ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่เป็นวีรบุรุษตัวจริง สิ่งที่ทำให้บีบให้ลงมือนำผู้ที่ติดถ้ำทั้งหมดออกมา เพราะออกซิเจนภายในถ้ำเหลือ 15% อีกทั้งพายุฝนกำลังจะมา ขอเรียกร้องสังคมเห็นใจเด็กทั้ง 13 คน อย่ามองเป็นผู้ร้าย เป็นเพียงเหตุสุดวิสัย ที่เข้ามาในถ้ำแล้วออกมาไม่ได้
อันดับ 2 : #มิ๊งโป๊ะแตก "กัปตัน" รับมือลั่นไปเอง ชาวเน็ตจับผิด "ท้องไม่จริง"?
กลายเป็นแฮชแท็กที่ชาวเน็ตพร้อมใจกันจับตาไม่กระพริบ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ดารานักแสดงวัยรุ่น "กัปตัน ชลธร คงยิ่งยง" ที่เคยแถลงข่าวว่าอดีตแฟนสาว "มิ้ง ศวภัทร สุนทรนันท" ตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจไปก่อนหน้านี้ โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัวคำว่า "#มิ้งโป๊ะแตก" ทำเอาถูกตั้งข้อสังเกตว่ามิ้งอาจจะไม่ได้ตั้งครรภ์จริง พร้อมทั้งจับพิรุธหลายอย่าง และถามหาเอกสารเช่นใบฝากครรภ์ ขณะที่นักข่าวไปถามนางปุณณดา ไชยยงยศ แม่ของมิ้ง ศวภัทร ยืนยันว่าลูกสาวท้องจริง เมื่อไม่กี่วันเพิ่งจะไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ปรึกษาครอบครัว กัปตัน ชลธร เปิดเผยกับ MGR Online ยอมรับว่าเจ้าตัวเข้าไปอัปเดตข่าวในทวิตเตอร์ตามประสาเด็กและคงมือลั่น และพอรู้ตัวก็คงรีบลบไป ซึ่งได้ตอบกับครอบครัวว่ามือลั่น คงไม่ทำอีก ทางครอบครัวก็ไม่อยากให้ติดตามข่าวแล้ว เกรงว่าจะกระทบทั้งจิตใจและงานที่ทำ ส่วนเรื่องใบฝากครรภ์ทางครอบครัวยังไม่รู้ คิดว่าครอบครัวอยากเห็นแน่นอน แต่ไม่สามารถไปเร่งรัดได้เพราะอาจจะทำให้ไปกระทบจิตใจของอีกฝ่าย เชื่อเวลาจะเผยความจริงออกมาเอง อีก 1 เดือนน่าจะรู้ผล แล้วให้สังคมตัดสิน
อันดับ 3 : รักยิ่งใหญ่จากชายคนหนึ่ง เผยภรรยาใหม่ "บิ๊กจิ๋ว" แต่งรอบ 4-หย่าขาด "หญิงหลุยส์"
ฮือฮากันทั้งแวดวงการเมือง สำหรับอดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ วัย 86 ปี เมื่อเฟซบุ๊ก "บ้านอรทัยพลเอกชวลิต-อรทัย สรการ ยงใจยุทธ" โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 8 ก.ค. ระบุว่า "สำคัญที่สุดสำหรับที่เราใช้นามสกุลยงใจยุทธ 19 พ.ค. 2561" พร้อมกับภาพที่ฝ่ายหญิงมอบพวงมาลัยให้ พล.อ.ชวลิต และสวมนาฬิกาคู่กัน แถมอัพเดตรูปโปรไฟล์ใหม่เป็นภาพจับมือกับ พล.อ.ชวลิตอีกด้วย โดยเจ้าสาวคือ น.ส.อรทัย สรการ วัย 53 ปี บุตรสาวของนายนิพนธ์ สรการ อดีตนายกกำนันผู้ใหญ่บ้านสุราษฎร์ธานี และอดีตสมาชิกวุฒิสภา นับเป็นการแต่งงานครั้งที่ 4 ในชีวิตของบิ๊กจิ๋ว
ด้าน พล.อ.ชวลิต ยอมรับว่าเป็นภาพที่ตนได้แต่งงานกับหญิงคนดังกล่าวจริงเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา และได้อยู่ร่วมกัน ขณะนี้ตนได้หย่าขาดกับคุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้เป็นข่าว อีกทั้งได้ย้ายออกจากบ้านซอยปิ่นประภาคม มาซื้อบ้านใหม่ย่านเกษตร-นวมินทร์เพื่ออยู่กินกับหญิงคนดังกล่าว สำหรับภาพที่ปรากฎผ่านโซเชียลไม่ได้ออกมาจากฝ่ายหญิง แต่น่าจะออกมาจากผู้ไม่หวังดี ฝ่ายหญิงเป็นคนนครสวรรค์ ดูแลในช่วงที่สุขภาพไม่แข็งแรง เกิดความใกล้ชิดและรู้ใจกัน เลยตกลงใจอยู่ร่วมกันแบบสามีภรรยา
อันดับ 4 : ล้างไพ่นอมินีจีน! เรือล่มภูเก็ตสังเวย 47 ศพ "บิ๊กโจ๊ก" ล้างบาง
จากกรณีที่เรือท่องเที่ยว "ฟินิกซ์ พีซีไดฟ์วิ่ง" บรรทุกผู้โดยสารนักท่องเที่ยว 89 ราย ประสบอุบัติเหตุอับปางกลางทะเลอันดามัน บริเวณเกาะเฮ ต.ราไวย์ อ.เมืองฯ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 47 ราย เก็บกู้ขึ้นมาได้แล้ว 46 ราย อีก 1 รายถูกซากเรือทับร่างอยู่ก้นทะเล ส่วนผู้รอดชีวิตมี 42 ราย ซึ่งกองทุนเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้อนุมัติเงินช่วยเหลือรวม 64 ล้านบาท โดยผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินรวมรายละ 2.1 ล้านบาท ส่วนผู้บาดเจ็บค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 5 แสนบาท และเงินฟื้นฟูจิตใจ 2 หมื่นบาทต่อราย
ขณะที่การตรวจสอบบริษัท ทีซี บลูดรีม จำกัด ผู้นำเรือฟินิกซ์มาให้บริการ และบริษัท เลซี่ แคท ทราเวล จำกัด ผู้นำเรือเซเรเนต้ามาให้บริการนั้น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ระบุว่า ดำเนินคดีไปแล้ว 5 ราย พร้อมส่งรายชื่อข้าราชการที่ปล่อยปะละเลยอีก 4-5 หน่วยงาน โดยพบว่าแม้รูปแบบขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญจะถูกปราบปรามไปหมดแล้ว แต่ต้องตรวจสอบว่านายทุนชาวจีนใช้วิธีการว่าจ้างให้คนไทยเป็นเจ้าของบริษัท ในลักษณะเป็นนอมินีหรือไม่ หากปล่อยไว้ในอนาคตจะสร้างความเสียหายแก่ประเทศ
อันดับ 5 : ปิดฉากคดีคลองด่าน พี่ชาย "สุวัจน์" คุก 3 ปี-"วัฒนา อัศวเหม" ยังลอยนวล
ในที่สุดคดีมหากาพย์ทุจริตจัดซื้อที่ดินและฉ้อโกงสัญญาก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จ.สมุทรปราการ มูลค่าความเสียหาย 2.49 หมื่นล้านบาท ก็ปิดฉากลง เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ศาลฎีกาพิพากษาให้จำคุกผู้ต้องหา 11 คน ประกอบด้วย นายพิษณุ ชวนะนันท์ กรรมการบริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง และ นายรอยอิศราพร ชุตาภา กรรมการบริษัท เกตเวย์ดีเวลลอปเมนท์ คนละ 6 ปี ฐานร่วมกันฉ้อโกงซื้อที่ดิน 1.9 พันล้านบาท และฉ้อโกงสัญญาจ้างก่อสร้าง 2.3 หมื่นล้านบาท ส่วนกรรมการบริษัท คลองด่านมารีนฯ 3 คน บริษัท ปาล์ม บีชฯ 2 คน และนายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย ที่หนีคดีตั้งแต่ปี 2552 จำคุกคนละ 3 ปี ฐานร่วมกันฉ้อโกงซื้อที่ดิน
ส่วนนายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ (พี่ชายคนโตของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นักการเมืองผู้กว้างขวางในจังหวัดนครราชสีมา) กรรมการบริษัท ประยูรวิศว์การช่าง, นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการบริษัทสี่แสงการโยธา และนายนิพนธ์ โกศัยพลกุล กรรมการบริษัทกรุงธน–เอนยิเนียร์ จำคุกคนละ 3 ปี ฐานร่วมกันฉ้อโกงสัญญาจ้างก่อสร้าง โดยจำเลยทั้ง 11 คน ถูกนำตัวไปขังในเรือนจำ 5 คน ส่วนอีก 6 คน คือ นายรอยอิศราพร นายชาลี นายชยณัฐ และนายวัฒนา ให้ออกหมายจับเนื่องจากไม่มาศาล
อันดับ 6 : ทำไปได้! ใช้ใบหน้า "บิ๊กตู่" ลงทะเบียนซิมมือถือ ขายให้ต่างชาติ
เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับบิ๊กตู่ แอบอ้างชื่อไปลงทะเบียนซิมการ์ดครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) และเจ้าหน้าที่ กสทช. ร่วมกันจับกุม นายพีระเมศร์ วงศ์ทองเกื้อ อายุ 31 ปี เจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือในห้างสรรพสินค้า แห่งหนึ่งย่านพัทยาใต้ จ.ชลบุรี หลังเครือข่ายทรูมูฟเอช แจ้งว่าพบความผิดปกติในการลงทะเบียนซิมการ์ดเติมเงิน พบว่าใช้รูปภาพบัตรประชาชนและรูปหน้าตรงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 55 หมายเลข
เจ้าตัวรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงทะเบียนซิมการ์ด 55 หมายเลข ผ่านแอปพลิเคชั่นของ กสทช. โดยใช้ชื่อนายกรัฐมนตรีจริง อ้างว่าตอนลงทะเบียนใช้ชื่อลูกค้าแล้วทำไม่ได้ จึงคิดอยากลองใช้รูปคนดังอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ และสุ่มกรอกเลขที่บัตรประชาชน 13 หลักลงทะเบียนซิมแทน ก่อนนำซิมการ์ดไปขายให้ลูกค้า ส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ ในราคาใบละ 250 บาท จึงแจ้งข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยทุจริตหลอกลวง ซึ่งจะต้องรับโทษต่างกรรมต่างวาระกระทง 5 ปี ซึ่งอาจจะถูกจำคุกสูงสุดถึง 275 ปี
อันดับ 7 : หักปากกาเซียนเป็นแถบ! รอลุ้นแชมป์บอลโลก "ฝรั่งเศส VS โครเอเชีย"
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซียเป็นเจ้าภาพใกล้จะปิดฉากลงแล้ว โดยพบว่าทีมตัวเต็ง และทีมโปรดก่อนหน้านี้ ทั้งเยอรมนี อาร์เจนตินา สเปน บราซิล แม้กระทั่งเจ้าภาพรัสเซีย พากันตกรอบทั้งหมด แทบจะเรียกได้ว่าหักปากกาเซียน เหลือผู้ที่เข้ารอบชิงชนะเลิศเพียงแค่ 2 ทีม ได้แก่ ฝรั่งเศส ที่เคยได้แชมป์ฟุตบอลโลกปี 1998 กับ โครเอเชีย ที่ไม่เคยได้แชมป์ฟุตบอลโลกมาก่อน เจอมา 4 ครั้งชนะฝรั่งเศสไม่ได้สักที ซึ่งจะแข่งขันกันในคืนวันที่ 15 ก.ค. ส่วนทีมที่ได้อันดับ 3 คือ เบลเยี่ยม เอาชนะอังกฤษไป 2 ประตูต่อ 0
ขณะที่ในประเทศไทย แม้กระแสฟุตบอลโลก 2018 มีประชาชนร่วมสนุกทายผลฟุตบอลโลกอย่างคึกคัก โดย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ยอดจำหน่ายไปรษณียบัตรทายผลฟุตบอลโลกอย่างไม่เป็นทางการอยู่ที่ 230 ล้านฉบับ จังหวัดที่มียอดจำหน่ายสูงสุด คือ ชลบุรี 4.1 ล้านฉบับ สมุทรสาคร 2.4 ล้านฉบับ นครปฐม 2 ล้านฉบับ ส่วนกรุงเทพมหานคร ยอดขายมากที่สุด คือ ปณ.คลองจั่น 2.7 ล้านฉบับ ปณ.สามเสนใน 2.5 ล้านฉบับ และพระโขนง 2.2 ล้านฉบับ โดยจะจับรางวัลในวันที่ 8 ส.ค. รางวัลใหญ่คือเงินสด 10 ล้านบาท